หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 13   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ  (อ่าน 141526 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #60 เมื่อ: 04 กันยายน 2009, 23:08:46 »

เรื่องเพลงนี่ลองหมดทุกตัวแล้วครับ ที่ใช้ Asio ได้ ผมทำอย่างนี้ครับ

ผม Rip เพลงจาก CD ใช้ Media Center นี่หละครับ Set ให้มันอ่านช้าหน่อย Function อะไรจำไม่ได้ครับ แผ่นนึง Ripp เกือบ 40 นาที มันดีเพราะทำ Tag รูปได้ ปรับแต่งชื่อเพลง เปลี่ยนรูปอัลบั้มได้ ข้อเสียคือ ถ้าแผ่นเราไม่มีในฐานข้อมูลมันจะเอาอะไรไม่รู้มาใส่ให้ ต้องแก้มือเอง ถ้าเผลอไปกด Update Albumn info มันเปลี่ยนที่เราทำไว้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ต้องระวัง เสร็จแล้วมา Upsampling เป็น 176/24 ใช้ Cirlinca แล้วใช้ Foobar Asio เล่นกลับครับ

ถ้าใช้ Foobar หรือ MonkeyMedia Rip ฐานข้อมูลมันเยอะกว่า MS  โดนเฉพาะ MediaMonkey แต่ไม่มีฐานข้อมูลรูป Albumn ครับ (หรือผมยังใช้ไม่เป็นไม่รู้)  jap

อ้อ ใน Control Panel ของ Prodigy HD2 มันมีโปรแกรม Bypass KMix แถมมาให้ด้วย แต่ใช้บน Win7 แล้ว Function บางตัวใช้ไม่ได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2009, 15:55:05 โดย Suhanna » บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #61 เมื่อ: 05 กันยายน 2009, 00:40:54 »

เมื่อกี้ไปลองฟัง ลอง Set ใหม่ครับ Burn มาครบ 50 ชม. แล้ว  jap

เจอสองปัญหา แก้ยากแน่ๆ คือ มันมีกำทอนห้องแถวๆ ต่ำกว่า 100 Hz นิดหน่อย ลองฟัง Classic ทิมปานี่มันเขย่าห้อง เขย่าฝ้า อื้ออึงไปหมด กับ อีกที จุดนั่งฟังเป็นจุดอับเสียงเบสบางความถี่ครับ สังเกตุเสียงกลองมันแป๊กๆ ลองเดินฟังดูรอบห้อง พบว่าบางจุดเสียงเบสชัดมาก แต่ดันอยู่หลังลำโพงด้านติดกำแพง พอเดินออกมาหน้าลำโพงเสียงเบสมันหายไปดื้อๆ สงสัยต้องหาตัวช่วย วันอาทิตย์คงต้องไปบ้านบางนา เอาแท่นเครื่องเสียง กระบะทราย Tipto Spike กับขน Room Tune บางส่วนมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนครับ

ได้ลอง Set ที่ตั้งลำโพงใหม่ครับ เอาแบบจริงจังขึ้นอีกนิด แผ่น Set เครื่องเสียงผมไม่เหลือแล้วด้วย โดนทุบรถภรรยาเอาไปหมดเลย รวมถึงบางแผ่นที่หาเท่าไหร่ก็ไม่มีอีกแล้ว มาแนะนำแผ่นสำหรับ Set เสียงนักร้องผู้หญิง Style Jazz & Swing นิดๆ สักสองแผ่นกันครับ เป็นของค่าย TBM XRCD 20 Bit ครับ นักร้องญี่ปุ่น ร้องภาษาอังกฤษไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ได้อารมณ์ดี เสียงเครื่องดนตรีมีครบแทบทุกความถี่ มิติสุดยอด โดยเฉพาะของ MARI ทุกเพลงตำแหน่งเครื่องดนตรีจะอยู่ที่เดิม ฟังไปย้ายลำโพงไป ไม่ต้องมานั่งฟังเพลงเดิมซ้ำๆให้เสียอารมณ์ ส่วนของ Ayako นี่อัดหลายครั้งหลายเวลา ตำแหน่งเครื่องดนตรีจะสลับกันไปตามเพลง แต่เสียงเครื่องดนตรีโดยเฉพาะเบสกับ Sax นี่ที่สุดที่ผมเคยฟังเลย กับเจ้าหนูTampของผมสั่นเพดานห้องจนกระพือเห็นๆ  ถ้า Set ให้ฟังเสียงเบสได้ชัด ก็ถือว่าเรื่องเสียงเบสจบแล้วครับ เห็นเซียนเมืองไทยเค้าว่า Hunter เบสดี ต้องเจอแผ่นนี้ครับ เบสลึกและชัด  แต่ต้องของ TBM นะ เพราะหลังๆ Ayako ไปทำเพลงกับค่ายอื่น คุณภาพการอัดไม่เท่าไหร่ ตัวแผ่น Ayako Albumn นี้ผมเห็นแผ่นจีนมีอยู่เยอะเลย ลองซื้อมาฟังดูกันก่อนก็ได้ครับ แต่ของ MARI นี่หลังจากได้มาสักสิบปีที่แล้วผมไม่เคยเห็นอีกเลย





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2009, 01:58:14 โดย Suhanna » บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #62 เมื่อ: 05 กันยายน 2009, 00:59:47 »

จริงๆผมอยากชวนเซียนทั้งหลายมาช่วยกันฟังหนะครับ คงห้องเสร็จก่อน เพราะตอนนี้ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องหูตัวเองเท่าไหร่
แต่ยิ่งฟังลำโพงคู่นี้ยิ่งชอบครับ love

การ Set ลำโพงคู่นี้พอจับหลักลำโพงกับห้องได้ ง่ายมาก ฟังสองแผ่นนี่จบเสร็จพอดี แล้วคงฟังแผ่นอื่นไปเรื่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆจนเป็นกลางกับเพลงทุกประเภทที่ผมชอบฟัง  jap

เริ่มต้นการ Set จากตำแหน่งเดิมที่ฟังเมื่อเช้า ห่างผนัง 1.44 เมตร ลำโพงห่างกัน 2.05 เมตร

Fine Tune ผมใช้หูอย่างเดียว ไม่ใช้ตลับเมตรวัด เอาจนพอดีแล้วค่อยวัดจดเอาไว้ สองข้างห่างผนังไม่เท่ากันไม่ซีเรียสครับ เชื่อในหูตัวเองไว้ก่อน ค่อยๆขยับไปทีละสองสามเซ็นก่อน แล้วค่อยละเอียด

ผมมีวิธี Set ที่ไม่ค่อยเหมือนในตำราฝรั่งหรือชาวบ้านเค้า เริ่มต้นผมฟังเสียงร้องผู้หญิงเลย ดังกว่าปรกติฟังเล็กน้อย แล้วฟังตำแหน่งเสียงร้องเอาครับ ถ้าเสียงร้องเอียงซ้าย ปรับลำโพงข้างซ้ายออกไป ถ้าเอียงขวา ก็ปรับลำโพงซ้ายเข้ามา ผมจะไม่ยุ่งกับลำโพงด้านขวา (ด้านติดกำแพง)ในตอนนี้เลย พอได้เสียงอยู่กลางที่นั่งฟังพอดีแล้ว ไปจูนความสูงของเสียงร้องผู้หญิงต่อครับ นั่งฟังอยู่ เสียงจากนักร้องต้องยืนครับ สูงกว่าระดับสายตาเวลานั่งพอควร ถามว่าแค่ไหน ประมาณสัก 130 ซม.มั้ง สำหรับห้องนี้ ขยับเข้าไปชิดกำแพงตำแหน่งเสียงร้องจะสูงขึ้นครับ พอได้ความสูงพอดีต้องการแล้วค่อยมาฟังมิติ กับ ความเข้มของเสียง ถ้าเสียงบางขยับทั้งสองข้างเข้าหากัน จะชัดขึ้นค่อยๆทำครับ เสียงและรายละเอียดต่างๆจะค่อยๆชัดชึ้นเรื่อยๆ พอชัดแล้วฟังดีๆความสูงเสียงร้องมันจะเตี้ยลงไปอีก ดันมันเข้าหากำแพงอีกครับ เสียงก็จะสูงขึ้น ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนคิดว่าได้เสียงดีที่สุดแล้ว ระหว่างนี้ก็ฟัง Mari ไปเรื่อยๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2009, 13:36:45 โดย Suhanna » บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #63 เมื่อ: 05 กันยายน 2009, 01:26:44 »

ถ้าขยับเข้าหากันมากไปเสียงร้องจะเตี้ยกว่าระดับสายตามาก ทางที่ดีให้เงยหน้าฟังไว้ครับ ถ้ารู้สึกว่านักร้องยืนร้องอยู่ใช้ได้แล้ว เวลาขยับลำโพงเข้าหากันเพิ่มความชัดกับความเข้ม เวลามันได้ที่ เสียงต่างกันฟ้าราวเหวครับ เซ็นเดียวรู้สึกชัดเอามากๆ เสียงเข้มชัด แผ่น MARI นี่รายละเอียดเสียงเยอะมาก เหมือน MARI ยืนร้องอยู่กลางวง จนบางทีรู้สึกว่ามันมั่วกันไปเลย เสียงอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ถ้าขยับจนรู้สึกแบบนั้นถูกแล้วครับ ถ้ามีเสียงร้องนำเข้มไป รายละเอียดรอบข้างยังไม่ดีถือว่าไม่ลงตัวครับ อิอิ

เสร็จแล้วนั่งพักเหนื่อย Enjoy Music ครับ จะพบว่า ......
เสียงกีตาร์จะหลุดออกมาอยู่ที่หน้าลำโพงด้านซ้าย (หันหน้าเข้า) ครับเวทีมันออกมาข้างหน้าได้แล้ว ถัดไปเป็น เบสครับ อยู่หลังกีตาร์แต่ก่อนคนร้อง ชัดเจนแบบเกือบจับกันได้เลย(น่าจะเป็น Upright Bass)  Sax (บางเพลง) จะอยู่หน้าเบสนิดหน่อย ส่วนกลองแผ่นนี้จะแปลกคือจะอยู่มุมขวาในลักษณะลึกมากหันข้างให้เรา นอกแนวลำโพงด้านหลังขวา เหมือนคนตีถูกลำโพงขวามือบังอยู่ มีระดับความสูงของกลองเล็กใหญ่ ถ้า Set ได้ที่จะพบว่ามีความสูงต่ำของแม้กระทั่งฉาบแต่ละตัวอย่างชัดเจน ส่วนเปียนโนเสียงจะลอยๆอยู่ระดับของจริงระหว่างคนร้องกับหน้ากลองในบางเพลงครับ โทนเสียงรวมๆ เสียง MARI จะไม่ดังมาก เสียงดนตรีจะเหมือนเราฟังสดอยู่ข้างๆวง ดูออกจะมั่วเล็กๆด้วย (ใครเคยไปนั่งฟังเพื่อนซ้อมดนตรีในห้องซ้อมได้อารมณ์ประมาณนั้นเลยครับ)

ได้แค่นี้จะพบว่าหายเหนื่อยแล้ว เพลงสุดท้ายจบแล้ว ปาฏิหารย์มีจริง อยากให้มาฟังด้วยกันจริงๆครับ  smile
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2009, 13:35:22 โดย Suhanna » บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #64 เมื่อ: 05 กันยายน 2009, 01:54:14 »

