ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่จึงจักซื้อรถยนต์ใหม่คันแรกได้? 
มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายควรมีรายได้เท่าไหร่ จึงจักพ่างพอที่จักถอยรถป้ายแดงคันแรกในชีวิตได้?
หลายคนมองว่ารถยนต์เป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น แต่เพราะด้วยบางคน รถยนต์อาจไม่ได้มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวก หรือว่าแสดงฐานะทางสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือหาเลี้ยงชีพ เดินทางไปพบปะลูกค้าต่างจังหวัด ใช่ไหมสมมตใครมีบ้านอยู่ชานเมืองที่ระบบขนส่งมวลชนไม่สะดวก ก็ต้องอาศัยรถส่วนตัวในการเดินทาง ด้วยกันยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยเพราะด้วยคุณผู้หญิงที่ต้องเดินทางค่ำมืดเหมือนลำพังด้วย
แต่กระนั้น รถยนต์ก็ยังถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง นับวันยิ่งเสื่อมมูลค่า พร้อมด้วยยังมีค่าใช้จ่ายก้อนโตเพื่อดูแลรถยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา
เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประจำ การเป็นเจ้าของรถยนต์หนึ่งคันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาให้รอบเสียก่อน คือ 1.ความจำเป็น กับ 2.ความพร้อมทางการเงิน ซึ่งข้อแรกเราคงไม่ขอพูดถึง เพราะความจำเป็นของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่สิ่งสำคัญอีกประการ คือ ความพร้อมทางการเงิน เพื่อไม่ให้กลายเป็นหนี้หัวโตเพราะไม่รู้ตัว
เพราะปกติแล้ว สถาบันการเงินที่ ให้เป็นอิสระสินเชื่อรถยนต์ จะพิจารณารายได้ของผู้กู้ในแต่ละเดือน (ธนาคารและไฟแนนซ์ส่วนใหญ่จะนำเอารายได้อื่นๆ เช่น คอมมิชชั่น, โบนัส, โอที ฯลฯ มาคิดเฉลี่ยบวกกับฐานเงินเดือนด้วย) ถ้าหากรายได้ในแต่ละเดือนมากกว่ายอดผ่อนในแต่ละเดือนประมาณการ 2 - 2.5 เท่าขึ้นไป โอกาสได้รับอนุมัติก็มีสูงขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น หากต้องการเป็นเจ้าของรถป้ายแดงสักคันหนึ่ง สมมติคำนวณเงินผ่อนแต่ละเดือนอย่างคร่าวๆ เช่น รถ Toyota Yaris ATIV 1.2G ค่า 609,000 บาท ดาวน์ 20 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 121,800 บาท ผ่อนชำระ 60 งวด รวมดอกเบี้ยปกติแล้วตกเดือนละ 9,400 บาท (เพราะว่ากะ) จึงควรมีรายได้ต่อเดือนขั้นต่ำอย่างน้อยที่สุดมากกว่า 18,800 บาทขึ้นไป จึงจักเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นนี้ได้
ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการครอบครองรถ เช่น ค่าประกันภัย, ค่าน้ำมัน, ค่าเช็คระยะ, ค่าซ่อมรถ, ค่าที่จอดรถ ฯลฯ สมมตมีภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ต้องรับผิดชอบด้วยแล้ว เช่น ค่าที่พัก, ค่าอาหาร, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และอื่นๆ ก็ต้องนำมาคำนวณเพื่อพิจารณาด้วย เพื่อไม่ให้กลายเป็นหนี้หัวโตครับ
ที่มาของข่าว :
https://auto.sanook.com/66457/Tags : motorshow 2019, motorshow, รู้เรื่องรถ
