การใช้คุณประโยชน์ทางการแพทย์จากสารกลูต้าไธโอนกลูต้าไธโอน หรือที่ตั้งชื่อกันอย่างแพร่ขยายว่า
กลูต้า มีการเอามาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทขาดตกบกพร่อง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ หรือ โรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้รับการยืนยันให้ใช้เป็นยาแก้โรคมากว่า
30 ปี การรักษาพยาบาลมักจะให้โดยการฉีดเข้าเส้นหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ
ผลข้างเคียงของยารักษาโรคดังกล่าวปัจจุบันนี้ยังไม่พบ แต่อย่างไรก็ตามเจอว่า สาร
กลูต้าไธโอน มีผลข้างเคียงในการต้านทานเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งทาให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดาเป็นเม็ดสีชมพูขาว ผลข้างเคียงนี้จึงมีการนำกลูต้าไธโอนมาจัดเตรียมเป็นยาเม็ดเพื่อใช้เป็น
อาหารเสริม เพื่อชะลอวัย และหวังผลให้
ผิวใสหรือ
ผิวขาวอมชมพู
ยาเม็ดกลูต้า ผิวขาวได้ผลจริงหรือ?จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า สารกลูต้าจะ
ไม่สามารถถูกดูดจากกระเพาะได้ เพราะจะถูกย่อยสลายและขับเคลื่อนออกทางลำไส้ ดังนั้นการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กลูต้าจึงไม่ได้รับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะรับประทานในขนาดที่เยอะมากก็ตาม แพทย์หลายสำนักจึงได้มีการดัดแปลงโดยทาการฉีดเข้าเส้นหรือเข้ากล้ามเนื้อทำนองเดียวกับการรักษาพยาบาลโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงของผิวขาวเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่ควรใช้ยานี้ในทางที่ผิด เพราะจัดว่า
เสี่ยงอันตรายมาก และ อาจทำให้ถึงขั้นช็อคหรือตายได้
กลูต้าไธโอนในธรรมชาติ เจอมากในลูกไม้ ได้แก่ แตงโม สตรอเบอรี่ องุ่น ผลอโวกาโด ส่วนในผักพบเจอมากใน หน่อไม้ฝรั่ง สาหรับเนื้อสัตว์จะพบได้ใน ปลา และเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ฯลฯ
แต่ร่างกายเราก็สามารถสร้างกลูต้าได้และมีสารหลายกลุ่มที่ช่วยเพิ่มการสร้าง ได้แก่ Alpha lipoic acid, Glutamine3, Methionine, Whey Protein, Vitamin B-6(
วิตามินบี 6), Vitamin B-2 (วิตามินบี 2),
วิตามินซี) และ Selenium
ฉะนั้น หากต้องการได้รับสารกลูต้า
ควรเลือกกินผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ดีกว่าที่จะหลงผิดไปใช้สารนี้ ด้วยวิธีการที่ผิด และขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ :
http://goo.gl/jGLZh0