เสร็จจาก MARI ก็มา Enjoy AYAKO ต่อครับ ใส่แผ่นเข้าไป นั่งฟัง ถ้าพบว่าตำแหน่งเสียงร้องเกือบจะเป็นตำแหน่งเดียวกันเลย ถือว่าใช้ได้สำหรับเพลง JAZZ ทั่วๆไปแล้วครับ  เสียง SAX ของแผ่น AYAKO จะต้องชัดได้ยินเสียงลมออกจาก SAX ตำแหน่งจะอยู่ที่ลำโพงซ้ายครับ เหมือนเสียงลำโพงออกข้างเดียว (อันนี้เครื่องเราปรกติ) กลองจะย้ายมาอยู่ตรงกลาง แต่ให้ฟังเสียงเบสจากแผ่นชุดนี้ครับ มันจะลึกเอามากๆ ถ้าเพดานสั่น หรือ มีเสียงสั่นประหลาดๆออกจากเฟอร์ในห้องเรานี้แสดงว่ามี Standing Wave แน่นอน ให้เลื่อนลำโพงทั้งคู่เข้าหากำแพงครับ นิดเดียวเท่านั้น แต่ถ้ามันบางมากไปก็เลื่อนออก จุดพอดีผมว่าถ้า MARI ได้แล้ว ไม่น่าเลื่อนลำโพงเข้าหรือออกเกินสองเซ็นครับ ฟังเบสเอา ต้องลึก มีอาการสั่น และ ยังฟังเป็นโน๊ตอยู่ (คือรับรู้เสียงสูงต่ำหนะครับ) แค่นี้ก็สุดๆแล้ว สำหรับห้องที่ไม่มี Roomtune

ปิดท้ายหาแผ่นเพลงคลาสสิคอะไรก็ได้ครับ มาลองเปิดฟัง จะมากหรือน้อยชิ้นก็ได้ จะพบว่าลำโพงมันหายตัวได้แล้ว มีแต่เสียงดนตรีในอากาศ จะไม่มีความรู้สึกเลยว่า เสียงมันออกมาจากลำโพง ถือว่าจบแล้วสำหรับ Set ลำโพงสำหรับเพลง Jazz ร้องหวานๆ ลองเอาเพลงร้องอื่นๆมาฟังดู จะพบว่ามันเพราะ และมีรายละเอียดขึ้นอีกเยอะเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2009, 02:05:03 โดย Suhanna » บันทึกการเข้า
numz
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2416


สะสมหลอดใว้ให้ลูกหลาน

skylinev_spec@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #65 เมื่อ: 05 กันยายน 2009, 02:58:04 »

เยี่ยมไปเลยครับ
บันทึกการเข้า

Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #66 เมื่อ: 05 กันยายน 2009, 13:26:01 »

ถ้าเผอิญมีคนหลงเข้ามาอ่านที่ผมเขียน อาจหาว่าผมโม้เนาะว่า แค่เลื่อนลำโพงเข้ากำแพง เสียงมันจะสูงขึ้นได้อย่างไร ลองดูรูปข้างล่างนี่หน่อยครับ รูปสุดท้ายแล้ว (วันจันทร์คงต้องทำงานแล้วครับ อู้มานาน)  lol



การ Set หรือออกแบบห้องฟัง ยากที่สุดคือการจัดการเรื่องเพดานครับ (ที่ผมต้องระเบิดหลังคา ทำฝ้าใหม่ก็ประการนี้แล) รูปที่ว่านี่เป็นสองมิติเท่านั้น ในความเป็นจริงสองลำโพงมันเสียงมันจะวิ่งเป็นเส้นตรงจุดตกกระทบจะเป็นจุดเท่านั้น ต้องดูรูปตัดจากด้านบนช่วยด้วยถึงจะพอทราบจุดตกของเสียงที่แท้จริง แต่เอารูปนี้อธิบายกันไปก่อนละกัน

เสียงจากลำโพงที่มีผลกับการฟังจะวิ่งสะท้อนพื้นและผนังเข้าหาเรา อย่างน้อยสี่ทิศทาง แต่ละทิศก็ให้ความสำคัญในแต่ละมิติการฟังด้วยครับ เส้นด้านบนสองเส้นคือสีเขียวกับสีฟ้าจะมีผลกับ ความสูงของเสียงโดยตรง  เลื่อนลำโพงเข้าหากำแพง จะเปลี่ยนมุมพวกนี้ด้วย (เล่นสนุกเก่งๆ คงมองออก) การเลื่อนลำโพงเข้าหรือออกจากกำแพงมันจะทำให้ความยาวสองเส้นนี่เปลี่ยนไป ถ้าความยาวของทั้งสองเส้นลงตัวกับความถี่เสียงร้องพอดี เสียงร้องจะชัดขึ้น มีความสูงครับ ห้องฟังโดยมากจะซับเสียงเส้นสีชมพูทิ้ง เห็นจากวัสดุซับเสียงที่ไปปะบนเพดานนั่นหละครับ ส่วนเส้นสีเขียวมันจะดังน้อยกว่าเส้นสีชมพู แต่สามารถเพิ่มอัตราการสะท้อนได้ โดยการเอารูปภาพกรอบกระจกไปวางไว้ที่กำแพงหลังลำโพงในตำแหน่งตกกระทบพอดี ช่วงหลังนี่ผมเห็นห้องฟัง(หรือเปล่าเนี่ย)ในWebของ Hifi Mod เอารูปกรอบกระจกไปติดไว้ข้างหลัง ไม่รู้ฟลุ๊กหรือเข้าใจหลักการไม่ทราบ แต่มันช่วยเพิ่มให้เสียงร้องน่าฟังขึ้นอีกเยอะเลย ผมเองยังเกือบโดนลำโพงยี่ห้อ ฮัดเช้ย ไปแล้ว เรียกไม่ถูกจนคุณหมูหวานคงรำคาญ ผมเรียกอูเชอร์ทุกทีเลยอ่ะ ตอนจะไปเอามันเผอิญไม่มีของ เลยทัวร์ฟัง แล้วก็ได้ P362 มานี่หละครับ

บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #67 เมื่อ: 05 กันยายน 2009, 13:28:27 »

เส้นสีน้ำเงิน สำหรับคนที่สนใจในเสียงด้านหลังครับ ถ้าห้องฟังค่อนข้างใหญ่ นั่งฟังไม่ได้ชิดกำแพงด้านหลังมากนัก ด้านหลังที่ฟังเป็นผนังกึ่งสะท้อนเสียง ลองเอารูปกรอบกระจกมาวางที่จุดตกกระทบเส้นสีน้ำเงินด้านหลัง (ต้องดูดีๆ หลายๆมิติด้วยครับ เพราะยังมีเสียงที่เราไม่ต้องการจากผนังด้านข้างตกกระทบอยู่ใกล้ๆกัน) แล้ว หยิบแผ่น Kojiki ของ Kitaro มาฟัง Track Nageki ตอนต้นๆเพลงดูครับ จะได้ยินเสียงลมพัดอยู่รอบตัวเรา หมุนไปด้านหลังได้อย่างชัดเจน ตอนแรกที่ผมได้ยินยังไม่เชื่อหูตัวเองเลย เรียกเพื่อนมาฟัง สรุปว่าได้ยินจริงๆ เสียงด้านหลังจากลำโพงคู่เดียวด้านหน้าในห้องฟังเก่าที่บ้านครับ ตั้งแต่ย้ายมายังไม่เคยได้ยินอีกเลย ชุดที่ผมนั่งฟังในมุมส่วนตัวผมชัดกว่าในห้องใหญ่เยอะ แต่ฟัง Nageki อย่างเก่งก็ได้ยินแค่เสียงลมวนอยู่แถวๆท้ายทอยด้านหลังเท่านั้น ตอนนี้มีโอกาสเล่นห้องใหญ่ เลยจะลองซะหน่อย (คราวนี้เอาแบบประหยัดงบประมาณที่สุด) ไว้ทำเสร็จจะถ่ายรูปห้องมาให้ดู ถ้าบ้านเสร็จ 100% แล้วอยากมาฟังก็ได้ครับ

เส้นสีดำเป็นเส้นไม่ต้องการครับ วิธีเก็บง่ายๆคือเอาพรมมาปูหน้าที่นั่งฟังแค่นั้นเอง แต่เป็นอุทาหรณ์ไว้ว่าไม่ควรวางโต๊ะหรือ Tea Table ไว้หน้าที่นั่งฟัง มันจะสะท้อนเส้นสีดำเข้าหูเราทำให้ได้ยินเสียงแปลกไปได้ อีกอย่างพวกอุปกรณ์เครื่องเสียงวางพื้นไม่ควรวางเกินแนวหน้าลำโพงออกมามาก อาจสะท้อนเส้นสีดำได้ครับ ทางที่ดีวางระดับแนวลำโพงหรือหลังกว่านั้นจะดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2009, 13:42:56 โดย Suhanna » บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #68 เมื่อ: 05 กันยายน 2009, 13:29:18 »

หมดแล้วครับ เบสิคการ Set ห้องฟังกับลำโพง ต้องขออภัยสำหรับเซียนที่รู้อยู่แล้วนะครับ เป็นความรู้เผื่อแผ่กันสำหรับคนที่สนใจอยากเริ่มเล่นเครื่องเสียง ทำห้องฟังครับ

ไปหาอุปกรณ์ทำห้องก่อนครับ ไว้ห้องฟังเสร็จแล้วค่อยแวะเข้ามาใหม่ครับ  lol
บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #69 เมื่อ: 06 กันยายน 2009, 13:32:05 »

ไม่สบายครับวันนี้ เลยไม่ได้ไปไหนเลย  นั่งเล็งจนได้ Solution ผนังหลังลำโพงเรียบร้อยเอามาให้ดู อิอิ  mdr



มุมมองด้านบน การจัดวางทีวี กับ โซฟาครับ


มุมมองตรงๆจากที่นั่งฟังหลัก


มุมมองจากที่โซฟาเล็ก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 กันยายน 2009, 13:56:08 โดย Suhanna » บันทึกการเข้า
rambutan
Registered User
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 78



« ตอบ #70 เมื่อ: 08 กันยายน 2009, 08:37:39 »

สุดยอดเลยคับ

นั่งอ่านอยู่เกือบ3ชั่วโมง ปวดตาเลยแต่ได้ฟามรู้ไปเพียบ
บันทึกการเข้า
yoshiki
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1709



อีเมล์
« ตอบ #71 เมื่อ: 08 กันยายน 2009, 10:49:01 »

สุดยอดครับ เข้ามาติดตามเป็นระยะ ๆ ครับ Cool
บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #72 เมื่อ: 09 กันยายน 2009, 12:50:08 »

อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมหมกมุ่นเรื่องทำห้องดูหนังฟังเพลงค่อนข้างมากขนาดนอนไม่หลับ ระหว่างนั้นไม่สบายเป็นหวัด (ค่อนข้างแรง) หมอให้ยามาทั้งทาน ทั้งสูด เลยได้นอนพัก ตกตะกอนความคิด จนได้เป็นผลึกความคิดเรื่องห้องฟังในที่สุดครับ อิอิ เลยตกลงใจจะทำห้องดูหนังฟังเพลงเองอีกสักครั้ง คราวนี้คงจะทำด้วยตัวเองพึ่งช่างให้น้อยที่สุด (คงมีบ้าง ตอนเอา Trap ขึ้นไปแขวนบนเพดาน กับ ประกอบโครงเบสเทรป) ส่วนอื่นๆคงทำเองให้มากที่สุด และ ประหยัดงบประมาณที่สุด (โดยต้องมีความสวยงามในห้องด้วย) ไหนๆจะทำ จะคิดคำนวนแล้ว เลยคิดว่าถ้าเอามาลงในบอร์ดให้คนสนใจอ่านด้วย น่าจะเกิดความรู้และความเข้าใจสำหรับคนที่อยากทำห้องดูหนังฟังเพลง และถ้าผู้ที่รู้เรื่องนี้ ผ่านมาให้ความเห็นเพิ่มเติมผมก็จะได้ผลพลอยได้คือความรู้เพิ่มขึ้นด้วยครับ

