หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ZTE คาดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในเชิงปฎิบัติการ  (อ่าน 740 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 05 มีนาคม 2018, 11:48:06 »

ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ของโลกด้านโซลูชั่นโทรคมนาคม เทคโนโลยีระดับองค์กร และเทคโนโลยีเพื่อการบริโภคสำหรับแวดวงอินเทอร์เน็ตมือถือ ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ IDC บริษัทวิจัยตลาด เพื่อร่วมประกาศเปิดตัวรายงานในหัวข้อ "Expediting AI for Operations in the Networks of Future" โดย ZTE เชื่อว่า ระบบทำงานอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ขณะที่รายงาน AI for Operations เปิดโอกาสให้เหล่าผู้ให้บริการโทรคมนาคม สามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้ในอนาคตข้างหน้า

          รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่า ภายในปี 2563 องค์กรที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันก็นำเสนอข้อมูลที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริงด้วยนั้น จะได้รับผลประโยชน์ในแง่ของผลิตภาพเพิ่มขึ้นถึง 4.3 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ที่ทุ่มเทให้กับการวิเคราะห์ไม่มากเท่า ปัจจุบัน เทคโนโลยี AI กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างดีในเรื่องของการบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้า ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ หันมาศึกษาหาแนวทางที่เปิดโอกาสให้ใช้เทคโนโลยี AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          ZTE เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นชั้นนำของโลกสำหรับเครือข่าย เทอร์มินัล และโทรคมนาคม ซึ่งได้ทุ่มลงทุนอย่างหนักในเทคโนโลยี 5G โดยได้มีการผลักดันการทดสอบเครือข่าย 5G ตามจุดต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ ZTE ยังเล็งเห็นว่าในอนาคตข้างหน้าโลกใบนี้จะมีการเชื่อมต่อกันตลอดเวลา จึงเป็นเหตุให้ทางบริษัทได้ใช้เวลากว่าหลายปีในการวิจัยและพัฒนา เพื่อผนวกรวมเทคโนโลยีบิ๊กดาต้าและ AI เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งเดียวในชื่อ uSmartInsight ซึ่งจะช่วยเร่งการใช้เทคโนโลยี AI ในการให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แพลตฟอร์ม uSmartInsight Platform ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีศักยภาพแข่งขันในแง่ของขุมพลังประมวลผล ข้อมูล และแผนการทำงาน

         ความสามารถในการงัดประโยชน์จากเทคโนโลยี AI จะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ในอนาคต เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพรองรับการใช้งานใน 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ 1. การดำเนินการและดูแลรักษาเครือข่าย 2. ความปลอดภัย การกำหนด วางแผน และปรับค่าเครือข่าย และ 3. การประกอบธุรกิจและงานสนับสนุน โดยการดำเนินการเครือข่ายนั้นจะกลายเป็นขอบข่ายแรกที่ระบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี AI จะให้ผลประโยชน์ ขณะที่การกำหนด วางแผน และปรับค่าเครือข่าย จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากเทคโนโลยี AI ในแง่ของเครือข่าย 5G ส่วนการประกอบธุรกิจและงานสนับสนุน จะยกระดับขึ้นเป็นอย่างมากด้วยการผนวกเข้ากับเทคโนโลยี AI ในแง่ของการสร้างความผูกพันกับลูกค้า ฐานความรู้ และระบบจ่ายงาน

          ZTE มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเครือข่ายที่ทำงานได้เองอย่างเต็มรูปแบบด้วยความครอบคลุมและสมรรถนะที่เหมาะสมที่สุด และได้ค้นพบกรณีการใช้งานที่เป็นประโยชน์เพื่อเดินหน้าวิจัยและพัฒนาต่อไป โซลูชั่น AI Aided 5G Massive MIMO Beamforming มีศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถของเครือข่ายไร้สายโดยไม่ต้องเพิ่มสเปกตรัม ขณะที่โซลูชั่น Smart Mobility Load Balancing จะทำหน้าที่ปรับสมดุลเครือข่ายในอนาคตเพื่อรองรับ Radio Frequency Fingerprint ซึ่งสามารถระบุเครื่องส่งได้อย่างโดดเด่น ส่วนโซลูชั่น 5G Intelligent Virtual Network Slicing สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อให้บริการในรูปแบบใหม่ ๆ ตามที่เครือข่าย 5G ในอนาคตนั้นเปิดทางให้ การแบ่งส่วนเครือข่ายทางกายภาพให้เป็นเครือข่ายเสมือนจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อปรับการใช้ทรัพยากรตามข้อกำหนดด้านสมรรถนะที่แตกต่างกัน

          ZTE ได้ยกให้เทคโนโลยี AI ในบริบทของเครือข่าย 5G เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ โดยเครือข่าย 5G ที่กำลังจะมีขึ้นนี้ จะมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ศักยภาพของเทคโนโลยี AI เพื่อรองรับการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการเครือข่ายและกิจกรรมทางธุรกิจ รวมถึงงานสนับสนุนส่วนปฎิบัติการ

          ดาวน์โหลดรายงาน 'Expediting AI for Operations in the Networks of Future' ได้ที่ http://www.zte.com.cn/mediares/zte/Global/Solutions/Expediting_AI_for_Operations_in_the_Networks_of_Future.pdf

          เกี่ยวกับ IDC

          International Data Corporation (IDC) เป็นผู้ให้บริการชั้นแนวหน้าของโลกด้านข้อมูลวิเคราะห์ทางตลาด บริการให้คำปรึกษา และอีเว้นท์ในแวดวงเทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และเทคโนโลยีเพื่อการบริโภค IDC ช่วยให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการไอที ผู้บริหาร และชุมชนการลงทุนทั้งหลาย สามารถนำข้อเท็จจริงไปใช้ในการตัดสินใจซื้อเทคโนโลยีและวางกลยุทธ์ธุรกิจ IDC มีนักวิเคราะห์กว่า 1,100 รายคอยให้คำปรึกษาด้วยความเชี่ยวชาญทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และทั่วโลก ในเรื่องของโอกาสและแนวโน้มเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมในกว่า 110 ประเทศทั่วโลก โดยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา IDC ได้ให้ข้อมูลเจาะลึกทางกลยุทธ์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ IDC เป็นบริษัทในเครือของ IDG ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกด้านสื่อเทคโนโลยี การวิจัย และงานอีเว้นท์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: