- แบรนด์ใหม่จะมุ่งส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรม IoT และ Web Security ให้เดินหน้าต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้ประกาศความสำเร็จในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาด้วย
Comodo CA ผู้ให้บริการออกใบรับรอง (Certificate Authority: CA) เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของโลก และผู้นำด้านโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยบนเว็บ ประกาศวันนี้ว่า บริษัทกำลังรีแบรนด์ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Sectigo โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความสับสนในตลาด และเพื่อนำเสนอความหลากหลายและทิศทางของโซลูขั่นของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเปิดตัวชื่อใหม่ยังตรงกับโอกาสครบรอบหนึ่งปีที่ Francisco Partners ได้เข้าซื้อบริษัทจาก Comodo Group เพื่อแยกออกมาเป็นบริษัทใหม่
Sectigo ให้บริการโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยบนเว็บ (web security) แก่ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง และระดับวิสาหกิจ เพื่อปกป้องพนักงาน ลูกค้า ทรัพย์สินทางปัญญา และแบรนด์ต่างๆ จากภัยคุกคามออนไลน์ ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท Sectigo ช่วยให้ลูกค้าและคู่ค้าสามารถตรวจสอบตัวตนดิจิทัลเพื่อรับรองความปลอดภัยในทุกจุดบริการ
Bill Holtz ซีอีโอของ Sectigo กล่าวว่า "นี่ถือเป็นช่วงเวลาอันน่ายินดีสำหรับบริษัทของเรา การรีแบรนด์ใหม่เป็น Sectigo เน้นย้ำให้เห็นถึงการขยายขอบเขตการดำเนินงานของเรา จากเทคโนโลยี SSL สู่แวดวง IoT และการรักษาความปลอดภัยบนเว็บ นอกจากนี้ยังถือเป็นการประกาศพันธกิจของเราในการทำให้อินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้มากขึ้นสำหรับทั้งธุรกิจและผู้บริโภค เรามุ่งมั่นให้บริการโซลูชั่นที่ท้าทายบรรทัดฐานเดิมๆ และขับเคลื่อนทั้งอุตสาหกรรมไปข้างหน้า ตลอดจนวางแผนที่จะก้าวขึ้นเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ สร้างสรรค์ และให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก เพื่อการรักษาความปลอดภัยให้แก่เว็บไซต์ ธุรกรรม การติดต่อสื่อสาร และอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหมด"
นับตั้งแต่ถูกซื้อกิจการเมื่อเดือนตุลาคม 2560 บริษัท Sectigo ได้บรรลุเป้าหมายที่สำคัญมากมาย ได้แก่
นวัตกรรมและมาตรฐานด้านความปลอดภัย
Sectigo ได้พัฒนาโซลูชั่นและบริการของบริษัทให้กว้างไกลออกไปจากธุรกิจการออกใบรับรองดิจิทัลสำหรับเทคโนโลยี TLS/SSL ตลอดจนทำงานร่วมกับองค์กรมาตรฐานที่เกี่ยวข้องต่อไป
- IoT Manager - เปิดตัวแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์ IoT เพื่อป้องกันอุปกรณ์และเครือข่ายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ผ่านตัวตนดิจิทัลแบบ KPI ที่แข็งแกร่ง โดยให้บริการอุตสาหกรรมต่าง ๆ และรองรับแอปพลิเคชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานยนต์ โทรคมนาคม เมืองและอาคารอัจฉริยะ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
- Certificate Manager 6.0 - ปล่อยฟีเจอร์ล้ำยุค เพื่อจัดการกับข้อกำหนดทั้งหมดสำหรับการออกใบรับรองให้แก่องค์กรธุรกิจ จากหนึ่งอินเทอร์เฟซ ได้แก่ การค้นพบและใช้ใบรับรองที่ออกโดยผู้ให้บริการ SSL, บริการออกใบรับรอง Active Directory Certificate Services, การลงทะเบียนอัตโนมัติ และการต่ออายุภายใต้การควบคุมของ SLL สาธารณะ, SSL เอกชน, ผู้ใช้งาน, อุปกรณ์มือถือ, SMIME และใบรับรอง IoT โดยใช้โปรโตคอลมาตรฐานอุตสาหกรรม
- CodeGuard, Inc. - เข้าซื้อกิจการ CodeGuard ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการบำรุงรักษาเว็บไซต์ การสำรองข้อมูล และการกู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติ โดย CodeGuard ซึ่งยังคงไว้ซึ่งแบรนด์เดิม ได้ขยายธุรกิจและตั้งสำนักงานใหม่ทั้งหมดหกแห่งในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) เพื่อตอบสนองความต้องการจากนานาประเทศ และคาดว่าบริษัทจะเติบโตขึ้น 100% จากปีก่อนหน้า
- Standards Leadership - สร้างระบบสมาชิกระดับโลกเพื่อขับเคลื่อนมาตรฐานอุตสาหกรรมจาก WiMAX Forum, GSMA, Zigbee, OCF และบริษัทร่วมทุน Silicon Valley
การขยายตัวทางภูมิศาสตร์และการว่าจ้างบุคลากรมือหนึ่งของวงการ
หลังจากการซื้อกิจการ Sectigo ได้เปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในเขตโรสแลนด์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ และศูนย์การพัฒนาแห่งใหม่ในกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการรับประกันคุณภาพ และเพื่อให้บริการใน 15 ภาษา นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มจำนวนพนักงาน 17% ประจำสำนักงานทั่วโลก โดยมีการดึงตัวผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมมาร่วมทีมบริหาร ปัจจุบัน Sectigo มีพนักงานกว่า 230 คน
เว็บไซต์และทรัพยากรออนไลน์ใหม่ ๆ
ในการรีแบรนด์ครั้งนี้ Sectigo ได้ทุ่มเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างเว็บไซต์ใหม่ที่เป็นช่องทางให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับการรักษาความปลอดภัยของธุรกิจได้อย่างสะดวกง่ายดาย ซึ่งรวมถึงใบรับรอง SSL เต็มรูปแบบ เว็บไซต์ใหม่ของบริษัท ได้แก่ sectigo.com จะมอบประสบการณ์ที่มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยระบบนำทางในเว็บไซต์ที่ลื่นไหลเป็นมิตรต่อผู้ใช้ ระบบซื้อสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย ข้อมูลที่ครบครันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ และการบริการลูกค้าออนไลน์ที่ดียิ่งขึ้น