เริ่มต้นคือหาความรู้ให้พอกับการออกแบบปรับปรุงห้องฟังก่อน ใช้ Google เป็นหลักหาข้อมูล อ่านใน Web ต่างๆพอสมควร ทั้งไทยและเทศ สิ่งที่พบคือ สำหรับเมืองไทยมีคนที่รู้เรื่อง อคูสติก จริงๆน้อยมากแม้แต่เซียนที่วิจารณ์เครื่องเสียงต่างๆ ก็ (อาจ) ยังไม่เข้าใจหลักการจริงๆ (ถ้าเข้าใจ ต้องอธิบายได้ว่าทำไม เวลาปรับอย่างโน้น ผลมันถึงออกมาแบบนี้) แต่มีความรู้ที่เกิดจากประสพการณ์การลองเยอะครับ แม้แต่บาง Web ที่ทำพวก อุปกรณ์อคูสติกห้องฟังขาย มีบทความทางเทคนิคอธิบายเรื่องอคูสติกห้องฟัง บางบทความได้เอาไปลงในหนังสือเครื่องเสียงบ้านเราขายกิน ดูเหมือนว่าคนเขียนจะรู้เรื่องดี แต่พออ่านละเอียด ดูรูปประกอบ ผมว่ามันคุ้นๆนะ ลอกฝรั่งมาทั้งดุ้น แม้กระทั่งรูปประกอบ ดัดแปลงศัพท์เทคนิคดั้งเดิมบางคำให้เป็นภาษาของตัวเองเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง แถมไม่ให้เครดิตคนเขียนคนแรกอีก (แค่ลงว่าเอามาจากหนังสือเมืองนอกชื่ออะไรเท่านั้น) ความคิดส่วนตัวผมถึงรับไม่ได้ครับ โลกแห่งการเรียนรู้ เป็นการเหยียบบ่ากันขึ้นไป เอาความรู้พื้นฐานที่คนอื่นคิดเอาไว้มาผนวกกัน และรวมความคิดเราเข้าไปด้วย เพื่อให้ได้ของที่ดีกว่าเดิม เป็นหลักการปรกติสากล แต่อย่างไรก็ตามต้องให้เกียรติ์กับคนเสนอความคิดแรกด้วย ไม่ใช้เอาทั้งหมดมาเป็นของตัวเอง เพื่อให้คนอื่น (หลง) นับถือว่าเก่ง ว่าเซียน
บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #73 เมื่อ: 09 กันยายน 2009, 12:51:34 »

