- อินฟินิต อัปไทม์ ปฎิวัติการใช้งานเครื่องจักรอุตสาหกรรมด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะ มอบความสามารถในการวินิจฉัยการขัดข้องของเครื่องจักรแบบเรียลไทม์และการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเครื่องจักรสำคัญด้วยแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์อัจฉริยะแบบบูรณาการ
- แพลตฟอร์มของอินฟินิต อัปไทม์ สามารถวิเคราะห์ความถี่ของการสั่นสะเทือนซึ่งตรวจจับด้วยเซนเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องจักรสำคัญ เพื่อคาดการณ์การขัดข้องของเครื่องจักร
- ทีดีเค เวนเจอร์ส จับมือเป็นพันธมิตรกับอินฟินิต อัปไทม์ ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำที่สนับสนุนการทำงานอัตโนมัติ ลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน ตลอดจนเพิ่มความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ทีดีเค คอร์ปอเรชัน (TDK Corporation) (TSE: 6762) ประกาศว่า ทีดีเค เวนเจอร์ส อิงค์ (TDK Ventures Inc.) ซึ่งเป็นธุรกิจเงินร่วมลงทุนในเครือของบริษัท ได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนใน อินฟินิต อัปไทม์ (Infinite Uptime) บริษัทสตาร์ตอัปซึ่งมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรม 5.0 โดยมีแพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเซนเซอร์ที่ทันสมัย การวิเคราะห์ขั้นสูง และอัลกอริทึมการเรียนรู้ด้วยตนเองของคอมพิวเตอร์ ในการติดตามเครื่องจักรสำคัญซึ่งใช้งานในอุตสาหกรรม เพื่อคาดการณ์และระบุการขัดข้องของเครื่องจักรที่เกิดขึ้นได้ในทันที เพื่อรับประกันว่าเครื่องจักรจะทำงานอย่างเต็มที่ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้น
แพลตฟอร์มการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance หรือ PdM) ของอินฟินิต อัปไทม์ มาพร้อมสองคุณสมบัติสำคัญในแพลตฟอร์มเดียว ได้แก่ บริการด้านการวิเคราะห์ (Diagnostics as a Service หรือ DaaS) ซึ่งคอยจับตาเครื่องจักรสำคัญตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด พร้อมกับแจ้งเตือนเมื่อมีการขัดข้องใด ๆ ก็ตามเกิดขึ้น และบริการตรวจสอบความน่าเชื่อถือทางดิจิทัล (Digital Reliability Service หรือ DRS) ซึ่งพร้อมดำเนินการหรือแทรกแซงตามคำสั่ง และลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังสามารถตรวจจับการเสื่อมสภาพและการขัดข้องของเครื่องจักรที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ โดยอาศัยการวิเคราะห์ความถี่ของการสั่นสะเทือนซึ่งตรวจจับด้วยเซนเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องจักรสำคัญ โดยข้อมูลตามหลักฟิสิกส์นี้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการตัดสินใจด้วย AI ซึ่งช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในเชิงรุกและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ศักยภาพเหล่านี้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม 5.0 เพื่อยกระดับการผลิตและประสิทธิภาพของอุตสาหกรรม พร้อมกับส่งเสริมแนวปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนยิ่งขึ้น ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร การระบุและลดความเสี่ยง รวมถึงการลดความสูญเปล่า
ความต้องการโซลูชันในการตรวจสอบประสิทธิภาพและการบำรุงรักษากำลังมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากตลาดยังคงเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม 5.0 อย่างต่อเนื่อง แพลตฟอร์มของอินฟินิต อัปไทม์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ด้วยระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถดำเนินงานอย่างเป็นอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังช่วยลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงานและยกระดับความยั่งยืนโดยรวมด้วยเช่นกัน
แพลตฟอร์มการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ของอินฟินิต อัปไทม์ บูรณาการเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมที่มีอยู่เดิมได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ มอบแนวทางที่ครอบคลุมและได้รับการสนับสนุนด้วยข้อมูลเพื่อคาดการณ์และป้องกันการขัดข้องของเครื่องจักร นอกจากนี้ ด้วยการใช้ความสามารถของอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง (IoT) การประมวลผลคลาวด์ และการวิเคราะห์ขั้นสูง ทำให้แพลตฟอร์มนี้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้งานได้จริงแก่ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ซึ่งช่วยส่งเสริมความเป็นเลิศในการดำเนินงานและสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ดร.เรานัก บินจ์ (Raunak Bhinge) ซีอีโอของอินฟินิต อัปไทม์ กล่าวว่า "พันธกิจของเราคือการช่วยให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถใช้ศักยภาพของอุตสาหกรรม 5.0 ได้อย่างเต็มที่ โดยมีเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นต่อการเร่งผลักดันการเติบโตทางธุรกิจและยกระดับความยั่งยืน เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับทีดีเค เวนเจอร์ส ที่มาพร้อมความชำนาญและการสนับสนุน ซึ่งจะช่วยให้แพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะของเราถูกนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว"
คุณนิโคลัส ซอวาจ (Nicolas Sauvage) ประธานของทีดีเค เวนเจอร์ส กล่าวว่า "อินฟินิต อัปไทม์ เป็นบริษัทชั้นแนวหน้าในการปฏิวัติอุตสาหกรรม 5.0 โดยสามารถจัดการอุปสรรคสำคัญด้านระบบอัตโนมัติและประสิทธิภาพของอุตสาหกรรม แพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะของบริษัทมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานของอุตสาหกรรม ซึ่งเปิดทางไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับอินฟินิต อัปไทม์ และสนับสนุนเส้นทางของพวกเขาในการกำหนดอนาคตของการใช้งานเครื่องจักรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนมากขึ้น"
ทั้งนี้ ทีดีเค เวนเจอร์ส ลงทุนในสตาร์ตอัประยะเริ่มต้นทั่วโลกที่ใช้ประโยชน์จากวัสดุศาสตร์พื้นฐานเพื่อปลดล็อกอนาคตที่น่าดึงดูดใจและยั่งยืนเพื่อโลกของเรา เป้าหมายของทีดีเค เวนเจอร์ส คือการช่วยให้สตาร์ตอัปทุกรายที่บริษัทเข้าไปลงทุนบรรลุศักยภาพสูงสุดในการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อโลกใบนี้
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่
https://www.thaipr.net/it/3363570 
