วันแรกของการเดินทาง
พฤหัสที่ 19 มี.ค. 2552วันนี้ออกเดินทางไปฮ่องกง กับสายการบินเอมิเรต เที่ยวบิน EK384 เดินทาง 13.20น.
อาหารมื้อแรกของทริบนี้ ระหว่างการเดินทางบนเครื่อง 777-300 ก็มีให้เลือกระหว่างสเต็กปลา
กับข้าวหน้าแกะ ผมเลือกกินแกะดีกว่าอร่อยมั๊ยหรอก็พอได้นะ แต่ไปแอบกินปลาของคนนั่งข้างๆ
ผลปรากฎว่าแกะดีกว่าครับ
หลังจากอิ่มหนำสำราญกัน ก็ถูกเจ้าน้องชายคนโต และเจ้าน้องชายคนเล็ก ท้าทายด้วยเกมส์โบวลิ่ง
จากหน้าจอมอนิเตอร์ของแต่ละคน ผลออกมาดังคาด คลื่นลูกหลังย่อมแรงกว่าเสมอ ผมกดทอย 10 หน
ไม่มีทั้งสไตค์ทั้งสแปร์เลย จบที่ 68 คะแนน จาก 300 คะแนน
ส่วนเจ้า 2 คนนั่น เอาที่ 1 และ 2ไป ทิ้งให้ผมได้เหรียญทองแดง ... เย้
ก็ OK เกมส์มันพึ่งจะเริ่ม ฝากไว้ก่อนเถอะเอมิเรต ... อิอิ
มาถึง Chek Lap Kok Airport ฮ่องกง เวลาที่ฮ่องกง 17.10น. ตรงตามกำหนดดีจริงๆ
ผมดูนาฬิกาอยู่ที่ 16.10 ก็ต้องปรับขึ้นไป อีก 1 ชม. เวลาฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชม. พอดี
เมื่อก่อนมาฮ่องกง จะลงที่ Kai Tak Airport ปิดทำการไปแล้วตั้งแต่ วันที่ 6 กรกฎาคม 1998 เวลา 01:28
เมื่อมาถึง ก็เริ่มเข้าเขตอันตราย IMMIGRATION ที่ฮ่องกง ผมเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ครัง
ผิดคาดจริงๆ จนท. ดูจะเป็นมิตรมากขึ้น ไม่หน้าบึ้งตึง มีรอยยิ้มเล็กๆด้วยซ๊ำไป แถมมีคำพูดที่น่าประทับใจว่า
แฮพ อะ ไนซ์ สเตย์ ซะด้วย
หลังจากผ่าน ต.ม. ทั้ง 4 คนแบบสะดวกรวดเร็ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หาซื๊อบัตรปลาหมึก Octopus Card
เพื่อใช้ในการเดินทางเที่ยวฮ่องกงทั้ง 4 วันที่อยู่ที่นี่ หาเค้าเตอร์ที่ขายไม่เจอ ทั้งๆที่อยู่ตรงหน้าแท้ๆ
สุดท้ายก็จ่ายไป 600HK ได้มา 4 บัตร ใบละ 150HK เป็นค่ามัดจำบัตร 50HK ใช้เงินในบัตรได้ 100HK
บัตรนี้คุ้มค่าในการใช้มากใช้นั่งรถไฟใต้ดิน บนดิน รถเมล์ รถมินิบัส จ่ายเงินในร้านค้าบางร้านก็ได้ เช่น 7-11 เป็นต้น เป็น Debit เงินหมดเราก็ต้องเติมก่อนใช้
จากนี้เราก็เดินทางสู่ที่พัก ทริปนี้ทั้ง 3 คืน พักกันที่โรงแรม Panorama ย่าน จิมซาจุ่ย เป็นโรงแรมเปิดใหม่
เปิดดำเนินการเมื่อกลางปีที่แล้วนี้เอง สภาพห้องเลยค่อนข้างใหม่มาก ได้ห้องพักที่ชั้น 27 ก็พอจะมองออกไป
ยังอ่าววิคทอเรียได้ระดับหนึ่ง
ถึงโรงแรมเช็คอินเสร็จเกือบ 2 ทุ่ม
คงไปดู SOL (Symphony Of Lights การแสดงแสงเลเซอร์และเสียงบนยอดตึกริมอ่าววิคทอเรีย)
ไม่ทันแน่ๆ เพราะการแสดงเริ่ม 2 ทุ่ม ใช้เวลาแสดงประมาณ 20 นาที ผิดแผนตั้งแต่วันแรกเลย ... อิอิ