หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความโหดร้ายป่าเถื่อน ของทหารญี่ปุ่น สงครามโลกครั้งที่ 2  (อ่าน 12211 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Mahasarakham1
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3177


我愛泰國。


เว็บไซต์
« เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 16:28:13 »

โหดร้าย เกินไปแล้ว  ผมเป้นคนนึงที่ ชอบ ดูเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สงครามโลก   jap jap


http://atcloud.com/stories/32195




http://statics.atcloud.com/files/entries/3/32195/videos/1_original.flv
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กรกฎาคม 2010, 16:30:52 โดย Mahasarakham » บันทึกการเข้า

พระธรรมโกศาจารย์

                                                (หลวงพ่อ ปัญญา นันทภิกขุ)

 

 

“พักผ่อนเสียบ้าง เพราะว่า ถึงเราจะทำไปมากมายสักเท่าใด ก็เท่านั้นแหละ เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ ก็เอาอะไรไปไม่ได้ แม้แต่สักชิ้นเดียว เราต้องทิ้งไว้ในโลกนี้เท่านั้น จึงควรมีการพักผ่อน.”
Friday~13rd
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1398



« ตอบ #1 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 16:31:24 »

ดูคลิปแล้ว  ผมยังไม่เห็นโกโบริ เลยสารคาม  อิอิกำ   drunk
บันทึกการเข้า


# อายครูบ่รู้วิชา อายภรรยาบ่มีบุตร
# หากได้ครูมาเป็นภรรยา จะได้ทั้งวิชาและบุตร
Mahasarakham1
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3177


我愛泰國。


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 16:38:38 »

ดูคลิปแล้ว  ผมยังไม่เห็นโกโบริ เลยสารคาม  อิอิกำ   drunk


เง้อออ  ผมแค้นทหารญี่ปุ่นครับ   ผมอยากฆ่ามัน  drunk drunk
บันทึกการเข้า

พระธรรมโกศาจารย์

                                                (หลวงพ่อ ปัญญา นันทภิกขุ)

 

 

“พักผ่อนเสียบ้าง เพราะว่า ถึงเราจะทำไปมากมายสักเท่าใด ก็เท่านั้นแหละ เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ ก็เอาอะไรไปไม่ได้ แม้แต่สักชิ้นเดียว เราต้องทิ้งไว้ในโลกนี้เท่านั้น จึงควรมีการพักผ่อน.”
leim
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 16:41:16 »

ผมก็พึ่งดูสารคดีจากญี่ปุ่นเหมือนกันครับ



แต่ก็ฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ครับ  แต่ดูภาพรู้เรื่องครับ

จับใจความได้สองสามคำครับ   


คีมูจี....  อะไรประมาณนี้แหล่ะครับ อิอิกำ drunk
บันทึกการเข้า
Chris
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6864


Join me and you'll see the power of the dark side


« ตอบ #4 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 16:49:05 »

 eyes
บันทึกการเข้า
Chodose
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 222



อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 16:52:50 »

ดูหนังเรื่อง จับคนมาทำเชื้อโรค จะเกลียดยุ่นกว่านี้อีกครับ อิอิ กำ
บันทึกการเข้า
Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15962


I'm Stand Between Hell and Earth.


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 16:53:20 »

ผมก็พึ่งดูสารคดีจากญี่ปุ่นเหมือนกันครับ



แต่ก็ฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ครับ  แต่ดูภาพรู้เรื่องครับ

จับใจความได้สองสามคำครับ   


คีมูจี....  อะไรประมาณนี้แหล่ะครับ อิอิกำ drunk

 love ได้ยินคำนี้ ขนลุกทุกรอบ
บันทึกการเข้า



It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
Mahasarakham1
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3177


我愛泰國。


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 16:57:15 »




บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
 

 

ทำไม? เวลา ที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเวลาออกไปสักการะบูชาทหารญี่ปุ่นที่ศาลเจ้ายาสุกูนิ ในกรุงโตเกียวมักมีเสียงด่า สาปแช่ง และประท้วงจากนานๆ ประเทศโดยเฉพาะประเทศจีนทุกครั้ง

"ทำไมนายต้องไปกราบไหว้พวกมันด้วย มันไม่ใช้วีรบุรุษสักหน่อย มันเป็นปีศาจชัดๆ"

"แกทำไมทำอย่างนี้ เท่ากับหยามน้ำหน้าเราหรือ รู้ไหมพวกมันทำอะไรไว้กับพวกเราบ้าง รู้บ้างไหม"

"สักวัน ประเทศแกจะพังพินาศ เหมือนพวกมัน"

นี้ คือตัวอย่างเสียงก้มด่าจากนานาประเทศเฉพาะประเทศจีน บางคนประท้วงถึงขั้นบอยคอตสินค้าญี่ปุ่น การต่อต้านหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ การตัดความสันพันธ์ทางการทูตกับญี่ปุ่น และบางครั้งถึงขั้นปล่อยข่าวใส่ร้ายต่างๆ นา ๆ เลยทีเดียว"

ทำไมพวกเขาถึงเกลียดทหารญี่ปุ่นจนเข้าไส้ เกลียดยิ่งกว่าตัวกินไข่

คำตอบของเรื่องนี้ก็คือ พวกเขายังไม่ลืมเหตุการณ์คดีที่นานกิง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

กับอาชญากรสงครามตัวร้ายนาม อิชิอิ ชิโร

มันทำให้ชาวจีนเจ็บแค้นญี่ปุ่นสุดๆ ยิ่งกว่าพม่ากับไทยเสียอีก........


นานกิงแดนวิปโยค

ก่อนที่ผู้เขียนจะพูดเรื่องของนาย อิชิอิ ชิโร ว่าเขาไปทำให้ประเทศจีนโกรธแค้นได้อย่างไร ผมขอพูดเรื่องคดีที่นานกิงก่อนน่ะครับ

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี ค.ศ.1937 นั้น เป็นปีที่กองทัพญี่ปุ่นได้ดาหน้าเข้ามาบุกรุกประเทศต่างๆ ในเอเชียเพื่อยึดพื้นที่ให้ได้มากที่สุดเพื่อนำเอาทรัพยากรทุกๆด้านจาก ประเทศที่ยึดได้เอาไปเป็น"ทุน"หรือ"วัตถุดิบ"ในการเติมแสนยานุภาพทางด้านการรบ การสร้างอาวุธ หรือแหล่งพลังงานสำรองด้านอื่นๆ

พวก เขาเริ่มบุกเข้ายึดประเทศแมนจูเรีย โดยอ้างว่าทหารจีนได้ไปวางระเบิดทางรถไฟของญี่ปุ่นเข้า ทำกับว่าจีนหยามน้ำหน้าญี่ปุ่น ทางประเทศพันธมิตรยุโรปทราบเรื่องนี้แต่ทำอะไรไม่มากนักเพราะเหนื่อยล้าจาก สงครามโลกที่ผ่านมา ทำได้แค่เชิญตัวแทนญี่ปุ่นเข้าพบและสั่งถอนกำลังออก แต่ญี่ปุ่นไม่รับฟังประเทศแมนจูเรียจึงถูกปกครองลับๆ โดยตัวแทนญี่ปุ่น และเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นรัฐแมนจูกัว

นอกจากนั้นประเทศญี่ปุ่นยังยึด เกาหลี และประเทศตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย ตลอดจนหมู่เกาะแปซิฟิก ฯลฯ

และเป้าหมายต่อไปของญี่ปุ่นก็คือจีน

จีน ถือว่าเป็นเป้าหมายหลักที่ญี่ปุ่นต้องการมากที่สุดในเอเชียเพราะเป็นประเทศ ที่มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด ดังนั้นบรรดาเมืองใหญ่ๆ ทั้งหลายในจีนจึงเป็นเป้าหมายที่ญี่ปุ่นจ้องตาเป็นมัน เพื่อจะเขมือบเต็มเหนี่ยว

เมืองใหญ่น้อยทั่วจีนที่เป็นเป้าหมายของญี่ปุ่นถูกปราบลงราบคาบไม่มีการต่อต้านจากจีนใดๆ ทั้งสิ้น แต่นานกิงใน ค.ศ. 1937 นั้น นานกิงยังไม่ถูกญี่ปุ่นยึด พูดง่ายๆ คือเมืองยังไม่แตก แต่ก็สะบัดสะบอมเต็มที่เพราะกองทัพญี่ปุ่นต่างโหมบุกหนักหน่วงเป็นระลอก คลื่น ไม่ช้านานกิงอาจเหมือนเมืองอื่นๆ ที่ต่างโดนญี่ปุ่นยึดไว้หมดแล้ว

เดือนกันยายน ค.ศ. 1939 กองทัพญี่ปุ่นส่งเครื่องบินรบสุ่มทิ้งระเบิดถล่มทั่วนานกิงแบบปูพรม ถึง 100 เที่ยว

โดยเฉพาะวันที่ 25 กันยายน 1939 วันเดียวกันนั้นปรากฏว่ามีฝูงบินญี่ปุ่นแบบทิ้งระเบิดปูพรมถึง 5 เที่ยว ใหญ่ๆปล่อยตรงจุดที่มีจำนวนมากๆ เช่น หน่วยรักษาคนเจ็บ ค่ายผู้อพยพ ส่งผลให้มีคนตายในที่เกิดเหตุทันที่กว่าหนึ่งร้อยศพ มีคนบาดเจ็บนับไม่ถ้วน

สถานีวิทยุ การประปา แหล่งเพาะปลูก กระทั้งโรงพยาบาล ถูกกองทัพญี่ปุ่นทิ้งระเบิดใส่จนพังพินาศหมด

เท่านี้ นานกิงก็ตัดขาดโลกภายนอกโดยสมบูรณ์แบบ

 

การบุกนานกิงของญี่ปุ่น

กองทัพญี่ปุ่นใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศที่ว่า นานกิงนั้นถูกขนาบด้วยแม่น้ำถึงสองด้าน ซึ่งเมืองนี้ตั้งอยู่ทางใต้ของโค้งแม่น้ำแยงซี ซึ่งเมื่อไหลมาจากทางเหนือแล้วก็เลี้ยงผ่านไปทางตะวันออก กองทัพญี่ปุ่นภายใต้การนำของพลเอก นาคาจิมา เคซาโกะ สามารถเดินทัพจากทางตะวันออกเฉียงใต้มาบรรจบกันที่ด้านหน้าของนานกิงในรูป ครึ่งวงกลม โดยใช้แม่น้ำเป็นกำแพงธรรมชาติล้อมเมืองหลวงแห่งนี้ รวมทั้งสกัดการฝ่าหนีออกไปด้วย

ปลายเดือนพฤศจิกายน ทหารญี่ปุ่นสามกองทัพดาหน้าเข้าหานานกิง ทัพหนึ่งมุ่งตะวันตกทางฝั่งด้านใต้ของแม่น้ำแยงซี ทหารกองนี้เข้ามาทางแม่น้ำไป๋เหมา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเซี่ยงไฮ้ โดยเดินทัพมาทางรถไฟสายนานกิง-เซี่ยงไฮ้

ทัพที่สองเตรียมตัวบุกจู่โจมนานกิงทั้งทางน้ำและทางบกอยู่ที่ทะเลสาบอ้ายหู ทัพนี้เคลื่อนจากเซี่ยงไฮ้ลงมาทางตะวันตก และเดินทัพอยู่ทางทิศใต้ของทัพของนาคาจิมา โดยผู้นำทัพนี้คือ พลเอกมัตสึอิ อิวาเนะ

ทัพที่สามภายใต้การนำของพลโทยานากาวา ไฮสุเขะ เดินห่างจากทัพของพลเอกมัตสึอิลงไปทางใต้และหักเลี้ยวเข้าหานานกิงจากทาง ตะวันตกเฉียงเหนือ โดยไม่มีการยั้งมือ

ก่อนที่จะบุกถึงนานกิงนั้นทหารญี่ปุ่นได้เข้าโจมตีเมืองซูโจวราบเป็นหน้ากลอง และฆ่าทุกคนที่พบ การบุกเข้าเมืองซูโจวครั้งนี้ทำให้จำนวนประชากรลดลงจาก 350,000 คนลงเหลือไม่ถึง 500 ชีวิต

จนถึงรุ่งสางของวันที่ 13 ธันวาคม กองทัพญี่ปุ่นสามารถบุกผ่านประตูเมืองนานกิงเข้ามาได้

[แก้] หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นบุกนานกิง

หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นบุกเข้านานกิงได้เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเข้าปลดอาวุธทหารจีนที่ยอมแพ้และยอมตกเป็นเชลย โดยมีคำสั่งต่อทหารญี่ปุ่นว่าให้กำจัดคนจีนและเชลยทุกคนที่จับได้ และจากที่ประชุมตกลงว่า จะทำการแบ่งเชลยออกเป็นจำนวนเท่าๆกัน และจะถูกนำออกมาจากที่คุมขังเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 50 คน เพื่อนำไปประหาร ใช้ทหารกองร้อยที่ 1, 2 และ 5 โดยกองร้อยที่ 1ใช้พื้นที่บริเวณนาข้าว และบริเวณพื้นที่ลุ่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของกองร้อยที่ 2 และกองร้อยที่ 5 ใช้พื้นที่บริเวณนาข้าวทางตะวันออกเฉียงใต้ของที่ตั้งกอง

คำสั่งนั้นเป็นไปอย่างเป็นเหตุเป็นผลและเหี้ยมโหดโดยปราศจากเมตตาเพราะ ไม่สามารถหาอาหารให้เชลยทั้งหมดได้ โดยสามารถช่วยขจัดปัญหาเรื่องอาหาร และลดการตอบโต้ได้

ญี่ปุ่นใช้วิธีการหลอกลวงเชลยเพื่อนำไปประหารหลายวิธีด้วยกัน เช่น ให้สัญญาว่าจะปฏิบัติอย่างดีหากไม่ต่อต้าน หลอกให้เข้ามอบตัว แบ่งผู้ชายออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละร้อยหรือสองร้อย แล้วหลอกไปยังจุดต่างๆที่นอกตัวเมืองเพื่อฆ่าทิ้ง

ทั้งหมดนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างง่ายดายกว่าที่ฝ่ายญี่ปุ่นคาด การต่อต้านมีเพียงบางจุด เพราะทหารจีนส่วนใหญ่ทิ้งอาวุธและทิ้งเมืองไปก่อนแล้ว
บันทึกการเข้า

พระธรรมโกศาจารย์

                                                (หลวงพ่อ ปัญญา นันทภิกขุ)

 

 

“พักผ่อนเสียบ้าง เพราะว่า ถึงเราจะทำไปมากมายสักเท่าใด ก็เท่านั้นแหละ เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ ก็เอาอะไรไปไม่ได้ แม้แต่สักชิ้นเดียว เราต้องทิ้งไว้ในโลกนี้เท่านั้น จึงควรมีการพักผ่อน.”
leim
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 17:06:58 »

ครับ   
จากคำสาบแช่งของชาวจีน  ผมว่าก็เริ่มส่งผลกับชาติญี่ปุ่นแล้วนะ


สังเกตนะครับ  สินค้าอุตสาหกรรม  สินค้าอิเลกทรอนิกส์  เรื่องการค้า  จีนกำลังมาครับ


โพรดักส์จากญี่ปุ่น อย่างโซนี่   จริงนะครับ   แข็งมาก   ลงยากครับ    ตอนนี้ก็ยังขึ้นแท่นอยู่ครับ


แต่  ต่อๆไป ก็  ให้ผมทำนายนะครับ  จีนมาแน่ครับ   



ยังจำกันได้นะครับ   ลุงๆเรานี่อายุ 30 up กันอยู่แล้ว  คงผ่านเรื่องสินค้าจากญี่ปุ่นกันมาบ้างแล้วครับ

จำได้นะครับ ตอนนั้นสินค้าญี่ปุ่น   เหมือนสินค้าจีน ณ เวลานี้ครับคือ ยังอ่อนด้อยเรื่องคุณภาพไปบ้าง   

จนเค้าต้องปรับมาตรฐานกัน ตอนนี้ไปถึงไหนแล้วครับญี่ปุ่น   เมื่อก่อนมีเมดอินแจแปนนี่ ส่ายหน้านะ ตอนนี้ ต้องแจแปนไว้ก่อน  วงการคอมก็ต้องมีคำว่า แจแปนติดพะไว้ด้วยนะครับ    มันเป็นเวลาในการสร้างแบรนด์โรยัลตี้ด้วยนะผมว่า  เค้าก็ทำสำเร็จครับ    โดยพื้นฐานแล้วคนญี่ปุ่นเค้าสู้ยิบตา สู้ไม่ถอยอยู่แล้วครับ ทำการค้าเชิงรุงนี่ไม่ต้องพูดถึง 



สำหรับจีน  ถ้าเค้าทำให้โพรดักส์เค้าติดตลาดได้  ตอนนี้เล่นนโยบายราคาไปก่อน ถ้าปรับคุณภาพ แล้วราคาถูกกว่าเจ้าตลาดอยู่หน่อยๆ ชื่อชั้นขึ้นมาตีเทียบเคียงจนนำได้  ผมว่าก็ลำบากครับ    ลำบากญี่ปุ่นครับ


ศัตรูญี่ปุ่นรอบด้านครับ เกาหลีเหนือ  และ จีน    จีนก็มีขีปนาวุธครับ   ICBM นี่ของพื้นๆเลย  เกาหลีเหนือไม่ต้องพูดถึง  มีชัวว์  ขึ้นอยู่กับว่า จะชี้ไปทางญี่ปุ่นเมื่อไหร่แค่นั้นแหล่ะครับ      จะเอาแพททริออทสวนก็  ยากครับ   จะกันยังไงไหวจรวดวิ่งบนชั้นบรรยากาศเนี่ย   


ครับ    ต่อไปญี่ปุ่นจะลำบากครับ


แต่  มีเรื่องนึงที่ยังคงตลอดการครับ



นิสัยสู้ยิบตา สู้ไม่ถอย  รุกเต็มที่ไม่มีกลัว    ยังคงมีในหนังคูนยุ่นมีให้เราดูตลอดครับ   
ให้เดาคาดว่า  แนวโตเกียวฮอทคงจะมาเกือบ 100% แน่นอนครับ อิอิกำ drunk
บันทึกการเข้า
Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15962


I'm Stand Between Hell and Earth.


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 17:29:45 »

อ้างถึง
นิสัยสู้ยิบตา สู้ไม่ถอย  รุกเต็มที่ไม่มีกลัว    ยังคงมีในหนังคูนยุ่นมีให้เราดูตลอดครับ   
ให้เดาคาดว่า  แนวโตเกียวฮอทคงจะมาเกือบ 100% แน่นอนครับ อิอิกำ  drunk

SKY Angel ด้วยครับ อิอิกำ love
บันทึกการเข้า



It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
Mahasarakham1
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3177


我愛泰國。


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 18:07:28 »

อ้างถึง
นิสัยสู้ยิบตา สู้ไม่ถอย  รุกเต็มที่ไม่มีกลัว    ยังคงมีในหนังคูนยุ่นมีให้เราดูตลอดครับ   
ให้เดาคาดว่า  แนวโตเกียวฮอทคงจะมาเกือบ 100% แน่นอนครับ อิอิกำ  drunk

SKY Angel ด้วยครับ อิอิกำ love

RHJ  ด้วยครับ  rules drunk out
บันทึกการเข้า

พระธรรมโกศาจารย์

                                                (หลวงพ่อ ปัญญา นันทภิกขุ)

 

 

“พักผ่อนเสียบ้าง เพราะว่า ถึงเราจะทำไปมากมายสักเท่าใด ก็เท่านั้นแหละ เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ ก็เอาอะไรไปไม่ได้ แม้แต่สักชิ้นเดียว เราต้องทิ้งไว้ในโลกนี้เท่านั้น จึงควรมีการพักผ่อน.”
Mahasarakham1
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3177


我愛泰國。


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 18:08:50 »

ผมก็พึ่งดูสารคดีจากญี่ปุ่นเหมือนกันครับ



แต่ก็ฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ครับ  แต่ดูภาพรู้เรื่องครับ

จับใจความได้สองสามคำครับ   


คีมูจี....  อะไรประมาณนี้แหล่ะครับ อิอิกำ drunk


ทำไมเวลาผมไปตีหม้อ  น้องเค้า หัวเราะเฉยเลยครับ   lol drunk rofl out
บันทึกการเข้า

พระธรรมโกศาจารย์

                                                (หลวงพ่อ ปัญญา นันทภิกขุ)

 

 

“พักผ่อนเสียบ้าง เพราะว่า ถึงเราจะทำไปมากมายสักเท่าใด ก็เท่านั้นแหละ เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ ก็เอาอะไรไปไม่ได้ แม้แต่สักชิ้นเดียว เราต้องทิ้งไว้ในโลกนี้เท่านั้น จึงควรมีการพักผ่อน.”
tpp
True Love Always
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8402



อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 20:05:21 »

ผมก็พึ่งดูสารคดีจากญี่ปุ่นเหมือนกันครับ



แต่ก็ฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ครับ  แต่ดูภาพรู้เรื่องครับ

จับใจความได้สองสามคำครับ   


คีมูจี....  อะไรประมาณนี้แหล่ะครับ อิอิกำ drunk


ทำไมเวลาผมไปตีหม้อ  น้องเค้า หัวเราะเฉยเลยครับ   lol drunk rofl out

อิอิ กำ
บันทึกการเข้า
beerking
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5477



« ตอบ #13 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 20:19:43 »

ผมก็พึ่งดูสารคดีจากญี่ปุ่นเหมือนกันครับ



แต่ก็ฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ครับ  แต่ดูภาพรู้เรื่องครับ

จับใจความได้สองสามคำครับ   


คีมูจี....  อะไรประมาณนี้แหล่ะครับ อิอิกำ drunk


 อิอิ ลุงเหลิม มันคนละอันแล้วครับ อิอิ
บันทึกการเข้า
Mahasarakham1
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3177


我愛泰國。


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2010, 20:20:30 »

ผมก็พึ่งดูสารคดีจากญี่ปุ่นเหมือนกันครับ



แต่ก็ฟังไม่ค่อยออกเท่าไหร่ครับ  แต่ดูภาพรู้เรื่องครับ

จับใจความได้สองสามคำครับ   


คีมูจี....  อะไรประมาณนี้แหล่ะครับ อิอิกำ drunk


ทำไมเวลาผมไปตีหม้อ  น้องเค้า หัวเราะเฉยเลยครับ   lol drunk rofl out

อิอิ กำ

ไม่เหนเหมือนในหนังเลยครับ อิอิ  lol mdr
บันทึกการเข้า

พระธรรมโกศาจารย์

                                                (หลวงพ่อ ปัญญา นันทภิกขุ)

 

 

“พักผ่อนเสียบ้าง เพราะว่า ถึงเราจะทำไปมากมายสักเท่าใด ก็เท่านั้นแหละ เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ ก็เอาอะไรไปไม่ได้ แม้แต่สักชิ้นเดียว เราต้องทิ้งไว้ในโลกนี้เท่านั้น จึงควรมีการพักผ่อน.”
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: