รู้จัก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากมดลูกกลัวอะไร?มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติที่บริเวณปากมดลูก ซึ่งสามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม มะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันได้และหายขาดได้หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV และการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
อาการมะเร็งมดลูกระยะแรกอาการของ
มะเร็งปากมดลูกในระยะแรก อาจไม่ชัดเจน แต่สามารถสังเกตเห็นได้ดังนี้:
- มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน หรือหลังมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมากผิดปกติ หรือมีกลิ่นเหม็น
- ปวดท้องน้อยหรือปวดหลัง
อาการเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกอาการเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกมีดังนี้:
- มีเลือดออกทางช่องคลอดระหว่างรอบเดือน หรือหลังหมดประจำเดือน
- มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมากผิดปกติ หรือมีกลิ่นเหม็น
- ปวดท้องน้อยหรือปวดหลังเรื้อรัง
- รู้สึกไม่สบายตัวหรือมีอาการเหนื่อยล้าโดยไม่ทราบสาเหตุ
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด
HPV ไวรัสก่อมะเร็งปากมดลูกติดเชื้อได้อย่างไร?ไวรัส HPV (Human Papillomavirus) เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก โดยการติดเชื้อ HPV มักเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อ การสัมผัสผิวหนังที่มีเชื้อไวรัส HPV ก็สามารถแพร่กระจายได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การมีคู่นอนหลายคน หรือการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
7 อาการมะเร็งปากมดลูกที่ต้องรีบพบแพทย์หากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบ:
- มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน หรือหลังมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็นหรือมีสีผิดปกติ
- ปวดท้องน้อยหรือปวดหลังเรื้อรัง
- ปวดหรือไม่สบายตัวระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- มีเลือดออกหลังหมดประจำเดือน
- มีอาการเหนื่อยล้าอย่างต่อเนื่อง
- น้ำหนักลดหรือเบื่ออาหาร
ใครบ้างที่มีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้แก่:
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
- ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน
- ผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อ HPV
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อ HIV
- ผู้ที่ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีวิธีการดังนี้:
- การตรวจ Pap smear: เป็นการเก็บตัวอย่างเซลล์จากปากมดลูกเพื่อตรวจหาความผิดปกติ
- การตรวจ HPV DNA Test: เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส HPV ในเซลล์ของปากมดลูก
- การตรวจ VIA (Visual Inspection with Acetic Acid): เป็นการใช้กรดอะซิติกทาปากมดลูกแล้วดูด้วยตาเปล่าหลังจากนั้นว่ามีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์หรือไม่
ป้องกันอย่างไรให้ห่างไกลมะเร็งปากมดลูก
การป้องกันมะเร็งปากมดลูกสามารถทำได้โดย:
- การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV: ควรฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
- การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก: ควรทำ Pap smear หรือ HPV DNA Test เป็นประจำตามคำแนะนำของแพทย์
- การใช้ถุงยางอนามัย: เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
- การเลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในการเกิดมะเร็งปากมดลูก
- การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล: หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคนและดูแลสุขภาพโดยทั่วไปให้แข็งแรง
Tags : สุขภาพ,ข่าว,ข่าวสุขภาพ