เปิดศักราชใหม่แห่งวงการเกม 3D บน PC
ย้อน อดีตกลับไปเมื่อปีค.ศ. 1992 ในสมัยนั้นเกม 3D บนคอมพิวเตอร์ในต้องง้อพลังการประมวลผลของซีพียูเพียงอย่างเดียว หรือเรียกได้ง่ายๆว่าเครื่องไหนที่มีซีพียูแรง และมีแรมมากๆเครื่องนั้นก็จะเล่นเกมได้ดี แต่คำว่าดีในทีนี้ไม่ได่หมายความลื่นหัวแตกนะครับ แต่กลับหมายถึงว่ากระตุกน้อยกว่าเครื่องที่มีความเร็วซีพียูต่ำกว่านั้นเองค รับ ว่าแล้วเราก็มาดูภาพเกม 3D ในสมัยปี ค.ศ 1992 กันหน่อยดีกว่า
01.UltimaUnderworld1992
ภาพเกม Ultima Underworld ที่ออกมาในปี ค.ศ. 1992
02.Wolfenstein
ภาพเกม Wolfenstein 3D ที่ออกมาในปี ค.ศ. 1992
จาก ภาพที่เห็นของเกม Ultima Underworld และ Wolfenstein 3D เป็นเกม 3D ที่ใช้ Texture Mapping ซึ่งจะกินพลังการประมวลผลของซีพียูเป็นอย่างมากครับ เพราะว่า ซีพียูต้องทำการคำนวนทั้งโครงสร้างภายในของวัตถุ และซีพียูทำการ Texture Mapping บนพื้นพิวของวัตถุ แถมยังต้องคำนวณการเคลื่อนไหวของวัตถุในทิศทางต่างๆอีกด้วยครับ อย่างนี้ไม่กระตุกก็ให้มันรู้ไปสิครับ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับเกม Ultima Underworld เป็นเกม 3D ที่มีการใช้ Texture Mapping อย่างเติมตัวเกมแรกครับ
เพิ่ม เติมเกี่ยวกับเกม Wolfenstein 3D เป็นเกมที่พัฒนาโดยค่าย id Sofware ซึ่งเป็นค่ายเกมเดี่ยวกับที่พัฒนา 2 เกมดังที่ใครๆหลายคนต่างรู้จักนั้นก็คือ Doom และ Quake ครับ เกม Wolfenstein 3D ถือได้ว่าเป็นแม่แบบของเกมแนว มุมมองบุคคลที่หนึ่ง หรือ First-person shooters เลยนะครับ
03.Doom1993
Doom ภาคแรกที่ออกมาในปี ค.ศ. 1993
เอา ล่ะครับด้วยความมุ่งมั้นที่จะพัฒนาเกมดีๆ กราฟิคสวยๆให้กับแฟนๆนักเล่นเกม PC ทั้งหลายแหล่ (แม้สเปกเครื่องพวกท่านๆจะไม่ถึงก็ตามที) id Sofware ก็ได้ส่งเกม Doom ภาคแรกออกมาในปี 1993 ซึ่งเป็นเกม 3D ที่มีกราฟิคที่สวยงาม และสมจริงกว่าเกมต่างๆในยุคนั้นมาก และตามมาด้วยอัตราการบริโภค ซีพียูที่หนักเอาการ เรียกได้ว่าหากใครอยากจะเล่นเกม Doom ภาคแรก ก็ต้องอัพเกรดซีพียูเป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดเลยละครับถึงจะเล่นได้แต่ก็ยัง กระตุกอยู่ดี เพราะเกมมันล้ำสมัยพอสมควร เหมือนกับในปัจจุบันหากใครต้องการเล่นเกม Crysis ก็ต้องใช้การ์ดจอระดับสูงตัวใหม่ จึงจะสามารถที่จะเล่นเกมๆนี้ได้ในระดับความละเอียดสูงๆครับ
3dfx Where are you?
3dfx ก่อตั้งขึ้นในปลายปีค.ศ. 1994 ครับ โดย Gordon Campell, Gary Taroilli และ Scott Sellers ครับ สำหรับในปี 1994 นี้ 3dfx กำลังเริ้มต้นพัฒนาชิพกราฟิคของตนเองอยู่ครับ
ต่อมาในปี 1995 ในงาน COMDEX ทาง 3dfx ได้นำเสนอชิพกราฟิคของตน ซึ่งเป็นชิพที่ใช้ API ที่ชื่อว่า Glide เป็นหลัก โดยชิพตัวนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ได้กับแผงวงจรสำหรับเครื่องเล่นเกม Arcade และสำหรับติดตั้งบนการ์ดเพื่อใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ด้วยครับ โดยชิพดังกล่าวภายในชิพมี TMU (Texture Mapping Unit) ซึ่งจะช่วยลดภาระการทำงานของซีพียูลง เมื่อมีการเล่นเกม 3D เพราะชิพตัวนี้จะช่วยประมวลผลในการทำ Texture Mapping บนพื้นพิวของวัตถุ 3มิติ แทนซีพียู ซึ่งจะทำให้ซีพียูเหลือพลังในการประมวลผลสำหรับนำไปใช้ในงานอื่นๆอีกมากมาย เลยครับ
ชิพของ 3dfx ได้รับการตอบรับจากนักพัฒนาเกมจากค่ายต่างๆเป็นอย่างดี เพราะ API ที่ชื่อว่า Glide นั้น อำหนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาเกมเป็นอย่างมาก เพราะ Glide มี Abtracetion Layer ทำให้นักพัฒนาเกมสามารถเขียนโปรแกรมเรียกใช้งานคุณสมบัติของ GLide ได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเหมือน OpenGL และ DirectX ครับ
ในปี 1995 นี้ 3dfx แค่แนะนำสินค้าเฉยๆนะครับ ยังไม่ได้ว่างขาย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักพํฒนาซอฟแวร์ และลูกค้าที่จะต้องเก็บเงินไว้ซื้อการ์ดนั้นเองครับ
ต่อมาในปี 1996 ด้วยการพัฒนาอันไม่หยุดยั้งของค่าย id Software ก็ได้ส่งเกม Quake ออกมาอีกแล้วครับท่าน แต่โชคดีหน่อยที่ในปีนั้น ทางอินทลได้ส่งซีพียู Pentium MMX ออกมา ซึ่งภายในซีพียูมีชุดคำสั่ง MMX ที่ช่วยให้ซีพียูสามารถประมวลผลเกี่ยวกับงาน Multimedia ได้ดีขึ้น และเกม 3D เองก็ได้รับผลบุญไปด้วยครับ ซึ่งก็สามารถทำให้เล่นเกม Quake โดยการใช้ Software Render ได้ไม่กระตุกครับ แต่ภาพก็ยังไม่สวยซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของ Software Render ล่ะครับ
ในปีเดียวกันนี้เอง 3dfx ได้เปิดตัวการ์ดจอ Voodoo ซึ่งใช้ชิพเซตกราฟิค SST-1 ในงาน COMDEX และได้สาถิตการทำงานของ Voodoo ให้ผู้เข้าชมในงานดังนี้ครับ
1. ทดสอบ เล่นเกม Quake โดยใช้พลังการประมวลของซีพียู Pentium MMX 200 MHz เพียงอย่างเดียว หรือพูดง่ายๆคือ ทดสอบในโหมด Software Render นั้นเอง ทดสอบที่ความละเอียด 320 x 200 ผลที่ได้คือ ได้เฟรมเรตออกมาอยู่ที่ 41 เฟรมต่อวินาทีครับ
2. ทดสอบเล่นเกม Quake โดยใช้ Pentium MMX 200 MHz ร่วมกับ การ์ด Voodoo โดยใช้ API OpenGL ทดสอบที่ความละเอียด 320 x 200 ผลที่ได้คือ ได้เฟรมเรตออกมาอยู่ที่ 70 เฟรมต่อวินาทีครับ
3. ทดสอบเล่นเกม Quake โดยใช้พลังการประมวลของซีพียู Pentium MMX 200 MHz เพียงอย่างเดียว ทดสอบที่ความละเอียด 512 x 384 ผลที่ได้คือ ได้เฟรมเรตออกมาอยู่ที่ 21 เฟรมต่อวินาทีครับ
4. ทดสอบเล่นเกม Quake โดย Pentium MMX 200 MHz ร่วมกับ การ์ด Voodoo โดยใช้ API OpenGL ทดสอบที่ความละเอียด 512 x 384 ผลที่ได้คือ ได้เฟรมเรตออกมาอยู่ที่ 62 เฟรมต่อวินาทีครับ
ภาพ เปรียบเทียบเกม Quake ระหว่างการใช้ Software Render กับ การใช้ OpenGL ร่วมกับการ์ด Voodoo
ผลที่ได้จากการทดสอบ สร้างความตื้นเต้นให้กับคนในวงการเกม PC เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่ 3dfx ทำนั้น แสดงให้เห็นว่าต่อไปนี้เราสามารถที่จะเล่นบนคอมพิวเต อร์ได้อย่างลื่นไหลไม่ กระตุก และมีภาพสวยงาม เชิคเช่นเดียวกับการเล่นบนเครื่อง Arcade ได้แล้ว ในที่สุดศักราชใหม่แห่งวงการณ์เกม PC ก็ได้ถูกเปิดขึ้นแล้วโดย 3dfx
3dfx Voodoo
หลัง จากเปิดตัวในงาน COMDEX ไปแล้ว ต่อมา ในช่วงเดือน ตุลาคม ค.ศ. 1996 การ์ด Voodoo ก็โดนผลิตออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก เพื่อป้อนตลาดกราฟิคการ์ด สำหรับคอมพิวเตอร์ และหลังจากที่ Voodoo ออกมาก็มีเกมต่างๆที่ใช้ GLIDE ตามออกมาในตลาดอย่างมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นเกม Tomb Raider ภาคแรก, เกม Mechwarrior 2 และเกมต่างๆอีกมากมาย
แต่ข้อจำกัดของ Voodoo นั้นคือ Voodoo เป็นการ์ดสำหรับทำหน้าที่ประมวลผล 3D อย่างเดียว ดังนั้นหากท่านจะซื้อการ์ดจอ Voodoo แล้วล่ะก็ท่านควรจะมีการ์ดสำหรับทำงาน 2D ทั่วไปไว้อีก 1ตัวเพื่อใช้ต่อทำงานร่วมกับ Voodoo ครับ
รายละเอียดของชิพเซตกราฟิค SST-1 บนการ์ด Voodoo
* เทคโนยีการผลิต 350 นาโนเมตร
* Core Speed 50 Mhz
* มี 1 PixelPipeline 1 Texture Mapping Unit
* Memory : EDO-RAM 50 Mhz 4-6 MB 64-bit x 2 (เนื่องจากใช้แรม 64 bit 2 ชุด ซึ่งทำงานเป็นอิสระต่อกัน)
* * Slot PCI
ภาพการ์ดจอ Voodoo ซึ่งใช้ชิพเซต SST-1
ขอยืมบทความดีๆจาก
http://pcgametech.blogspot.com/2010/01/blog-post_2323.htmlของคุณ IonRa ถ้าไม่มีเขาพวกเราคงไม่ได้อ่านบทความดีๆแบบนี้เป็นภาษาบ้านเรานะครับ
ถ้าใครต้องการติดตามบทความของคุณIonRaเชิญทีนี้นะครับ
http://pcgametech.blogspot.com/search/label/Graphics%20Hardware%20Article