ปฏิบัติการหมูหยองเอร็ดอร่อยมาลองทำ
หมูหยอง บริโภคเองสถานที่เรือนกันเถอะ
หมูหยองของกินที่มีถิ่นกำเนิดในสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นภักษ์แปรรูปจากหมูเนื้อแดง เป็นอาหารที่คนไทยรู้จักกันดีมาเป็นเวลาช้านาน เป็นของกินที่มักนำมารับประทานกับข้าวต้ม โจ๊ก หรือนำไปทำอาหารร่วมกับเมนูอื่นๆ เช่น ใช้ในการทำขนมปังไส้หมูหยอง หรือใช้ในการทำแซนวิชไส้หมูหยอง การทำหมูหยองมีของกินในการปรุงอยู่ หลายขั้นตอนที่ต้องฝึกอยู่พอสมควร มีหลักการต่างๆ เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกเนื้อหมูแดงไร้มัน ขั้นตอนในการทำให้ กรอบอร่อย โดยเนื้อหมูที่เอามาใช้ในการรังสรรเมนู
หมูหยอง ต้องเป็นเนื้อหมูไร้มัน โดยต้องนำมาต้มให้เนื้อหมูเปื่อย หลักจากต้มจนได้เนื้อหมูที่เปื่อยแล้ว ถ้าจะทำให้กรอบอร่อย ต้องนำไปอบเพื่อไล่เอาน้ำให้กำเนิดจากเนื้อหมู หลังจากนั้นอบไล่น้ำออกจากเนื้อหมูแล้ว หลังจากนั้นให้นำเนื้อหมูมาขยี้ หรือยีให้เป็นฝอยๆ เป็นเส้นๆ เราจะใช้วิธีแทงเนื้อหมูในครกก็ได้ หลังจากนั้นจึงนำไปคั่วต่อพร้อมกับเพิ่มรส แค่นี้เราก็จะได้หมูหยองหอมอร่อยไว้ กินที่บ้านเครื่องปรุงในการทำมีอะไรบ้างมาตั้งต้นกันเลย
ขั้นตอนการทำหมูหยองมาเริ่มแรก ทำความสะอาดเนื้อหมู ต่อจากนั้นหั่นเนื้อหมูเป็นก้อนๆ โดยฟันขนาดไม่ต้องใหญ่มาก โดยหั่นตามแนวยาวของเส้นเนื้อหมู เตรียมภาชนะสำหรับใส่ต้มใส่น้ำลงไปในภาชนะ 1.5 ลิตร จากนั้นต้มน้ำให้เดือด พอน้ำเริ่มเดือด ใส่ก้อนเนื้อหมูที่หั่นไว้แล้วลงไป ใส่เครื่องปรุงต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ โดยใส่ โป๊ยกั๊ก อบเชย ในระหว่างนี้ น้ำกินเดือดในหม้อฉ้อฉลจะมีฟองต้องคอยหมั่นตักฟองออกทิ้งอยู่เรื่อยๆ หลังจากตักฟองออกหมดใส่ผงพะโล้ลงไป แล้วใส่ซีซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย เกลือ จากนั้นให้ปิดฝาหม้อ และต้มต่อไปอีกเดา 2 ชั่วโมง จนหมูเปื่อยนุ่ม เมื่อต้มจนเนื้อหมูสุกเปื่อยแล้ว ตักเนื้อหมูขึ้นมาพักก่อน รอให้เนื้อหมูเย็นตัวลง
นำเนื้อหมูพักไว้ เอามาใส่ครกตำขยี้ๆ ให้เนื้อยุ่ยออกจากกัน ทำซ้ำในขบวนการนี้จนเนื้อหมูยุ่ยหมดแล้ว
หลังจากนั้นให้นำเนื้อหมูที่ยุ่ยแล้วไปเข้าเตาอบเพื่อไล่ความชื้นที่อุณหภูมิ 82C. หรือ 180F. โดยใช้เวลาอบ 30 นาที เป็นการไล่น้ำและความชุ่มชื้นออกจากเนื้อหมู
ต่อจากนั้นนำเนื้อหมูที่ผ่านการอบอ้าวแล้วมาคั่วต่อในกระทะ โดยเปิดไฟแรงปานกลางก็พอจะได้ไม่ไหม้ คั่วไปเรื่อยๆ จนสีออกสีเหลืองน้ำตาลๆ ก็จะได้
หมูหยองกรอบๆ แซบ ดูจากกรรมวิธีในการทำแล้วอาจจะดูยุ่งๆ แต่ลงมือทำจริง ไม่ยุ่งยากสักเท่าไหร่
เครดิตบทความจาก :
http://www.ssosawang.com/board/index.php?topic=437743.new#newTags : หมูหยองโอทอป