เห็นมีคนมาถามเรื่องปริ้นเตอร์บ่อย เลยเอาวิธีดูปริ้นเตอร์มาฝากครับ
1. เปรียบเทียนเครื่องพิมพ์แต่ละรุ่นด้วยผลงานแบบที่เราต้องการ เพราะงานพิมพ์เอกสาร กราฟิกและรูปถ่ายนั้นต้องการเครื่องพิมพ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งโดยปกติแล้วเครื่องพิมพ์เลเซอร์นั้นจะพิมพ์เอกสารได้ดีกว่า ส่วนเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ตจะพิมพ์ทั้งรูปภาพและกราฟิกได้ดีกว่า
2. ถ้าหากไม่ต้องการพิมพ์งานสี เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากให้ความเร็วที่เหนือกว่า แล้วยังให้คุณภาพงานพิมพ์เอกสารและกราฟิกดีกว่า
3. อย่าเปรียบเทียบความเร็วในการพิมพ์จากค่าที่บริษัทใช้โฆษณา แต่ให้เทียบความเร็วในการพิมพ์ที่ความละเอียดที่เราต้องการใช้งาน เพราะเครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ตจะใช้ความเร็วสูงสุดเป็นจุดขาย แต่เราจะใช้งานที่ความละเอียดสูงบ่อยกว่ามาก
4. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ ถ้าหากเรายังใช้เครื่องรุ่นเก่าหรือระบบปฏิบัติการตัวเก่าที่ไม่สนับสนุน USB ต้องแน่ใจว่า เครื่องพิมพ์ที่ซื้อนั้นต่อพวงกับพอร์ตขนาน
5. ทางเลือกที่ควรจะเลือกสำหรับเครื่องพิมพ์ที่ใช้งานร่วมกัน คือ ต่อตรงเข้าเน็ตเวิร์กได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบวิธีการเชื่อมต่อ และซอฟต์แวร์ในการควบคุมตรวจสอบเครื่องพิมพ์ที่ให้มาด้วยว่าสามารถใช้งานร่วมกับเน็ตเวิร์กที่ใช้งานอยู่ได้หรือไม่
6. เครื่องพิมพ์บางรุ่นสามารถเพิ่มหน่วยความจำได้ บางรุ่นภายในเครื่องอาจไม่มีหน่วยความจำมาให้หรือมีเพียงเล็กน้อย เพราะว่าจะทำงานทั้งหมดจากคอมพิวเตอร์ก่อน ในกรณีที่สามารถอัพเกรดหน่วยความจำได้ ตรวจสอบก่อนว่าเครื่องพิมพ์มีหน่วยความจำมาให้เพียงพอกับที่เราต้องการ เช่นเราอาจจะต้องอัพเกรดหน่วยความจำให้สูงขึ้นเพื่อจะสามารถพิมพ์งานที่ความละเอียดสูงสุด
7. ยิ่งถ้าเราเปลี่ยนอุปกรณ์สิ้นเปลืองน้อยครั้งเท่าใดยิ่งดี ถ้าเราพิมพ์เอกสารวันละ 25 แผ่น แต่เครื่องพิมพ์รองรับกระดาษได้ 25แผ่นเช่นกัน เราจำเป็นต้องใส่กระดาษทุกๆ วัน ในขณะที่เครื่องพิมพ์รองรับกระดาษได้ถึง 250 แผ่นนั้น เราเพียงแค่ใส่กระดาษเพิ่มอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น ดังนั้นจึงควรเลือกเครื่องที่จุกระดาษและหมึกได้มากพอกับความต้องการใช้งาน โดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยเกินไป
8. ถ้าหากจำเป็นต้องพิมพ์งานปริมาณมากจริงๆ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ จะต้องตรวจสอบปริมาณงานพิมพ์ที่เครื่องนั้นรองรับต่อเดือน โดยเครื่องที่เลือกใช้นั้นควรจะรองรับงานพิมพ์ได้ประมาณ 4 เท่าของงานพิมพ์จริงที่เราต้องการ
9. ก่อนจะซื้อเครื่องพิมพ์ ควรตรวจสอบเว็บไซต์ของผู้ผลิตเสียก่อน เพื่อดูว่าบริษัทมีการอัพเดตไดรเวอร์และมีข้อมูลทางเทคนิคบริการเอาไว้ให้
10. เมื่อต้องการเปรียบเทียบเครื่องพิมพ์ให้ตรวจสอบค่าใช้จ่ายจริงที่จะเกิดขึ้น อุปกรณ์มาตรฐานของเครื่องเช่น สายไฟ สายสัญญาณ ความจุของวัสดุสิ้นเปลือง ตลับหมึก ไม่ใช่เพียงแค่ดูจากราคาเครื่องที่แตกต่างกันเท่านั้น เพราะยิ่งถ้าหากเราพิมพ์งานมาก ค่าใช้จ่ายต่อแผ่นที่แม้จะต่างกันเพียบเล็กน้อยย่อมส่งผลต่อค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมดได้เช่นกัน
11. ถ้า spec ปริ้นเตอร์ของหลายยี่ห้อคล้ายกัน แล้วราคาไม่ต่างกันมาก ให้ตัดสินที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา เช่น ปริ้นแบบสองหน้าได้ หรือมีเทคโนโลยีหมึกพิมพ์แบบใหม่ที่เป็นเจลแบบ Gelsprinter ของ Ricoh ที่สามารถโดนน้ำได้ หัวพิมพ์ไม่ตัน และให้ภาพที่มีความคมชัดและสดใสมากยิ่งขึ้น
Cr.
http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=1255