Stratio BD เปิดตัว Stratio Gen-AI: เครื่องมือ generative AI ปฏิวัติวงการ พลิกโฉมการเข้าถึงและใช้ข้อมูลทางธุรกิจ
สตราทิโอ บีดี (Stratio BD) เปิดตัวสตราทิโอ เจน-เอไอ (Stratio Gen-AI) เอนจินที่ปลอดภัยสำหรับองค์กรตัวแรกของโลกที่ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ข้อมูลของบริษัทด้วยภาษาธรรมชาติด้วยพลังของเจเนอเรทีฟเอไอ
สตราทิโอ เจน-เอไอ (Stratio Gen-AI) คือเจเนอเรทีฟเอไอเอนจิน (generative AI engine) ที่เปิดตัวขึ้นในวันนี้โดยบริษัทสตราทิโอ บีดี (Stratio BD) ผู้เชี่ยวชาญด้านดาต้าแฟบริคเจเนอเรทีฟเอไอ (Generative AI Data Fabric) สตราทิโอ เจน-เอไอ เป็นเอนจินเอไอตัวแรกของโลกที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาใหญ่ ๆ ในด้านการจัดการข้อมูลที่ธุรกิจต่าง ๆ กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ช่วยให้คนทำงานเข้าถึงข้อมูลทุกรูปแบบที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิค
สตราทิโอ เจน-เอไอ ใช้ประโยชน์จากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่มาพร้อมกับประสบการณ์ผู้ใช้งานที่คล้ายคลึง แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับแชตจีพีที (ChatGPT) ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก ช่วยให้เทคโนโลยีนี้สามารถมอบข้อมูลสารสนเทศและข้อมูลเชิงลึกในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เป็นภาษามนุษย์ ตลอดจนเข้าใจความหลากหลายของการใช้ภาษาของผู้ใช้งาน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ภาษาถิ่นไปจนถึงความสามารถด้านเทคนิคและการรู้หนังสือที่แตกต่างกัน เพื่อมอบคำตอบที่เหมาะสมและแม่นยำที่สุดให้แก่ผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ ความสามารถข้างต้นยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานในทุกแผนกว่าจะสามารถถามอะไรก็ได้ และสตราทิโอ เจน-เอไอ จะมอบคำตอบให้ในทันที ช่วยยกระดับผลิตภาพอย่างรวดเร็ว พร้อมส่งเสริมความสามารถในการตัดสินใจของแต่ละแผนกโดยอ้างอิงข้อมูลเชิงลึก ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีนี้ทำให้แต่ละทีมไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดรายงานหลายชิ้นจากหลากหลายแอปพลิเคชันเพื่อนำมารวมเข้าด้วยกันในสเปรดชีตเดียวอีกต่อไป พร้อมทั้งไม่ต้องรอคอยนักวิเคราะห์ข้อมูลใช้เวลารวบรวมรายงานอีกด้วย
เครื่องมือที่สามารถโต้ตอบได้ตัวใหม่นี้คือชิ้นส่วนสุดท้ายที่เข้ามาเติมเต็มวิสัยทัศน์ของสตราทิโอ บีดี ที่ต้องการทำให้ข้อมูลสามารถเข้าถึงได้เป็นวงกว้าง ด้วยผลิตภัณฑ์ดาต้าแฟบริคเจเนอเรทีฟเอไอของทางบริษัทฯ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์การจัดการข้อมูลแบบครบวงจรที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของเอไอ ออกแบบมาเพื่อทลายอุปสรรคการเข้าถึงข้อมูลแบบดั้งเดิม ช่วยลดความซับซ้อนในการวิเคราะห์ข้อมูลของธุรกิจต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงการทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ และทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นบนพื้นฐานของข้อมูลมากขึ้น นำไปสู่ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในท้ายที่สุด
คุณออสการ์ เมนเดซ-โซโต (?scar Mendez-Soto) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทสตราทิโอ บีดี กล่าวว่า "ไม่ว่าคุณจะทำงานในแผนกใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย, ฝ่ายบุคคล, ฝ่ายกฎหมาย, ฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายปฏิบัติการ งานของคุณจะได้รับการกำกับดูแลด้วยข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่สุดและถูกต้องแม่นยำไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ เอนจินสตราทิโอ เจน-เอไอ คือการปฏิวัติวงการสำหรับธุรกิจ เนื่องจากจะช่วยส่งเสริมให้ทีมงานได้ใช้ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไม่อาจเข้าถึงได้ ไม่สมบูรณ์ หรือมีเพียงนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงและทำความเข้าใจกับมันได้ ซึ่งวิธีการที่ธุรกิจต่าง ๆ จะสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือนี้เพื่อยกระดับและปรับปรุงการดำเนินงานนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน"
ตั้งแต่คำถามประจำวันที่ผู้จัดการจะสอบถามทีมงาน ไปจนถึงข้อมูลที่ซับซ้อนซึ่งจำเป็นต้องอาศัยรายงานข้อมูลเต็มรูปแบบจากทีมเทคนิค สตราทิโอ เจน-เอไอ จะช่วยขจัดอุปสรรคเหล่านี้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมลดความจำเป็นในการทำรายงานด้านการบริหาร ตัวอย่างเช่น การค้นหาคาดการณ์ยอดขาย การระบุผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของบริษัทในเดือนนั้น หรือการคาดการณ์ว่าลูกค้ารายใดมีความเสี่ยงที่จะเลิกเป็นลูกค้า ทั้งหมดนี้เป็นไปได้เพียงถามคำถามง่าย ๆ กับสตราทิโอ เจน-เอไอ
โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจต่าง ๆ มักจะต้องดิ้นรนเพื่อให้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ในที่ต่าง ๆ หรือตามแอปพลิเคชันต่าง ๆ แต่ด้วยความเหนือชั้นของสตราทิโอ เจน-เอไอ ที่ได้รวบรวมข้อมูลของธุรกิจในแต่ละเลเยอร์ไว้ในที่เดียวที่สร้างขึ้นจากผลิตภัณฑ์ดาต้าแฟบริคเจเนอเรทีฟเอไอของสตราทิโอ บีดี เครื่องมือชิ้นนี้จึงช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดของบริษัทได้ภายในมุมมองเดียว พร้อมได้คำตอบที่สามารถเข้าใจได้ในบริบทของธุรกิจ
สตราทิโอ เจน-เอไอ เป็นอินเทอร์เฟซแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ (closed-source) ที่ธุรกิจต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัยโดยไร้ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากข้อมูลจะไม่รั่วไหลออกจากระบบของบริษัท โดยโมดูลการกำกับดูแลข้อมูลของสตราทิโอ บีดี จะกำกับดูแลการเข้าถึงข้อมูลตามตำแหน่งหน้าที่ ผู้ใช้งานสตราทิโอ เจน-เอไอ จึงสามารถเข้าถึงข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตนและเฉพาะที่เปิดให้เข้าถึงสำหรับตำแหน่งงานของตนเท่านั้น
เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) เพื่อทำความเข้าใจ สรุป สร้าง และคาดการณ์จากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่โดยปกติจะต้องจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่จำนวนมาก เช่น การเงิน, การผลิต, การค้าปลีก, โทรคมนาคม, ภาครัฐ, วิทยาศาสตร์สุขภาพ และวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.thaipr.net/it/3354720
