หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: AACSB International เผย 5 แนวทางที่บัณฑิตจากสถาบันบริหารธุรกิจใช้เปลี่ยนแปลงโลก  (อ่าน 871 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 22 กันยายน 2016, 16:30:26 »

แทมปา, ฟลอริดา--20 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          โครงการ Influential Leaders Challenge ปี 2 เผยโฉมหน้า 30 ผู้นำทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงสังคมของตนในเชิงสร้างสรรค์

          ทุกวันนี้ บัณฑิตที่จบจากสถาบันบริหารธุรกิจไม่ได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในองค์กรเท่านั้น แต่ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมด้วย ซึ่งนับเป็นการก้าวข้ามบทบาทในรูปแบบเดิมๆ  AACSB International (AACSB) จึงขอรวบรวม 5 แนวทางที่บัณฑิตสถาบันบริหารธุรกิจใช้ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ในชุมชนต่างๆทั่วโลก

  

          ผลงานของผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงทั้ง 30 ท่านได้รับการยกย่องในการประชุม Annual Accreditation Conference ของ AACSB ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ  2016 AACSB Influential Leaders Challenge ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2015 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องศิษย์เก่าของสถาบันบริหารธุกิจ ผู้เป็นแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจและทำประโยชน์ต่อสังคม

          Thomas R. Robinson ประธานและซีอีโอ AACSB กล่าวว่า "Influential Leaders สะท้อนให้เห็นว่าสถาบันบริหารธุรกิจมีอิทธิพลไปไกลเกินกว่าห้องประชุมและเข้าถึงผู้คนทั่วทุกมุมโลก ผู้นำเหล่านี้เป็นแบบอย่างในการสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อธุรกิจและสังคม โดยอาศัยภาวะผู้นำ ความรู้ และทักษะ เพื่อแก้ปัญหายากๆในสังคมโลก"

          บุคคลที่ติดทำเนียบ Influential Leaders ในปีนี้ มาจากกว่า 15 ภาคส่วน ใน 11 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่องค์กรเพื่อสังคม การบริการสุขภาพ ไปจนถึงเทคโนโลยี แม้ว่าผู้นำเหล่านี้จะมีความต่างในเรื่องของความถนัดและเส้นทางสู่ความสำเร็จ แต่แนวทางในการทำประโยชน์ต่อสังคมไม่ได้แตกต่างกันเลย

          สำหรับแนวทาง 5 ประการที่ผู้นำเหล่านี้ใช้ในการทำประโยชน์ต่อสังคม ประกอบด้วย

          - ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยี: บัณฑิตที่จบจากสถาบันบริหารธุรกิจต่างอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสัมฤทธิ์ผลและยั่งยืน พวกเขาเหล่านี้ได้กลายเป็นผู้สร้างธุรกิจสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ เป็นผู้บริหารบริษัทชั้นนำอย่าง Jonathan Mildenhall แห่งแบรนด์ Airbnb และเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตของสหราชอาณาจักร โดยทุกคนล้วนเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมและการพัฒนา

          - พัฒนาการศึกษาและการจ้างงานโดยอาศัยความสามารถในฐานะผู้ประกอบการ: บรรดาศิษย์เก่าของสถาบันบริหารธุรกิจต่างใช้ความสามารถในฐานะผู้ประกอบการเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและการจ้างงานให้กับชุมชนที่ด้อยโอกาส เช่น Zibu Mthyiane ผู้เกิดในยุคที่มีการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ ได้ก่อตั้งธุรกิจขึ้นมา 2 ส่วน หนึ่ง เปิดโอกาสให้ผู้หญิงในชนบทได้มีธุรกิจเป็นของตนเอง และสอง คอยให้คำแนะนำแก่เยาวชนในเมือง ตลอดจนจัดการประชุมผู้ประกอบการทั่วโลกเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆช่วยกันสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม

          - สนับสนุนความหลากหลาย การรวมตัวกัน และความเสมอภาค: บรรดาศิษย์เก่าของสถาบันบริหารธุรกิจต่างตระหนักดีถึงบทบาทความสำคัญของความหลากหลาย การรวมตัวกัน และความเสมอภาค ที่มีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จึงพยายามสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกเพื่อต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมกัน อย่างเช่น Nashwa Taher นักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จในซาอุดิอาระเบีย ก็ได้ร่วมก่อตั้งองค์กร 2 แห่งขึ้นมา เพื่อสร้างงานให้กับคนหนุ่มสาวและสตรีที่ด้อยโอกาส เช่นเดียวกับ Tawani Cranz จาก Netflix ก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันนโยบายใหม่ ที่อนุญาตให้บิดาและมารดาสามารถลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตรอย่างเสมอภาค นอกจากนั้นยังมีศิษย์เก่าอีกมากมายที่สนับสนุนความเท่าเทียมกันของชาวแอฟริกันอเมริกัน ทหารผ่านศึก รวมถึงผู้พิการ

          - สร้างอนาคตที่ยั่งยืนกว่าเดิม: บัณฑิตที่จบจากสถาบันบริหารธุรกิจต่างนำแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาใช้ เพื่อปกป้องและปรับปรุงโลกของเราให้ดีขึ้น อย่างเช่น Rahul Pushp ผู้ร่วมก่อตั้ง i-Solarlite ซึ่งช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในชนบทด้วยการใช้โคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ เช่นเดียวกับ Guillermo Dietrich รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของอาร์เจนตินา ที่ได้สร้างระบบขนส่งสาธารณะและขนส่งทางเลือกที่มีความยั่งยืนในกรุงบัวโนสไอเรส

          - สร้างความมั่นใจในเรื่องของสุขภาพ: การใช้ความรู้ความชำนาญเพื่อหาทางแก้ปัญหาด้านสุขภาพทั่วโลก คืออีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ อย่างเช่น Pete Petit ที่ได้พัฒนาอุปกรณ์ตรวจจับการทำงานของอวัยวะทารกสำหรับใช้ในบ้านเป็นครั้งแรก หลังจากสูญเสียลูกชายไปจากโรคการเสียชีวิตเฉียบพลันในเด็กทารก (SIDS) เช่นเดียวกับ Analjit Singh ผู้ปฏิรูประบบดูแลสุขภาพของอินเดีย ด้วยการสร้างโรงพยาบาลที่ให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่คำนึงถึงระดับรายได้

          สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Influential Leaders Challenge รวมทั้งรายชื่อผู้ที่ได้รับการยกย่องทั้งหมดได้ที่ http://www.aacsb.edu/Influential-Leaders


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: