หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หัวเว่ย สนับสนุนวงจรธุรกิจ 5G เชิงบวก พร้อมอ้าแขนรับ 5.5G (5G-A)  (อ่าน 1144 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 12 ตุลาคม 2023, 12:39:59 »

หัวเว่ย (Huawei) จัดการประชุมโกลบอล โมบายล์ บรอดแบนด์ (Global Mobile Broadband Forum) ครั้งที่ 14 ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในโอกาสนี้ คุณหลี่ เผิง (Li Peng) รองประธานอาวุโสของบริษัท และประธานกลุ่มธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม (Carrier BG) ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยได้เรียกร้องให้ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกและพันธมิตรในอุตสาหกรรมคว้าโอกาส ตอบสนองความต้องการเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น และใช้แนวโน้มในอนาคตให้เกิดประโยชน์สูงสุด

"มาเริ่มกันตั้งแต่วันนี้ ด้วยการสร้างเครือข่ายแห่งอนาคตเพื่อรองรับบริการในอนาคต พร้อมปลดปล่อยศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของ 5G เพื่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง" เขากล่าว

ในสุนทรพจน์ว่าด้วยการขับเคลื่อนวงจรธุรกิจ 5G เชิงบวกและการอ้าแขนรับ 5.5G (5G-A) คุณหลี่กล่าวว่า "เราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องสู่ความสำเร็จของธุรกิจ 5G โดย 5G-Advanced ก็คือก้าวต่อไปในวิวัฒนาการของ 5G"

เขาย้ำว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญทุกครั้งล้วนเป็นผลมาจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีอเนกประสงค์ (General Purpose Technology) "ตอนนี้เราอยู่ในยุคดิจิทัล ซึ่งอินเทอร์เน็ตเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล"

"5G เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหม่" คุณหลี่กล่าว "และทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีอเนกประสงค์ และสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัลแล้ว 5G กำลังช่วยเปิดตลาดและโอกาสใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว"

คุณหลี่กล่าวเสริมว่า เครือข่ายมือถือในอนาคตจำเป็นต้องมีคุณสมบัติหลักหกประการ ได้แก่ ดาวน์ลิงก์ 10 Gbps, อัปลิงก์ 1 Gbps, เครือข่ายเชิงกำหนด (Deterministic Networking), รองรับการเชื่อมต่อ IoT นับแสนล้าน, เซนเซอร์และการสื่อสารแบบควบรวม (Integrated Sensing & Communications) และความสามารถด้านเนทีฟ เอไอ (native AI) เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้เล่นในอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับปรุงความสามารถอย่างต่อเนื่องในสามส่วนหลัก ได้แก่ ความเร็วของการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เพิ่มขึ้น (Enhanced Mobile Broadband: eMBB) การรองรับการสื่อสารของอุปกรณ์จำนวนมาก (Massive Machine Type Communications: mMTC) รวมถึงการสื่อสารที่มีเสถียรภาพสูงและความหน่วงต่ำ (Ultra-Reliable Low-Latency Communication: URLLC) อีกทั้งยังต้องพัฒนาความสามารถใหม่สามประการ ได้แก่ การสื่อสารบรอดแบนด์ที่มุ่งเน้นการอัปลิงก์ (Uplink Centric Broadband Communication: UCBC) การสื่อสารบรอดแบนด์แบบเรียลไทม์ (Real-Time Broadband Communication: RTBC) รวมถึงเซนเซอร์และการสื่อสารแบบประสาน (Harmonized Communication and Sensing: HCS)

เมื่อพูดถึง 5G-Advanced ซึ่งเป็นวิวัฒนาการก้าวต่อไปของเทคโนโลยี 5G คุณหลี่กล่าวว่า อุตสาหกรรมจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศของอุปกรณ์และแอปพลิเคชัน ระบุกรณีการใช้งาน ตลอดจนเร่งดำเนินการเชิงพาณิชย์ในส่วนของโซลูชัน FWA Square, Passive IoT และ RedCap

ความพยายามเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทรนด์ใหม่ทั้งห้าที่จะกำหนดอนาคตดิจิทัลอัจฉริยะ ได้แก่

การดูวิดีโอ 3 มิติโดยไม่ต้องใส่แว่น

อุตสาหกรรมการดูวิดีโอ 3 มิติโดยไม่ต้องใส่แว่นกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงการเรนเดอร์บนคลาวด์และมนุษย์เสมือนจริง 3 มิติแบบเรียลไทม์ จะยกระดับประสบการณ์ที่ดื่มด่ำสมจริงไปอีกขั้น และในอนาคต อุปกรณ์มากมาย เช่น โทรศัพท์มือถือและทีวี จะรองรับการดูวิดีโอ 3 มิติโดยไม่ต้องใส่แว่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้การรับส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าเมื่อเทียบกับวิดีโอ 2 มิติ

ยานพาหนะนำทางอัตโนมัติ

ภายในปี 2568 จะมีรถยนต์อัจฉริยะมากกว่า 500 ล้านคันบนท้องถนน เครือข่ายที่มีแบนด์วิดท์สูงและความหน่วงต่ำจะช่วยให้ยานพาหนะอัจฉริยะสามารถแบ่งปันข้อมูลกับผู้ขับขี่ ยานพาหนะ ถนน และระบบคลาวด์ได้แบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ ในโหมดช่วยขับ ยานพาหนะอัจฉริยะจะใช้ข้อมูลมากกว่า 300 กิกะไบต์ทุกเดือนเพื่อฝึกโมเดลบนคลาวด์และอัปเดตอัลกอริทึมรายสัปดาห์ ส่วนในโหมดขับขี่อัตโนมัติ ปริมาณการใช้ข้อมูลจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่า

การผลิตยุคใหม่

ด้วยความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ เช่น การแบ่งเครือข่าย (Network Slicing) และการประมวลผลแบบเอดจ์ (Edge Computing) ทำให้จำนวนเครือข่ายส่วนตัว 5G สำหรับการใช้งานระดับองค์กรเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า และขนาดของตลาดก็เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสายการผลิตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พึ่งพาเครือข่ายไร้สายมากขึ้น และระบบการผลิตหลักถูกโยกไปอยู่บนคลาวด์มากขึ้น ดังนั้นเครือข่าย 5G จึงมีข้อกำหนดที่สูงขึ้น

หัวเว่ยทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างสายการผลิตทดลอง 5G-Advanced เป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม สำหรับสายการผลิตนี้ 5G-Advanced จะรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายเชิงกำหนดที่ใช้งานพร้อมกัน ซึ่งช่วยให้เชื่อมพลังการประมวลผลระหว่างคลาวด์กับเอดจ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2243911/Li_Peng_Corporate_Senior_Vice_President_President_Carrier_BG_Huawei.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2243912/Li_Peng_shares_trends_shape_intelligent_digital_future.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2243913/Li_Peng_Huawei_s_Global_Mobile_Broadband_Forum_Dubai_UAE.jpg

 



บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: