หลังจากที่ท่านVenom-Crusherได้ให้ผมยืม Razer Onza Tournament ซึ่งเป็นจอยXboxและสามารถเชื่อมต่อกับpcได้โดยไม่ต้องลงdriverเพราะเขามี xinput สะดวกสบายกับเกมใหม่ๆมากครับ และผมก็มีจอย Logitech F510 ซึ่งมี xinput มาเป็นคู่เปรียบเทียบด้วยครับ
วันนี้ก็ได้ฤกษ์รายงานผลการใช้งานแล้วครับ อิอิ ต้องบอกก่อนเลยครับว่ารายงานการใช้งานทั้งหมดเป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ
ด้านหน้าครับ
ด้านข้าง
ด้านบน
ด้านหลังOnza
ด้านหลังF510
มืดๆสวยมากครับสำหรับOnza
แบบดั้งเดิมกับTournament
Razer Onza Tournament
สัมผัสแรกที่ได้จับคือดูดีมากๆครับ พื้นผิวเคลือบยางแบบที่พบได้กับเมาส์Razerสัมผัสแล้วรู้สึกดีครับ แต่ก็ติดผุ่นง่ายมากขึ้นเหมือนกัน
สายถักยาว4.5เมตร(ตามเวปไซต์Razorแจ้ง) สำหรับสายนี่ผมว่ามันยาวเกินไปเพราะผมเสียบกับคอมตรงfront panel ทำให้ค่อนข้างรกและเกะกะ แต่น่าจะเหมาะกับคนใช้xboxแล้วนั่งเล่นไกลๆจอ
แกนอนาลอคทั้งสองก้านพื้นผิวเป็นยาง(เหมือนจอยดั้งเดิมครับ ซึ่งใช้นานๆไปมันจะสึกลงอย่างแน่นอน)สามารถหมุนตรงส่วนปลายเพื่อปรับความไวในการคืนตัวของแกนanalogได้ครับ มี2ระดับ ผมชอบแบบคืนตัวไวมากกว่าครับ(ความรู้สึกต่างกับคืนตัวช้าไม่มาก) ด้านปุ่มเรืองแสง(A B X Y) Razerบอกว่าใช้แบบmechanical กดแล้วจะมีเสียงคลิกๆ ช่วงกดตื้นเหมาะกับนักเล่นประสาทไวน่าจะมีส่วนทำให้รัวได้มากขึ้นไวขึ้น ตอนแรกใช้ไม่ชินครับสำหรับผม เพราะจอยที่ผ่านมามือมาทั้งหมดช่วงกดจะลึกแล้วพวกเกมส์ต่อสู้เนี่ยจะต้องกดลึกๆย้ำๆ ท่านใดเล่นเกม
แนวต้อสู้คงพอนึกภาพออก ต้องปรับตัวอยู่พอสมควร เจอจอยช่วงกดตื้นมันรู้สึกไม่สะใจยังไงบอกไม่ถูก เง้อ
ปุ่มบังคับทิศทางเป็นแบบธรรมดานะครับ ไม่ใช่mechanical แยก 4 ปุ่มชัดเจน
ปุ่มพิเศษของจอยนี้คือปุ่มremapซ้าย-ขวาสองด้าน สามารถเซทให้เป็นปุ่มไหมก็ได้ โดยกดปุ่มremapด้านหลังจอยค้างไว้แล้วกดปุ่มที่ต้องการใช้ เท่านี้ก็เป็นการเซทปุ่มremapแล้วครับ ส่วนตัวมองว่าค่อนข้างเกะกะ เพราะบางทีจะกดRB LBดันไปกดปุ่มremap ผมเลยเซทให้มันเป็น LB RB ซะเลย ฮ่าๆ ปุ่มstart กดได้ค่อนข้างยากครับ ไม่สะดวกมือ จะมองเป็นข้อดีก็ได้ว่าไม่มีกดพลาดระหว่างเล่นเกมแน่นอน ปุ่ม LT RT มีลักษณะโค้งยาวกว่าจอยxboxปกติครับ ความรู้สึกเบากว่าด้วย ส่วนตัวชอบความรู้สึกของจอยแบบดั้งเดิมมากกว่า ของRazerเบาไปนิด
Logitech F510
ทีนี้มาดูด้านF510กันมั่งครับ จอยตัวนี้ผมซื้อมาเพราะจอยXboxดั้งเดิมเล่นเกมแนวต่อสู้ได้กากมากครับ เลยซื้อตัวนี้หวังจะเล่มเกมต่อสู้ได้สนุกขึ้น และก็ไมทำให้ผิดหวัง ข้อดีคือให้ความรู้สึกเหมือนๆกับจอยPS2ที่คุ้นเคยครับ จับถนัดทันทีที่แกะกล่อง ผิวของจอยด้านหน้าเป็นพลาสติก ด้านหลังเป็นยาง แกนanalogตรงส่วนสัมผัสเป็นยางและคืนตัวไวกว่าxboxเยอะครับ สายไม่ยาวมากนักแต่ก็พอเหมาะกับการเล่นกันหน้าคอมครับ LT RT สั้นกว่าOnza(ไม่เหมาะกับเกมขับรถเท่าOnza) แต่น้ำหนักของปุ่มให้ความสู้สึกที่ดีกว่าคือยิ่งกดลึกยิ่งหนัก ใครที่เล่นเกมขับรถจะเข้าใจครับ แต่ก็สามารถปรับตัวให้ชินได้
มีปุ่มให้เลือกว่าจะใช้แกนอนาลอคบังคับทิศทางหรือจะใช้padบังคับทิศทาง ส่วนตัวมองกว่าเกือบดีครับ(ช่วงหลังผมจะบอกว่าทำไม?) มีปุ่มกดเพื่อทดสอบการสั่น(เป็นปุ่มที่กดพลาดมาโดนบ่อยเวลาจะกดปุ่มstart เสียจังหวะการเล่นได้ง่ายๆ) ด้านหลังมีให้สลับโหมดระหว่าง xinputกับLogitech Driver (ใช้กับเกมเก่าๆที่ยังไม่รู้จัก xinput ) ปุ่มบังคับทิศทางเป็นpadชิ้นเดียวกันครับ เหมาะกับเกมาที่ต้องกดท่ามากๆเพราะไถได้ อิอิ ใครได้เล่นสมัยเล่นFamicomจะรู้ดีครับ ไถกันมือพอง เกือบลืม กลางจอยที่มีสัญลักษณ์Logitechคือปุ่ม X ที่อยู่บนจอยXBOXนั่นเองครับ
ทดสอบกับเกมส์
เกมแรกที่ทดสอบคือ Devil May Cry 4 เป็นแกมที่ใช้ LT RT LB RBบ่อยและต้องการความแม่นยำในการกดเพื่อเปลี่ยนอาวุธ ซึ่งOnzaที่มีปุ่มremapเข้ามาทำให้กดพลาดได้บ่อยและเก้งก้างกว่า ต่างกับF510ซึงคล่องตัวกว่า การเคลื่อนที่ด้วยแกนanalogก็ว่องไวกว่าด้วย อาจเป็นเพราะผมยังไม่คุ้นกับOnzaแต่ก็ได้ลองอยู่หลายรอบกับBloody Palace แต่ผลก็เหมือนเดิมคือไปไกลๆได้พอๆกันกับF510แต่ความสนุกมือ F510กินขาด
เกมที่สองที่ได้ทดลองคือ Need for Speed ภาค Hot Pursuit
หลังจากที่รู้สึกผิดหวังกับOnza เกมส์นี้Onzaได้คะแนนกลับมาอย่างดีเยี่ยมด้วยแกนanalogที่แม่นยำ(กว่าจอยxboxดั้งเดิมอย่างเห็นได้ชัด) การบังคับทิศทางเป็นไปตามต้องการ RTโง้งๆช่วยให้การกดคันเร่งง่ายกว่าF510ซึ่งมีRT-LT(คันแร่ง-เบรค)แบบหางสั้นอย่างมาก แต่ก็ใช้ว่าF510จะไม่สามารถเล่มเกมขับรถได้นะครับ แต่ต้องปรับตัวอยู่พอสมควรกับanalogที่คืนตัวไวมากไปสำหรับเกมขับรถ เกมนี้Onzaช่วยให้ผมเล่นได้ดีขึ้นมาก ผ่านกันง่ายๆใน1-2ครั้งต่อด่าน(ในหลายด่านแรก) จากแต่ก่อนที่เล่นจอยดั้งเดิมที่ต้องเล่นกันหลายรอบในแต่ละด่าน
มาเกมสุดท้ายคือเกม Melty Blood : Actress Again
เกมต่อสู้แนวๆ Street Fighter ที่ผมต้องซื้อF510มาเพราะทนเล่นกับจอยxboxดั้งเดิมไม่ไหว ในตอนแรกที่ลองกับเจ้าOnza ผลออกมาไม่ดีเอาเสียเลย สู้cpuไม่ค่อยไหว หรือได้ก็ปางตาย ส่วนด้านF510เป็นจอยที่เกิดมาเพื่อเกมต่อสู้แนวนี้จริงๆทั้งการควงanalogเพื่อกดท่า ปุ่มโจมตี (A B X Y)แบบลึกๆที่คุ้นเคย แต่ที่ยังผิดหวังกับF510คือต้องเลือกระหว่างการบังคับทิศที่ดีกว่าหรือการควงท่าด้วยแกนanalogที่สะดวกกว่า เพราะไม่สามารถใช้analogกับแป้นบังคับทิศทางพร้อมกันได้ -*- ถ้าเลือกใช้แป้นบังคับจะควบคุมการเคลื่อนที่ตัวละครดีกว่าเพราะเมื่อกดการเคลื่อนที่ไปในทางเดียวกันซ้ำๆกันจะสามารถสไลด์ได้(เคลื่อนที่คล่องตัวขึ้นมาก) ในขณะที่แกนanalogทำไม่ได้ แต่แกนanalogก็เหนือกว่าจากการควงเพื่อกดท่าไม้ตายได้ง่าย ถ้าปรับปรุงตรงจุดนี้ได้F510จะเป็นจอยเพื่อเกม fighting ที่เยี่ยมยอดมาก
ผลของF510 พลังเหลือน้อยเพราะเซทไปโหมดโหดสุด หรือเพราะผมอ่อนกันนะ
Onzaเริ่มแสดงผล เมื่อเราคุ้นกับมัน
แต่หลังจากที่ประทับใจOnzaกับ Hot Pursuit ได้ลองกลับมาทดสอบกับ Melty Blood อีกครั้งคราวนี้ผลออกมาสูสีคู่คี่กับF510เลยครับ ตรงนี้ขอบอกว่าผลออกมาดีครับ คือผมสามารถสู้กับcpuได้พอๆกับการใช้F510 แต่ความถนัดมือหรือความสะใจยังยกให้ F510
สรุป
Razer Onza เป็นจอยที่ต้องใช้เวลาปรับตัวครับถึงจะเห็นผลต่าง เป็นจอยที่เหมาะกับเกมส์ขับรถหรือเครื่องบินมาก ราคาต่างกับจอยแบบดั้งเดิมอยู่ 6-7ร้อยบาท(ราคาแตะ2พันบาท) สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมากก็คือความแม่นยำของแกนanalog ปุ่มที่สวยงาม ผัมผัสที่กระชับกว่า ตรงจุดนี้มีผลครับเพราะจอยดั้งเดิมนี่เวลาเล่นแล้วเหงื่อมือออกมันลื่นเหมือนกันต้องคอยเช้ดมือระหว่างเล่น แต่จอยที่ผิวเป็นยางก็ต้องเผื่อใจเหมือนกันว่าสักวันมันอาจจะลอก ส่วนรุ่นOnzaธรรมดาที่ถูกกว่าจะถูกตัดออกไปคือ1.ปุ่มเรืองแสง 2.คันโยกปรับความไวการคืนตัว 3.ตัวจอยไม่เคลือบยาง 4.สายไม่ถัก
ส่วนF510 เป็นจอยที่เหมาะกับfightingเลยครับ ถ้าจะเล่นแนวนี้มองข้ามไม่ได้ทีเดียว ราคา9ร้อยปลายๆ ผมมองว่ากินจอยxboxแบบดั้งเดิมขาดกระจุย ก่อนนี้ก็ใช้เล่นเกมHot Pursuitมาเหมือนกัน ไปวัดไปวาได้ครับ ถ้าคุ้นเคยกับการบังคับ หรือใครงบจำกัดจริงมองF310ดูครับ เห็นว่ามีxinputเหมือนกันแต่ไม่มีสั่น
ขอขอบคุณ Venom-Crusher จาก Vmodtech ที่เอื้อเฟื้อ Razer Onza Tournament ครับ
ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยครับ