ในปี 2565 แซดทีอีครองส่วนแบ่งตลาดบรอดแบรนด์มือถือ (MBB) และอินเทอร์เน็ตไร้สาย (FWA) อันดับ 1 ของโลก โดยผลิตภัณฑ์ 5G MBB และ FWA ของแซดทีอีครองส่วนแบ่งตลาดโลกสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ในปี 2566 แซดทีอีเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 5G FWA รุ่นที่ 5 และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ยึดแนวคิด "สีเขียว อัจฉริยะ และปลอดภัย"
แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น (ZTE Corporation) (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นนำระดับโลก เข้าร่วมงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 (Mobile World Congress หรือ MWC 2023) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยในวันแรกของงาน แซดทีอีได้เปิดตัวระบบอินเทอร์เน็ตไร้สาย (FWA) เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด "สีเขียว อัจฉริยะ และปลอดภัย" (Green, Intelligence & Security หรือ GIS) พร้อมเปิดตัว 5G FWA รุ่นที่ 5 (5G FWA Gen 5) และ MC888 Pro เวอร์ชัน GIS (MC888 Pro GIS Version)
ปัจจุบัน แซดทีอียังคงขยายขอบเขตการให้บริการอุปกรณ์รับข้อมูลปลายทางสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลและระดับครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานฉบับใหม่ของทีเอสอาร์ (TSR) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาวิชาชีพระหว่างประเทศ แสดงให้เห็นว่า ในปี 2565 แซดทีอีมีส่วนแบ่งตลาด MBB และ FWA รั้งอันดับ 1 ของโลก โดยผลิตภัณฑ์ 5G MBB และ FWA ของแซดทีอีครองส่วนแบ่งตลาดโลกสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยยอดจัดส่งสะสมทั่วโลกมากกว่า 3 ล้านยูนิต ซึ่งใช้บริการจากผู้ให้บริการขนส่งกว่า 100 รายในการกระจายสินค้า นอกจากนี้ แซดทีอียังได้ประกาศยกระดับแนวคิดผลิตภัณฑ์ "สีเขียว อัจฉริยะ และปลอดภัย" เพื่อขานรับกระแสการพัฒนา FWA ล่าสุด
เปิดตัว FWA รุ่นที่ 5 ทั่วโลก ยกระดับความเร็ว Wi-Fi 7
5G FWA รุ่นที่ 5 ของแซดทีอี เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงใหม่ล่าสุด รองรับมาตรฐาน 3GPP R17 ล่าสุด และการเข้าถึง Tri-band Wi-Fi 7 ย่านความถี่ 6 GHz / 5 GHz / 2.4 GHz ตามเลเยอร์ (Layer-based Access) สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ระดับสูง กลาง และต่ำ โดยมีอัตราการส่งข้อมูลสูงสุด 21 Gbps ด้วยพอร์ต 10 กิกะบิต อีเทอร์เน็ต (10 Gigabit Ethernet) และแบนด์วิดท์ที่เพิ่มขึ้น จึงสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ นอกเหนือไปจากการทำงานจากที่บ้าน การเล่นเกม การดูทีวี หรือการใช้งานระบบบ้านอัจฉริยะ
ด้วยมาตรฐานเทคโนโลยี Wi-Fi 7 ล่าสุด ทำให้ 5G FWA รุ่นที่ 5 ของแซดทีอีแสดงประสิทธิภาพอันทรงพลัง รองรับแบนด์วิดท์ช่องสัญญาณความถี่ 320 MHz นอกจากนี้ Wi-Fi 7 ยังผนึกกำลังอัตราความเร็วของเครือข่ายเข้ากับการสับเปลี่ยนไดนามิกลิงก์ ทำให้สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว มีเสถียรภาพ และเชื่อถือได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีการใช้เทคโนโลยีเสาอากาศอัจฉริยะรุ่นที่ 5 เพิ่มกำลังเสาอากาศได้อีก 20% และใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้ได้อัตราการรับส่งข้อมูลในระดับสูง ขณะเดียวกัน 5G FWA รุ่นที่ 5 ของแซดทีอียังมีการปรับปรุงเทคโนโลยีระบายความร้อนเป็นเวอร์ชัน 5.0 เพื่อประสิทธิภาพการทำงานอันยอดเยี่ยมและมีเสถียรภาพ
สำหรับความครอบคลุมของสัญญาณนั้น 5G FWA รุ่นที่ 5 ของแซดทีอีใช้เทคโนโลยีขยายสัญญาณ เพิ่มพลังและความไวในการส่งสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมเครือข่ายระดับวิลล่า (Villa) และระดับ 3 มิติ (3D) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งระบบ และใช้เทคโนโลยีเมช-รีเทิร์น (Mesh-return) ล่าสุดเพื่อมอบโซลูชันเครือข่ายทั่วทั้งระบบ ครอบคลุมสัญญาณอย่างทั่วถึง รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ทั้งเครือข่ายในบ้าน บ้านอัจฉริยะ สำนักงาน และความบันเทิงผ่านสื่อต่าง ๆ นอกจากนี้ 5G FWA รุ่นที่ 5 ของแซดทีอียังสามารถทำงานกับโปรโตคอลแมทเทอร์ (Matter) สำหรับการใช้งานในระบบบ้านอัจฉริยะทั้งระบบ ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานสามารถปิดการเชื่อมต่อด้วยระบบวันคีย์ (One Key) จำกัดอัตราอุปกรณ์ ควบคุมการเข้าถึงโดเมน วิเคราะห์เครือข่าย ปรับปรุง Wi-Fi รีสตาร์ทอุปกรณ์ อัพเกรดซอฟต์แวร์ และการทำงานอื่น ๆ ด้วยรีโมทควบคุมเครือข่ายบ้านทั้งหลังได้แบบเรียลไทม์
MC888 Pro เวอร์ชัน GIS ดียิ่งกว่าด้วยคุณสมบัติ "สีเขียว อัจฉริยะ และปลอดภัย"
ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส ประจำปี 2566 แซดทีอียังเปิดตัว MC888 Pro เวอร์ชัน GIS ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ 5G FWA รุ่นเรือธงเชิงพาณิชย์ใหม่ล่าสุด ทำจากวัสดุ PCR ตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ไปจนถึงแพ็กเกจและงานพิมพ์ มาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานในตัวที่หลากหลาย จึงช่วยประหยัดพลังงานได้ 10% สำหรับเวอร์ชันใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อมอบโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน และประหยัดพลังงานอย่างครบวงจร
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่
https://www.thaipr.net/it/3308780
