ผลวิจัยใหม่ล่าสุดจาก PwC UK แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยี AI สามารถกระตุ้น GDP โลกได้มากถึง 4.4% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ 4% ภายในปีพ.ศ. 2573 ด้วยเหตุนี้ ไมโครซอฟท์จึงมุ่งมั่นใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าทั้งในด้านการปฏิบัติงาน ผลิตภัณฑ์ ลูกค้า และวิทยาการข้อมูล
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คุณแบรด สมิธ ประธานบริษัทไมโครซอฟท์ ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ของบริษัทในการยกระดับพันธกิจด้านความยั่งยืน โดยจะผลักดันความยั่งยืนให้เป็นหัวใจหลักในทุกส่วนของธุรกิจและเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
คุณสมิธกล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่าเราต้องลงมือทำให้มากขึ้น และไมโครซอฟท์ก็กำลังทำเช่นนั้น เรากำลังจัดระเบียบบ้านของเราเอง พร้อมยกระดับการรับมือกับความท้าทายด้านความยั่งยืนทั่วโลก ด้วยการให้สินทรัพย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเรา นั่นคือพนักงานและเทคโนโลยี ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย"
พันธกิจหลักคือการขึ้นค่าธรรมเนียมคาร์บอนภายในองค์กรเป็น 15 ดอลลาร์ต่อเมตริกตันสำหรับคาร์บอนทั้งหมดที่ปล่อยออกมา ไมโครซอฟท์ได้กำหนดภาษีคาร์บอนภายในองค์กรตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว เพื่อให้ทุกแผนกมีส่วนรับผิดชอบในการลดการปล่อยคาร์บอน เงินที่ได้จากการขึ้นค่าธรรมเนียมจะนำไปใช้สนับสนุนการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ รวมถึงผลักดันความยั่งยืนให้เป็นหัวใจหลักในทุกส่วนของธุรกิจ
พันธกิจหลักอื่นๆ ประกอบด้วย
- การสร้างฐานการดำเนินงานและศูนย์ข้อมูลที่มีความยั่งยืน เช่น การสร้างฐานการดำเนินงานแบบ "ไร้คาร์บอน" ใน Puget Sound รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก
- การเร่งผลักดันการวิจัยโดยใช้วิทยาการข้อมูลในโครงการ AI for Earth ด้วยชุดข้อมูลใหม่และ API แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งานด้านสิ่งแวดล้อม
- การร่วมมือกับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืนด้วยระบบคลาวด์ อุปกรณ์ และโซลูชั่นต่างๆ ที่รองรับการปล่อยคาร์บอนต่ำ
- การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การร่วมมือกับ Carbon Leadership Council เพื่อส่งเสริมการกำหนดค่าธรรมเนียมคาร์บอนในระดับประเทศ
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ได้ร่วมกับ PricewaterhouseCoopers UK (PwC UK) เผยแพร่รายงานการวิจัยใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รายงานดังกล่าวเน้นไปที่ 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เกษตรกรรม พลังงาน น้ำ และการขนส่ง โดยพบว่าความก้าวหน้าที่เป็นผลมาจากเทคโนโลยี AI สามารถช่วยให้ GDP โลกเพิ่มขึ้นถึง 4.4% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกได้ 4% ตลอดจนสร้างงานใหม่สูงถึง 38 ล้านตำแหน่งทั่วโลก
ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ต่อยอดมาจากการทำงานอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าทศวรรษในด้านนี้ ซึ่งรวมถึงการลดการปล่อยคาร์บอน การซื้อพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 1.5 กิกะวัตต์ การร่วมมือกับลูกค้าเพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน และการลงทุน 50 ล้านดอลลาร์ในโครงการ AI for Earth
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://blogs.microsoft.com/on-the-issues/2019/04/15/were-increasing-our-carbon-fee-as-we-double-down-on-sustainability/ อ่านรายงานฉบับเต็มของ PwC ได้ที่
https://www.pwc.co.uk/services/sustainability-climate-change/insights/how-ai-future-can-enable-sustainable-future.html ไมโครซอฟท์ (Nasdaq "MSFT" @microsoft) เป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในยุค intelligent cloud และ intelligent edge โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างพลังให้ทุกคนและทุกองค์กรทั่วทุกมุมโลกได้บรรลุผลสำเร็จยิ่งขึ้น
โลโก้ -
https://mma.prnewswire.com/media/24227/microsoft_corp_logo226_9217jpg.jpg สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข่าวสาร และทัศนะจากไมโครซอฟท์ สามารถดูได้จาก Microsoft News Center ที่
http://news.microsoft.com ทั้งนี้ ลิงค์ หมายเลขโทรศัพท์ และหัวข้อต่างๆ มีความถูกต้อง ณ วันที่เผยแพร่ แต่อาจมีอาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต สำหรับผู้สื่อข่าวและนักวิเคราะห์ที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ Rapid Response Team ของไมโครซอฟท์ หรือช่องทางติดต่ออื่นๆตามที่ระบุไว้ใน
http://news.microsoft.com/microsoft-public-relations-contacts