iqpressrelease
|
|
« เมื่อ: 01 มีนาคม 2021, 15:09:18 » |
|
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ อีเวนต์การสื่อสารด้วยมือถือระดับโลกอย่าง Mobile World Congress (MWC) Shanghai 2021 (MWC Shanghai 2021) กลับมาจัดที่ Shanghai New International Expo Centre อีกครั้งหลังหยุดไป 1 ปี โดยในโอกาสนี้ Yangtze Optical Fibre and Cable Joint Stock Limited Company ('YOFC', รหัสหุ้น: 601869.SH, 06869.HK) ได้เปิดตัวทั่วโลกในปีนี้ด้วยธีม "Experience 5G with YOFC" (สัมผัส 5G กับ YOFC) โดยบริษัทได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ โซลูชัน รวมถึงเทคโนโลยีที่ครบวงจรและขีดความสามารถในการให้บริการโดยโฟกัสไปที่ 5G นวัตกรรมทางเทคโนโลยี อุตสาหกรรมอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ การคมนาคมอัจฉริยะ มหาสมุทรอัจฉริยะ บ้านอัจฉริยะ พลังงานอัจฉริยะ ข้อมูลอัจฉริยะ และอื่น ๆ YOFC ยังนำเสนอเว็บบินาร์ทางเทคนิคสำหรับตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีการแนะนำผลิตภัณฑ์เส้นใยนำแสง ออปติคัลโมดูล ตลอดจนโซลูชันสำหรับการขนส่งทางรางและการสื่อสารในเรือดำน้ำ
ในงานเว็บบินาร์ดังกล่าว คุณ Michael Finch นักวิเคราะห์ CRU ได้รับเชิญให้แชร์ข้อมูลอินไซต์เกี่ยวกับเทรนด์อุตสาหกรรมเส้นใยนำแสง เขาบรรยายถึงความเคลื่อนไหวในตลาดสำคัญระดับภูมิภาค เน้นถึงปัจจัยขับเคลื่อนการบริโภค FTTx และ 5G ซึ่งในมุมมองของเขานั้น ความต้องการด้านเครือข่ายบรอดแบนด์ที่มีความเสถียร ความจุสูง และรองรับด้วยเส้นใยนำแสงนั้นมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และรัฐบาลทั่วโลกต่างก็ยกระดับเป้าหมายสำหรับ FTTH อย่างไรก็ตาม การบริโภค FTTH ทั่วโลกนั้นลดลงจากจุดสูงสุดในปี 2017 ซึ่งทำให้ 5G เป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การก่อสร้างเครือข่าย 5G อย่างเป็นเอกเทศนั้นต้องใช้เส้นใยมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่สอดคล้องกัน คุณ Finch เชื่อว่า ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป 5G จะส่งผลมากขึ้นต่อการใช้งานออปติคัลเคเบิลทั่วโลก
คุณ Raadjkoemar Matai หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ฝ่ายผลิตภัณฑ์เส้นใยของ YOFC ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเส้นใยนำแสงใหม่ของ YOFC สำหรับเครือข่าย 5G ว่า ทราฟิกดาต้าที่ขยายตัวในยุค 5G นั้นได้เพิ่มแรงกดดันให้กับการรับส่งข้อมูลและแบนด์วิดท์ของเครือข่ายผู้ถือ ขณะที่อัตราการรับส่งข้อมูลของเครือข่ายหลักจะเพิ่มขึ้นจาก 100G เป็น 200G/400G และสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นการพัฒนาเส้นใยนำแสงและเคเบิลที่รองรับระบบ 200G/400G ไว้ล่วงหน้าจึงเป็นการวางรากฐานสำหรับการสร้างเครือข่ายข้อมูลไฮสปีด เส้นใยนำแสง G.654.E ของ YOFC ซึ่งมีอัตราส่วนการสูญเสียต่ำกว่าและมีพื้นที่ทรงประสิทธิภาพที่ใหญ่กว่า ได้รับการนำไปใช้อย่างประสบความสำเร็จในโครงการวางสายสัญญาณของ China Mobile, China Telecom และ China Unicom รวมทั้งโครงการโครงข่ายไฟฟ้าด้วย นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบ 400G บนเครือข่ายที่มีอยู่ และสามารถตอบสนองความต้องการด้านเครือข่ายใน 10-20 ปีข้างหน้า
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าโซลูชันเส้นใยนำแสง/เคเบิลนั้นสอดคล้องกับความต้องการสำหรับแบนด์วิดท์เครือข่ายหลัง 5G พร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์ ในเวลาเดียวกัน YOFC มีความยินดีที่ได้นำเสนอเส้นใย BILL(R) ที่ออกแบบมาเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนทรัพยากรในการวางเครือข่าย 5G ช่วยลดปัญหาสัญญาณอ่อนลงใน MAN และแก้ปัญหาสัญญาณขาดหายในระหว่างรับส่งข้อมูลและปัญหาการลดอัตราสัญญาณอันเนื่องมาจากเส้นใยหักงอ ด้วยอัตราส่วนความสูญเสียที่ต่ำกว่า การต้านทานการดัดที่ดีขึ้น และขนาดที่เล็กลง เส้นใยนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ท่อเท่านั้น แต่ยังรับประกันการรับส่งแบบความเร็วสูงสำหรับคลื่น/สัญญาณยาว และความเสถียรผ่านความสามารถในการดัดที่ดีขึ้น
YOFC ให้ความสำคัญกับความต้องการหลักและเพนพอยต์ของลูกค้า จึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันชั้นนำของอุตสาหกรรมในเซกเตอร์การสื่อสารในระบบรางรถไฟ ดาต้าเซ็นเตอร์ และการสื่อสารในเรือดำน้ำ ซึ่งรวมถึงเคเบิลร่วมแกนบรอดแบนด์ 5G ที่กันรังสีรั่วไหล ออปติคัลโมดูลเต็มรูปแบบ เคเบิลสำหรับเรือดำน้ำ และผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยอื่น ๆ
นอกจากเว็บบินาร์แล้ว YOFC ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว X-Band Optical Fibre Brand เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นที่รวมของผลิตภัณฑ์เส้นใยนำแสง X-Band แบบครบวงจรของ YOFC ตั้งแต่เครือข่ายทางเข้าไปจนถึงเครือข่ายที่เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายท้องถิ่น และจากบกสู่มหาสมุทร บริษัทให้ความสำคัญกับคุณค่าที่แน่นอน ได้แก่ ความเป็นเลิศในด้านประสิทธิภาพ คุณภาพ และการเชื่อมต่อที่กว้างขวาง ด้วยภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่งและผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า YOFC มุ่งมั่นที่จะสร้างเครือข่ายออปติคัลที่มีความเสถียร คงทน และมีประสิทธิภาพ
|