ทีมผลิตภัณฑ์ นักการตลาด และผู้บริหารของบริษัทดิจิทัลชั้นนำของโลกกว่า 8 ,000 แห่งสามารถสืบค้นข้อมูลผู้ใช้ได้ เพียงคุยโดยใช้ภาษาธรรมชาติ
Mixpanel นำจีพีที-3.5 เทอร์โบ ของโอเพนเอไอมาใช้ เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้องและจัดลำดับความสำคัญของความเป็นส่วนตัวได้
Mixpanel ผู้บุกเบิกการวิเคราะห์กิจกรรม* ได้นำนวัตกรรมเอไอแบบรู้สร้าง (generative AI) มาใช้ เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ 'คุยกับข้อมูลของตน' ได้ ความเคลื่อนไหวนี้ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เข้าใจผลกระทบที่การตัดสินใจด้านผลิตภัณฑ์และการตลาดมีต่อประสบการณ์ของลูกค้าและผลกำไรของบริษัทได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น การที่ Mixpanel นำเอไอแบบรู้สร้างมาใช้นั้นช่วยให้ตรวจสอบคำค้นหาที่เอไอสร้างขึ้นได้ เพื่อให้คนเข้าใจแหล่งที่มาและความถูกต้องของรายงานที่สร้างขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนให้กับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)
ขณะนี้ ใครก็ตามที่ใช้ Mixpanel ก็จะเข้าใจประสบการณ์ของลูกค้าทุกคนได้อย่างชัดเจน เพียงแค่ถามคำถามภาษาอังกฤษธรรมดา ๆ กับโมเดลจีพีที-3.5 เทอร์โบ (GPT-3.5 Turbo) ของโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นการขจัดอุปสรรคอีกประการหนึ่งสำหรับบริษัทที่ต้องการทำความเข้าใจว่าผู้คนใช้แอปของตนอย่างไร
ตัวอย่างเช่น พนักงานที่ไม่ได้อยู่ในฝ่ายเทคนิคของบริษัทให้บริการเรียกรถโดยสารแห่งหนึ่งอาจถามว่า "ผู้ใช้กลุ่มใดที่กลายมาเป็นลูกค้าบ่อยที่สุด เมื่อเราตั้งราคาตามระดับความต้องการในตลาดสำคัญ ๆ ของเรา" นักการตลาดจะเข้าใจแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับค่าโฆษณาได้อย่างรวดเร็ว หรือพนักงานขายก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรายได้เมื่อเวลาผ่านไป เอไอแบบรู้สร้างนั้นสร้างการสืบค้นที่จำเป็น ซึ่งดำเนินการใน Mixpanel จากนั้นจะให้แผนภูมิที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อแสดงแนวโน้มการเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าตามกลุ่มในตลาดต่าง ๆ
Amir Movafaghi ซีอีโอของ Mixpanel กล่าวว่า "เอไอแบบรู้สร้างเป็นอินเทอร์เฟซถัดไปของการประมวลผล โดยปลดล็อกประสิทธิภาพได้อย่างมาก ในโลกของเรา สิ่งนี้หมายความว่าทุกคนสืบค้นข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ เพียงแค่ถามคำถามกับเอไอ การทำให้การวิเคราะห์เป็นที่เข้าถึงได้นั้น ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการตัดสินใจทั่วทั้งบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ"
ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและตรวจสอบความถูกต้อง แม้เอไอแบบรู้สร้างจะให้โอกาสมากมาย แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป Mixpanel จึงเปิดโอกาสให้คนตรวจสอบที่มาของคำตอบจากคำสืบค้นที่เอไอแบบรู้สร้างได้สร้างเอาไว้ได้ เพื่อให้เข้าใจว่ารายงานถูกสร้างขึ้นอย่างไร แม้ฟีเจอร์เอไอจะเปิดให้ผู้ใช้ Mixpanel ใช้ได้ทุกคน แต่ก็เป็นทางเลือกเช่นกัน เพื่อให้ผู้ใช้เลือกว่าจะสร้างการสืบค้นโดยใช้เอไอ หรือดำเนินการต่อด้วยอินเทอร์เฟซเดิม
Mixpanel คว้าข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้มาได้มากมาย และให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ลูกค้าราว 8,000 ราย ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่และผู้นำด้านดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เช่น CNN, Uber และ Yelp! นั่นเป็นเหตุผลที่เอไอแบบรู้สร้างของ Mixpanel ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว โดยลูกค้าของ Mixpanel ไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลของพวกเขาเองกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ แต่เอไอจะเพิ่มความเร็วและความสะดวกในการสร้างการสืบค้น ส่วน Mixpanel จะทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลนั้น
"เอไอแบบรู้สร้างเปรียบเสมือนไฟฟ้า โดยนำไปใช้สร้างผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อทำให้สิ่งต่าง ๆ เร็วและง่ายขึ้นได้ เรากำลังใช้สิ่งนี้เพิ่มความเร็วให้กับกระบวนการทำงาน และลดความซับซ้อนในการถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลของตน แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เราคาดว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่จะช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์ในอีกหลายปีต่อจากนี้" คุณ Movafaghi กล่าวเสริม
แต่เดิมนั้น นักวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้เครื่องมือธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence) จำเป็นต้องเขียนการสืบค้น SQL ที่ซับซ้อนเมื่อต้องวิเคราะห์ข้อมูล ส่งผลให้การวิเคราะห์กลายเป็นสาขาเฉพาะทาง ทั้งยังทำให้บริษัทต่าง ๆ ไม่ได้รับคำตอบอย่างรวดเร็วจากข้อมูล แต่ Mixpanel เข้ามาเปลี่ยนสิ่งนี้ด้วยระบบการวิเคราะห์ตามเหตุการณ์ ซึ่งพนักงานที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายเทคนิคนั้นนำไปใช้ถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลของพวกเขาด้วยเมนูแบบเลื่อนลงได้ การนำเอไอแบบรู้สร้างมาใช้จะพลิกโฉมกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนใช้ Mixpanel ประกอบการตัดสินใจให้ดีขึ้นได้ เพียงแค่ถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลของตน
อินเทอร์เฟซเอไอแบบรู้สร้างของ Mixpanel มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งกำลังนำไปใช้งาน โดยเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมเบต้าแบบปิด ความสามารถดังกล่าวจะพร้อมใช้งานเป็นอินเทอร์เฟซเสริมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ Mixpanel ทุกคนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
*เกี่ยวกับการวิเคราะห์กิจกรรม
การวิเคราะห์กิจกรรมจะบันทึกทุกการกระทำ (หรือกิจกรรม) ที่ผู้ใช้แต่ละคนดำเนินการภายในผลิตภัณฑ์ดิจิทัลนั้น ๆ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือแอปเรียกรถ มุมมองที่ละเอียดมากนี้ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เข้าใจว่าผู้ใช้แต่ละกลุ่มมีพฤติกรรมอย่างไร ณ จุดต่าง ๆ ระหว่างประสบการณ์ของพวกเขา เพื่อตอบคำถามต่าง ๆ เช่น ผู้ใช้กลุ่มใดเลิกใช้ระหว่างลงชื่อสมัครใช้ โดยการใช้ Mixpanel ทำให้เข้าใจผลกระทบที่ปัญหาเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้ามีต่อรายได้
แนวทางนี้เร็วกว่าและง่ายกว่าเครื่องมือธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence หรือ BI) ที่นิยมใช้อยู่เดิมมาก เพราะเครื่องมือดังกล่าวจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลและจัดทำเป็นตาราง โดยข้อความค้นหา BI จะเข้ารหัสใน SQL แม้การวิเคราะห์ BI ให้มุมมองเกี่ยวกับจำนวนลูกค้าที่เปลี่ยนใจได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เห็นได้ว่า เหตุใดผู้ใช้จึงมีพฤติกรรมแบบนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่การวิเคราะห์กิจกรรมมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทีมผลิตภัณฑ์ ที่คอยสร้างและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่
https://www.thaipr.net/it/3355655
