การบำรุงรักษาเชิงป้องกันแบบดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมเบาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลียประสบความสำเร็จกว่าที่ผ่านมา ด้วยโปรแกรมยอดนิยมของ SKF รุ่นที่ 2 ที่ได้เข้ามาเปลี่ยนวิธีคิดในปัจจุบันเพื่อให้แน่ใจว่าจะตรวจพบปัญหาได้ก่อนด้วยการตรวจสอบที่ง่ายกว่าเดิม มีการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญ และมีรายงานอย่างละเอียดสำหรับทุกอย่าง
SKF ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เปิดตัว Smart Supplier 4.0 Gen 2 ซึ่งเป็นโปรแกรมประเมินสภาพสินทรัพย์ดิจิทัล มาช่วยผู้ใช้ให้ทำงานได้ชาญฉลาดกว่าและง่ายมากขึ้น ในรูปแบบที่ประหยัดกว่าเดิม ด้วยการช่วยให้ผู้ใช้ตรวจพบสาเหตุที่อาจทำให้เกิดความบกพร่องในเครื่องจักรของตัวเองได้ก่อน จึงสามารถเตรียมมาตรการรองรับก่อนที่ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลต่อการทำงาน โปรแกรมนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมเบาที่กำลังเริ่มเข้าสู่การบำรุงรักษาระบบแบบดิจิทัล และจะนำเสนอแพลตฟอร์มที่เหมาะกับยุคอุตสาหกรรม 4.0 แก่ลูกค้า
โปรแกรมดังกล่าวทำงานโดยใช้ Quick-Collect Sensor ของ SKF ที่เชื่อมต่อไร้สายกับแอปมือถือของ SKF ในการวัดข้อมูลจากเครื่องจักร ก่อนจะนำข้อมูลที่รวบรวมมาได้อัปโหลดขึ้นยังคลาวด์และส่งไปที่ศูนย์ Rotating Equipment Performance Centre ของ SKF เพื่อให้วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญที่ใว้ใจได้ทำการวิเคราะห์และจัดทำรายงานปัญหาอย่างละเอียด พร้อมแนะนำแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมต่อไป
Smart Supplier 4.0 Gen 2 มีให้เลือก 3 ระดับ คือ "QuickPulse", "QuickPro" และ "QuickPro+" ซึ่งจะเป็นแบบเริ่มต้น ระดับกลาง และขั้นสูง ตามลำดับ โดยผู้ใช้งานไม่ว่าจะเลือกแบบ จะได้สิทธิ์เข้าถึง Quick-Collect Sensor การสมัครสมาชิกแอปพลิเคชันมือถือของ SKF รวมถึงรายงานการประเมินอย่างละเอียด พร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ เพิ่มเติมตามรูปแบบที่เลือก
ด้วยการเปลี่ยนแนวคิดในการบำรุงรักษาเครื่องจักร SKF ไม่เพียงจะช่วยป้องกันเหตุเครื่องจักรหยุดทำงานโดยไม่ได้คาดคิด แต่ยังมีส่วนสำคัญในด้านต่าง ๆ ดังนี้:
- เพิ่มความไว้วางใจและประสิทธิภาพของเครื่องจักร
- ยกระดับการจัดการการหล่อลื่นเพื่อยืดอายุของเครื่องจักร
- ยกระดับการจัดการสินค้าคงคลังเพื่อลดการเก็บสินค้าที่มากเกินไป
- ลดต้นทุนการบำรุงรักษาโดยรวม
- ยกระดับการผลิตผ่านโปรแกรมการบำรุงรักษาแบบดิจิทัล
"ลูกค้าของเราในภาคอุตสาหกรรมเบา จะได้ประโยชน์มากสุดจากโปรแกรมการบำรุงรักษาแบบดิจิทัลระดับเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าถึงการบำรุงรักษาแบบดิจิทัลได้จากกลยุทธ์การบำรุงรักษาปัจจุบันของลูกค้า" Gavin Garland ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อมูลจำเพาะได้ที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ SKF หรือตัวแทนฝ่ายขายของ SKF ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย
เกี่ยวกับ Aktiebolaget SKF (บริษัทมหาชน)
พันธกิจของ SKF คือการขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจแบริ่ง SKF นำเสนอโซลูชันเกี่ยวกับเพลาหมุน รวมถึงแบริ่ง ซีล การจัดการการหล่อลื่น การตรวจสอบสภาพ และบริการบำรุงรักษา SKF มีตัวแทนอยู่ในกว่า 130 ประเทศ และมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 17,000 แห่งทั่วโลก ยอดขายประจำปี 2562 อยู่ที่ 86,013 ล้านโครนาสวีเดน และมีพนักงาน 43,360 คน
www.skf.com(R) SKF เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SKF Group
