กรุงเทพฯ - 22 ตุลาคม 2552 - ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 แล้ววันนี้ทั่วโลก โดยระบบปฏิบัติการล่าสุดจากไมโครซอฟท์นี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานพีซีได้ง่ายกว่าเดิมด้วย ยูสเซอร์อินเทอร์เฟซที่ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานสะดวกกว่าที่เคย นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าผู้ใช้งานจะใช้คอมพิวเตอร์ในรูปแบบใดหรือขนาดใด
นาง สาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "วันนี้วินโดวส์ 7 มาถึงแล้วและจะเป็นช่วงเวลาที่ดียิ่งกว่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนของคอมพิวเตอร์ เราตื่นเต้นมากๆ เช่นเดียวกับบรรดาลูกค้าและคู่ค้าของเรา ซึ่งเหตุผลง่ายๆ ก็คือ การที่วินโดวส์ 7 จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เชื่อถือได้ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ชีวิตประจำวันง่ายยิ่งขึ้น สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วินโดวส์ 7 นับเป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดทั้งสำหรับการทำงานและใช้งานส่วนตัว ด้วย Windows 7 Professional ที่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ วินโดวส์ 7 พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยมากขึ้น มีการควบคุมในการลดความเสี่ยง จัดการการใช้งานให้ง่ายยิ่งขึ้น และช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
การพัฒนาระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 นับเป็นการร่วมมือกันตั้งแต่แรกเริ่มระหว่างวิศวกรของไมโครซอฟท์และนักออกแบบ รวมทั้ง ลูกค้าและคู่ค้าของไมโครซอฟท์ ในการสร้างสรรค์วินโดวส์ 7 ให้เป็นระบบปฏิบัติการในฝันที่จะช่วยให้การใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีง่ายกว่าที่เคย
"ในขณะที่เรากำลังพัฒนาวินโดวส์ 7 เราได้ศึกษาข้อมูลและรับฟังความต้องการจากผู้ใช้งานอยู่ตลอดเวลา ผลตอบรับและข้อมูลต่างๆ ได้ถูกเก็บรวบรวมจากผู้ใช้งานพีซีนับล้านคนในกว่า 200 ประเทศทุกภูมิภาคทั่วโลก นอกจากนี้ เรายังได้ทำการสัมภาษณ์ผู้ใช้งานวินโดวส์กว่า 16,000 คน เพื่อช่วยให้เราสามารถจำแนก ตรวจสอบ และ ใช้งานแผนงานและฟีเจอร์ต่างๆ ที่เรากำลังพัฒนา นอกจากนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักทดสอบ และ บล็อกเกอร์ชาวไทยจำนวน 50 คน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาวินโดวส์ 7 และทำให้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวมีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานของนักออกแบบชาวไทยที่ชื่อว่า 'Pomme Chan' ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นวอลเปเปอร์อย่างเป็นทางการของวินโดวส์ 7" นางสาวปฐมา กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ผู้บริโภคกว่า 8 ล้านคนทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย ยังได้มีส่วนร่วมในการดาวน์โหลด Windows 7 beta ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการในการใช้งานและแนวโน้มการใช้งานของวินโดวส์ 7
คู่ค้าให้การตอบรับต่อวินโดวส์ 7 อย่างท่วมท้น
นอกเหนือไปจากการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคแล้ว คู่ค้าของไมโครซอฟท์ยังมีบทบาทสำคัญในการวางวิสัยทัศน์และวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าในการพัฒนาระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ส่งผลให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสำหรับเครื่องพีซี เช่นเดียวกับการทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยมกับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ในระบบนิเวศน์อุตสาหกรรมของวินโดวส์ บริษัทผลิตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์กว่า 16,000 บริษัท ได้พัฒนาโซลูชั่นสำหรับทำงานบนวินโดวส์ 7 นอกจากนี้ นักพัฒนากว่า 44,000 คน ยังได้เข้าร่วมในโปรแกรม Windows Ecosystem Readiness Program ซึ่งด้วยความร่วมมือกันดังกล่าว คู่ค้าต่างๆ ได้พัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ที่จะเข้าถึงผู้ใช้งานเครื่องพีซีกว่าพันล้านคนทั่วโลก
สำหรับในประเทศไทย ไมโครซอฟท์ ได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าตั้งแต่แรกเริ่มอย่างใกล้ชิด ทั้งกับคู่ค้าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และตัวแทนจำหน่าย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าระบบนิเวศน์อุตสาหกรรมของประเทศไทยพร้อมที่จะนำเสนอวินโดวส์ 7 รวมทั้งโซลูชั่นทางด้านไอทีอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันในราคาที่เหมาะสม
"เราโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่มีเครือข่ายของคู่ค้าที่แข็งแกร่งในประเทศไทย ซึ่งเราได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะได้มั่นใจว่าเราได้ร่วมกันนำเสนอโซลูชั่นทางด้านไอทีที่มีประสิทธิภาพต่อผู้บริโภคชาวไทย น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นคู่ค้าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จำนวนมากได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจที่รองรับการใช้งานวินโดวส์ 7 นอกจากนี้ คู่ค้าของเรายังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึง "ความเรียบง่าย คุณค่า และทางเลือก" ได้อย่างชัดเจน ผู้บริโภคจึงมีทางเลือกมากกว่าที่เคยในการค้นพบประสบการณ์การใช้งานพีซีที่ เหนือชั้น"
ในความเป็นจริงแล้ว ความร่วมมือกับคู่ค้านับเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความคาดหวังต่อวินโดวส์ 7 ในการช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมไอทีของแต่ละประเทศทั่วโลก ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเช่นปัจจุบัน รัฐบาลของประเทศส่วนใหญ่ต่างก็แสวงหาแนวทางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของตน ซึ่งสำหรับวินโดวส์ 7 แล้วจะส่งผลในภาพรวมยิ่งกว่าผลที่เกิดขึ้นกับไมโครซอฟท์เอง โดยจะช่วยขับเคลื่อนรายได้และการเติบโตของบริษัท ไอทีทั่วโลกซึ่งจำหน่ายฮาร์ดแวร์ พัฒนาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่น ให้บริการทางด้านไอที หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าด้านไอที การเติบโตดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของแต่ละประเทศก้าวข้ามสถานการณ์วิกฤติในปัจจุบันไปได้
นางสาวปฐมา กล่าวต่อว่า "การเปิดตัววินโดวส์ 7 ถือได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อไมโครซอฟท์ประเทศไทย และเราหวังว่าการเปิดตัวครั้งนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมไอทีไทยโดยรวมเช่นกัน ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้า ซึ่งได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อรองรับวินโดวส์ 7 นอกจากนี้ เรายังเชื่อมั่นว่าจะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจของไทย จากการที่ผู้บริโภค ภาคธุรกิจ รวมทั้งนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศได้มีโอกาสสัมผัสการใช้งานวินโดวส์ 7 ด้วยตัวเอง"
การจำหน่ายวินโดวส์ 7 ในประเทศไทย
ถัดจากการแถลงข่าวและการเปิดตัววินโดวส์ 7 ในระดับโลกในวันนี้ จะมีการเปิดตัววินโดวส์ 7 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ต.ค.
คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม!