ผมว่าที่ผมฟังมาหนะ ศาลเค้ามีคำสั่งยกที่นายกให้อัยการขออำนาจศาลให้ผู้ชุมนุมให้ออกนอกพื้นที่ราชดำริ เนื่องจากเป็นอำนาจของ กอรมน. ซึ่งมีอำนาจสลายการชุมนุมได้โดยไม่ต้องขออนุญาตศาลอยู่แล้วครับ แปลเป็นไทยได้ว่า อำนาจตามกฏหมายอยู่กับนายกอยู่แล้ว สามารถจัดการได้ทันทีตามพรบความมั่นคงโดยไม่ต้องมาขอศาล
คราวนี้จะทำหรือไม่ทำ ขึ้นกับนายกแล้ว อยากดูใจนายกจริงๆว่าจะเห็นกับความเดือดร้อนของชาวบ้าน หรือจะพูดไปเรื่อยๆ หลบหรือโยนให้คนอื่นไม่ได้แล้วครับ ศาลท่านบอกว่าขึ้นกับท่านนายกแล้ว
ผมก็อยากดูน้ำหน้า นายกเด็กจะใจถึงหรือไม่ ขนาดทหารยังหนีมาแล้ว อิอิกำ
เรื่อง การหนีทหารของ อภิสิทธิ์
หล่งข่าวจากกองทัพบกยอมรับว่า กองทัพบกมีเอกสารต้นขั้ว สด.9 ที่ออกให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อบรรจุเป็น
ทหารกองเกินเมื่อวัน ที่ 4 ก.ค. 2529 จริง และมีเอกสาร สด.1 ของสัสดีที่ยืนยันการรับ สด.9 ด้วย อย่างไรก็ดี แม้นายอภิสิทธิ์
ไม่ มารับการตรวจเลือกและไม่ได้รับ สด.43 แต่เมื่อไปรับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสังกัดกระทรวงกลาโหมในวันที่ 7 ส.ค. 2530
ก็ถือว่ามีฐานะเป็นทหาร เท่ากับว่ามาเป็นทหารแล้ว เพียงแต่ไม่ไปแจ้งให้พ้นบัญชีคนขาดเท่านั้น ส่วนหลักฐานในการสมัคร
เข้า รับราชการ ต้องไปตรวจสอบที่กระทรวงกลาโหม ไม่ใช่โรงเรียนนายร้อย จปร. ซึ่งกรมกำลังสำรองกำลังรวบรวมให้ ผบ.ทบ.
หลังจากแจ้งด้วยวาจาไปแล้วว่า ไม่ได้หนีทหาร
สำหรับการที่มีข้อสงสัยว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ไปขอใบแทน สด.9 เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2531 เหตุใดจึงไม่ระบุว่าวันที่บรรจุ
เป็นทหารกองเกินคือวันที่ 4 ก.ค. 2529 ตาม สด.9 ใบเดิมนั้น แหล่งข่าวอ้างว่า ตามระเบียบไม่ต้องระบุเช่นนั้นใครมาขอขึ้นทะเบียน
หรือใบแทนวันไหนก็ เป็น ทหารกองเกินวันนั้น ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ขั้น ขั้นที่ 1 นับแต่อายุ 21 ปี จนครบ 10 ปี ขั้น 2 ต่อไป 7 ปี
ขั้น3 ต่อไปอีก 6 ปี
"กรณีคุณอภิสิทธิ์ เราพิจารณากันมากว่าผิดหรือไม่ แต่เมื่อเขามีใบ สด.9 ที่ออกให้ในครั้งแรก ก็ไม่ถือว่าฉบับต่อไป
ปลอมแปลง เพราะเป็นใบแทนได้ ขณะนี้กรณีของคุณอภิสิทธิ์จบแล้ว เพราะถ้ามีความผิด อายุความก็หมดลงแล้วเมื่อตอนที่อายุ 30 ปี"
เหมือนผมที่เรียน รด. ครับ ถ้าเราไปเรียนถือว่าไปสมัครเป็นทหารไปแล้วครับ เวลาปี 3 เค้าจะมีใบ ส.ด 8 ให้ เป็นการปลดระวางการเป็นทหารกองเกินแล้วครับ ห้ามไป เกณฑ์ทหาร อีกครับ เพราะถือว่าซ้ำซ้อน