แนวคิดในการทำห้องฟังของผมตั้งแต่ห้องฟังบ้านเก่าผมได้แนวความคิดมาจากคนที่ชื่อว่า Ethan Winer ครับ แต่ผมมาดัดแปลงใช้ทรายแทนผนังอากาศ (ลองดูก็ได้ครับ ลองจับขาตั้งลำโพง ก่อนกับหลังเติมทราย จะทราบว่ามันสั่นแรงขึ้นขนาดน่าตกใจ เพราะมันสั่นเอาความถี่กำทอนออกจากตัวลำโพงทำให้เสียงนิ่งมีโฟกัสที่ดีขึ้น) เค้าเขียนบทความเรื่องการปรับปรุงอคูสติกห้องฟังมาตั้งแต่ 1990 (มั้ง) แต่มีการ Update ความรู้ในในบทความมาตลอด ล่าสุดปรับปรุงเมื่อปี 2008 นี่เอง รูปสตูดิโอภายในบ้านพักอาศัย (ทำเอง) ของเค้าถูกนำไปลงในหนังสือเกี่ยวกับอคูสติกหลายเล่ม ถูกยกเป็นตัวอย่างใน Web หลาย Web  ชีวิตส่วนตัวของ Ethan ก็น่าสนใจ คือนอกจากจะเป็นวิศวกรรุ่นอาผมแล้ว ยังออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็น Sound Engineer (คงไม่ใช่แบบเมืองไทย ที่เป็นใครไม่รู้ที่นั่งอยู่หลังแผงควบคุมในคอนโทรลรูมห้องอัด แล้วเรียกตัวเองว่าเป็น Sound Engineer) ออกแบบห้องอัดเสียงหลายแห่ง เล่นเครื่องดนตรีได้หลายประเภท แถมยังเป็นนักเชลโล่ในวงออเครสตร้าสองวง (เป็นส่วนผสมที่ดีของวิศวกรที่รู้ทั้งศาตร์และศิลป รู้จักทั้งความถี่ที่นักดนตรีมองไม่เห็น และความเพราะเหมือนจริงของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่คนไม่เคยเล่นไม่เข้าใจ) แต่งซิมโฟนี่อีกสองบท เป็นคนเขียนบทความในหนังสือ Stereo (เมืองนอก) เป็นหุ้นส่วนในบริษัททำอุปกรณ์รูมจูน Real Trap ที่น่าทึ่งที่สุดคือแม้จะทำรูมจูนขาย แต่ไม่เคยหวงวิชา(เหมือนบ้านเราบางคนที่จริงๆไม่รู้ว่ามีวิชาให้หวงหรือเปล่า) และ รับตอบปัญหาต่างๆผ่าน Website อีกด้วย สนใจ Web เค้าตาม Link ข้างล่างครับ

http://www.ethanwiner.com/
บันทึกการเข้า
Suhanna
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1806



« ตอบ #74 เมื่อ: 09 กันยายน 2009, 13:55:43 »

เริ่มแรก ต้องรู้ปัญหาที่จะแก้ก่อนครับ ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องแก้ก็แค่นั้นเอง  ปัญหาในห้องฟังเพลงทุกห้องคือปัญหาที่เกิดจากความถี่บางความถี่ที่ไปตรงกับขนาดของห้อง ทีให้ที่บางความถี่เสียงดังขี้นเกินไป และ บางความถี่หายไป ผมเน้นตรงนี้ว่าไม่มีห้องไหนที่สมบูรณ์แม้ว่าจะทำขนาดให้ได้ตามสูตรที่เซียนๆทั้งหลายแนะนำกัน เพียงแต่ขนาดห้องที่พอดีนั้นจะช่วยให้ความถี่ที่มีปัญหากระจายกันออกไป ทำให้เสียงที่เราฟังมีความกลมกลืน ไม่มีเสียงไหนโด่งหรือหายไปจนรับไม่ได้ ในชีวิตจริงเรามีห้องอยู่แล้ว(นอกจากจะสร้างบ้านกันใหม่) ผมเอาโปรแกรมสำหรับวิเคราะปัญหาความถี่มีปัญหามาให้ลองกันครับ ใส่ความกว้าง ยาว สูงของห้อง ถ้าเป็นเมตรให้ใส่ m เข้าไปหลังตัวเลข เราสามารถดูเป็นกราฟได้โดยตรงเลยว่า ที่ความถี่ช่วงไหนจะเป็นปัญหาของห้องเรา ส่วนมากหรือน้อยขึ้นกับวัสดุที่ใช้ทำผนังและฝ้าด้วยครับ สำหรับห้องที่ผนังไม่ขนาน ให้เอาความกว้างบวกกันหารสองเป็นค่าเฉลี่ยแทน ส่วนห้องผมเป็นรูปตัวแอลแต่ผนังขนานกันทั้งหมด จะซับซ้อนกว่าหน่อย แต่ก็หาได้ครับตาม Rep ก่อนๆแล้ว

ตัวโปรแกรม ModeCalc หา Load ได้ตามนี้ (ของคุณ Ethan ครับ)
http://www.realtraps.com/modecalc.zip
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 13   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: