มาต่อก่อนครับ..เล่าความจากตอนที่แล้วครับ
เห็นว่าไปปาย แต่ผมขอทั้งทริปเลยแล้วกันนะครับ เผื่อสนใจไปที่เดียวกันครับ
ขอเล่าวันแรกกะวันที่สองนิดๆ ก่อนนะครับ..เดี๋ยวบ่ายมีเรียน...ยาวหน่อยคงไม่เบื่อนะครับ..
.....เคยไปต้นเดือนมกราคมปี 52 ครับ ไป 4 วัน 3 คืน จำวันที่ไม่ได้ครับ หลังๆ ปีใหม่นี่แหละครับ ขับรถพ่อไป Chevy colorado 3,000 CC ไปครับ ของเต็มหลังรถ พร้อมเพื่อนรวมแล้ว 8 คน ครับ แต่ตอนนั้นเป็นช่วงน้ำมันถูกครับ อยู่ลิตรละ ประมาณ 20 กว่าบาทครับ เก็บเงินรวมกับเพื่อนไปคนละ 3,500 บาท รวมๆ ก็สองหมื่นกว่าบาทครับ แต่ขับขึ้นเขา ลงเขากลับบ้านบ่อยๆ เลยไม่ค่อยห่วงเรื่องทางเท่าไหร่ครับ ...แอบโม้นิดๆ
.....ส่วนแปลนการเดินทางก็พอดีตองกลับบ้านไปแพร่ก่อนครับ คนขับขอแนะนำให้มี 2 คนครับขับเก่งๆ รถพร้อมๆ ยาแก้เมารถพร้อมหน่อย ขับคนเดียวคงเหนื่อยมากๆ ครับ แล้วเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ถุงมือ หมวกกันหนาวด้วยนะครับ ก็ออกจากกรุงเทพ ประมาณ 3 ทุ่ม ไปถึงแพร่ก็เช้าพอดีครับ ครึ่งวันแรกเลยไปเที่ยวในแพร่ก่อนครับ กว่าจะออกจากแพร่ก็บ่ายๆ ครับ ก็ไปตาเส้นทาง ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ครับ แล้วก็ออกไปทางแม่่ริม-แม่แตงครับ ก่อนไปแม่ฮ่องสอนแนะนำให้ซื้อเนื้อ ซื้อเบียร์ ซื้อน้ำแข็งจากตลาดแม่แตง (จำชื่อไม่ได้ชัวร์ครับ) เหมือนขับวนขึ้นทางขวาครับ ก็ขับผ่านหลายร้อยหลายพันโค้ง กว่าจะไปถึงครับ
....สถานที่เที่ยวแรกก็คือห้วยน้ำดังครับแต่กว่าจะถึงก็มืดแล้วครับ ตอนกลางคืนเลยได้แค่ จัดที่นอนกางเต้นท์ มานั่งผิงไฟ กินเบียร์ ย่างเนื้อ ตอนนั้นอากาศตอนกลางคืนประมาณ 5-8 องศาครับ เบียร์ LEO กระป๋องอร่อยมากมาย สุดยอดแห่งเบียร์จริงๆ ครับ กระป๋องเย็นเจี๊ยบ ต้องใส่ถุงมือจับกระป๋องค่อยจิบไปเรื่อยๆ พูดแล้วอยากกินอีกเหอๆ กินกับเนื้อย่างอีกแหล่มจริงๆ สักเที่ยงคืนก็พากันเข้านอนกอดกับแฟนสบายๆ เอ้อ..ลืมบอกครับบนห้วยน้ำดัง มีผ้าห่ม มีที่นอน ไว้ให้เช่ามีไม้สน ขายครับ แนะนำตั้งปลุกสัก ตี 4 ตี 5 ด้วยครับ เช้ามาจะได้ตื่นไปดูทะเลหมอก บนห้วยน้ำดังกันครับ
...หลังจากตื่นเช้ามาก็ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ ข้างบนมีห้องน้ำให้จะได้ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคในการดูทะเลหมอก รอเช้านิดทะเลหมอกก็โผล่มาใหเห็นสวยมากครับ จับมือแฟนเดินดู โรแมนติคมากมาย สวยมากครับ เดี๋ยวจะมีรูปให้ดูครับ บนห้วยน้ำดังก็จะมีหลายจุดให้ชมครับ จุดแรกก็หน้าเต้นท์เลยครับ จุดสองก็เดินลงมาดูได้ครับ แค่สองจุดก็หายเหนื่อยครับ ต่อมาเราก็ไปเอาถขับลงมาสักหน่อยก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปจะมีจุดชมวิวให้เข้าไปดูครับ ตรงนี้น่าจะเป้นจุดที่คนถ่ายรูปเยอะครับ คนเยอะด้วย ไปดูแล้วนั่งกินกาแฟ โอวัลติน นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นเรื่อยๆ จนทะเลหมอกก็เริ่มจางลงและหายไปในที่สุดครับ ประทับใจสุดๆ ครับ
...พอเราดูทะเลหมอกเสร็จก็ขึ้นไปเก็บเต้นท์ พร้อมไปสถานที่สองครับ คือ ขุนแม่ยะ ไปชมซากุระเมืองไทยหรือดอกพญาเสือโคร่งกันครับ ตอนนี้ก็เห็นตามป้ายโฆษณาหรือท้ายรถ taxi ครับ เราก็ขับรถออกมาทางเดิมแล้วเลี้ยวขวาออกจากอุทยานครับ ขับไปเรื่อยๆ ก็จะเจอด่านตรวจครับตรงนี้เป็นจุดสังเกตเลยครับ ด้านซ้ายจะมีทางลูกรังเข้าไปครับ รถเก๋งไปไม่ได้นะครับ วิบากเหลือหลาย แต่ก้สามารถจอดข้างนอกแล้วจ้างรถขึ้นไปได้ครับ ทางค่อนข้างแคบและขรุขระครับ แต่เจ้า chevy ก็ไม่หวั่น พลังของเครื่องสามพันกับยาง A/T ช่วยกันตะกุยหินดินทรายโคลน รถสะบัดไปมานิดหน่อย มองด้านขวาก็เหว ด้ายซ้ายก็เขา แต่มองออกจากรถไป ก้เห็นยอดเขาสีชมพูครับ Chevy ก็พาคน 8 คนขึ้นไปสู่ดินแดนขุนเขาสีชมพูสำเร็จ เมื่อถึงข้างบนก็พักเหนื่อยมองไปทางไหนก้มแต่สีชมพู แต่แล้วข่าวร้ายก็ตามมาคือ คลัทซ์ไหม้ครับ เหม็นมาก แต่ยังขับได้ปกติอยู่ครับ ยังโล่งอกหน่อย เจ้า chevy ลูกพ่อ เราก็จอดรถเดินให้ทั่วเขาไป ถ่ายรูปกันครับ สถานที่นี้น่าถ่าย wedding ครับ สวยดี เดี๋ยว up รูปมาให้ชมกันครับ
ปล.ขอบคุณพี่นุช พี่ร่วมทริปสำหรับรูปนะครับ และกล้องอีกหลายๆ ตัวสำหรับเก็บภาพความประทับใจครับ เดี๋ยวมาต่อครับ
.
.
.
.
.
.
.
.