"ดิจิทัล เรียลตี้" เปิดตัวศูนย์ข้อมูลแห่งแรกที่ได้รับการรับรองอินวิเดีย ดีจีเอ็กซ์ เอช100
สภาวะแวดล้อมที่ได้รับการรับรองจากอินวิเดียที่ศูนย์ข้อมูลเคไอเอ็กซ์13 มอบการเข้าถึงที่รวดเร็ว เพื่อเร่งนำปัญญาประดิษฐ์มารองรับการทำงานบนจุดรวมตัวอย่างแพลตฟอร์มดิจิทัล
ดิจิทัล เรียลตี้ (Digital Realty) (NYSE: DLR) ผู้ให้บริการคลาวด์และศูนย์ข้อมูลที่อนุญาตให้ใช้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมได้หลายราย ผู้ให้บริการให้เช่าพื้นที่วางเซิร์ฟเวอร์ และผู้ให้บริการเชื่อมต่อโครงข่ายรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศว่า ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ล่าสุดอย่างเคไอเอ็กซ์13 (KIX13) ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการรับรองอินวิเดีย ดีจีเอ็กซ์ เอช100 (NVIDIA DGX H100-ready) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการศูนย์ข้อมูลที่พร้อมทำงานกับอินวิเดีย ดีจีเอ็กซ์ (NVIDIA DGX-Ready Data Center)
เคไอเอ็กซ์13 ได้รับการรับรองที่ว่านี้ อันเป็นผลจากความสามารถในการมอบสภาพแวดล้อมที่มีความเฉพาะเจาะจง แข็งแกร่ง และยืดหยุ่น ซึ่งปรับให้เหมาะกับการปรับใช้ระบบคอมพิวเตอร์จำนวนมากในระดับต่าง ๆ
ดีจีเอ็กซ์ เอช100 (DGX H100) เป็นโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ (AI) เจ็นสี่ที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ของอินวิเดีย (NVIDIA) โดยเป็นรากฐานของอินวิเดีย ดีจีเอ็กซ์ ซูเปอร์พ็อด (NVIDIA DGX SuperPOD(TM)) ที่ให้พลังการคำนวณที่จำเป็น ในการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบดีปเลิร์นนิงที่ทันสมัย พร้อมกระตุ้นการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ สู่อนาคต ช่วยให้ลูกค้าองค์กรคิดค้นโซลูชันฟูลสแต็กที่เร่งการปรับใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ เปิดโอกาสให้จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลในประเทศได้ ในขณะเดียวกันก็ตอบสนองความต้องการด้านความครอบคลุม ความจุ และการเชื่อมต่อทั่วโลก เมื่อต้องนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในวงกว้าง
ปัญญาประดิษฐ์กำลังกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเบื้องหลังเทคโนโลยีสมัยใหม่ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม โดยมีการนำไปใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ผู้ช่วยเสมือนจริง การตรวจจับการฉ้อโกง และการตรวจจับความผิดปกติ ซึ่งคาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาที่ท้าทายที่สุดในโลก ความสำเร็จในการใช้ปัญญาประดิษฐ์นั้นขึ้นอยู่กับศูนย์ข้อมูลที่ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเค้าโครงและการเชื่อมต่อที่จำเป็นเพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อองค์กรสมัยใหม่นำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ ผู้นำด้านเทคโนโลยีจึงพยายามเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์มากขึ้น เพื่อเป็นกลยุทธ์หลักในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและตัดสินใจได้ในทันที โดยชุมชนแพลตฟอร์มดิจิทัล (PlatformDIGITALTM) ที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างล้ำลึกของดิจิทัล เรียลตี้ ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ ช่วยให้พวกเขาเรียกใช้ปริมาณงานปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมั่นใจในสภาพแวดล้อมที่เร่งความเร็วด้วยอินวิเดีย เพื่อคิดค้นและแก้ปัญหาการคำนวณที่ท้าทายที่สุดในโลก พร้อมเอาชนะอุปสรรคในเรื่องแรงโน้มถ่วงของข้อมูล (Data Gravity) ขณะที่แพลตฟอร์มการจัดการบริการระดับโลกของดิจิทัล เรียลตี้ อย่างเซอร์วิสแฟบริก (ServiceFabric(R)) เปิดโอกาสให้ลูกค้าปรับปรุงการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีแบบไฮบริดได้ ในขณะที่เข้าถึงชุมชนพันธมิตรที่เปิดกว้างและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ให้ได้เชื่อมต่อและใช้บริการที่มีการจัดการได้ ทั้งหมดนี้อยู่บนแพลตฟอร์มที่ครบจบในที่เดียว
ขนาดและความซับซ้อนของบริการ ฐานลูกค้าที่กว้างขวาง และทรัพยากรทางเทคนิคที่สำคัญ ทำให้ดิจิทัล เรียลตี้ มอบพลังที่ออกแบบมาอย่างแม่นยำ พร้อมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในการระบายความร้อน รองรับความต้องการของปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลพลังสูง ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาอย่างหลากหลายในด้านวิศวกรรมศูนย์ข้อมูลช่วยให้ดิจิทัล เรียลตี้ นำเสนอสภาพแวดล้อมของศูนย์ข้อมูลที่พร้อมรับกับอนาคต และรับมือกับวิวัฒนาการจากการระบายความร้อนด้วยอากาศไปเป็นด้วยของเหลว โดยคาดว่าจะช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุนการประมวลผลข้อมูลได้ อันเป็นผลจากความสามารถของเทคโนโลยีในการระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน สิ่งนี้ยังมีส่วนช่วยให้ดิจิทัล เรียลตี้ และลูกค้า มีความคืบหน้าในการลดการปล่อยคาร์บอนตามขอบเขต 1 และ 2 ลง 68% และขอบเขต 3 ลง 24% ภายในปี 2573
การรับรองศูนย์ข้อมูลเคไอเอ็กซ์13 ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นในการทำงานร่วมกันของดิจิทัล เรียลตี้ กับอินวิเดีย โดยดิจิทัล เรียลตี้ เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายแรก ๆ ที่ได้รับการรับรอง "DGX-Ready Data Center" เมื่อเปิดตัวโปรแกรมดังกล่าวในปี 2562 ปัจจุบันดำเนินการศูนย์ข้อมูลที่รองรับการทำงานกับดีจีเอ็กซ์ในตลาดกว่า 20 แห่งทั่วโลก รวมถึง 6 แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิก
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.thaipr.net/it/3357891
