ระบบที่ใช้ Review

CPU: AMD x2 3600+

MB: Asus M2N-SLi Deluxe

Memory: OCZ SLi-Ready 1024*2 gb

VGA: ATi Sapphire HD3870

PSU: Enermax Liberty 500w

OS: Window XP 2002 SP2

Driver: Logitech SetPoint 4.0a2

หากจะพูดถึง Logitech G5 นับตั้งแต่ออกจำหน่ายตัว Rev.2 ถือเป็นเวอร์ชั่นที่ 3 ของ G5 Series แล้วนะครับ ซึ่งก่อนหน้านี้จะมี G5 Original (Rev.1) และ G5 Battle Field Edition ออกมาให้เรายลโฉม เจ้า Rev.2 ตัวนี้โดยทาง specification นั้นไม่ค่อยมีอะไรต่างจากเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ ยกเว้นการเพิ่มปุ่ม thumb Button เป็น 2 ปุ่ม แต่ด้วยการเปลี่ยนลาย Texture รวมถึงพัฒนา Grip ก็สามารถดึงดูด Gamer ให้หลงไหลได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ

G5 Original (Rev.1) ซึ่งทำออกมาโทนสีส้ม-สนิม ผิว Texture เป็นสีเงินด้านๆ ผิวเรียบ ขอบ Grip เป้นยาง ด้านล่างเหมือนกันทุกอย่างครับ

ตัวถัดมาคือ G5 BattleField Edition ซึ่งเปลี่ยนลาย Texture ใหม่เป็นเกมส์ BattleField ออกมาโกยเงิน Gamer ซึ่งผิว Texture เป็นยางสกรีนลาย เรียบและด้าน ใกล้เคียงกับพื้นผิว texture ของ G5 Rev.2

Driver

ไดรเวอร์ที่แถมในกล่องจะเป็น Version 4.0a2 ซึ่งสามารถ Detect G5 Rev.2 ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงยัง Detect mouse ของ Logitech รุ่นก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน

SetPoint 4.0a2 สามารถ Detect G5 Rev.2 ได้อย่างถูกต้อง และแสดงปุ่มที่สามารถใช้งาน - ปรับแต่งได้ครบทั้ง 9 ปุ่ม

ในส่วนของ Advance Game Setting เราสามารถตั้งได้แค่ 1 Profile แต่ปรับ DPI Sensitive ได้ 5 ระดับ (หากไม่ลงไดรเวอร์จะปับได้ 3 ระดับคือ 2000, 800, 400DPI ตามลำดับ) ในรูปผมปรับ DPI Level ให้เหมาะสมกับการใช้งานของผมเอง และมี Polling Rate (Report Rate) 1000Hz เหมือน Lachesis เลยครับ

driver Logitech ทำออกมาได้สเถียรมากครับ สามารถรองรับเกม์และโปรแกรมต่างๆ ได้ครบหมด (Compatibility Application) ซึ่งจากการทดลองใช้งานประมาณ 3-4 วันยังไม่พบ Error หรือ Bug ใดใด

ดีไซน์และความรู้สึกเมื่อจับเมาท์ (Design & Feeling)

ครั้งแรกที่ได้จับเอเลี่ยนตัวนี้ ผมรู้สึกคุ้นเคยด้วยการดีไซน์ค้ลายคลึงกับ G5 ในเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้แต่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย ตัวเมาท์ออกแบบมาเป็นทรงครึ่งวงกลม เวลาใช้งานจะจับเมาทืในลักษณะกุมมือ เมื่อใช้ไปนานๆ อาจจะรู้สึกเมื่อยนิ้วเล็กน้อย (นิ้วจะงอเล็กน้อย) ตัว Texture ออกแบบมาให้ขรุขระ เวลา Grip เมาท์สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพราะความรู้สึกฝืดๆ ด้านๆ ข่วยให้เราจับเมาท์ได้แน่นขึ้น

การดีไซน์ของเมาท์จะเอียงไปทางด้านซ้าย หมายถึงออกแบบมาให้คนที่ถนัดขวาจับเมาท์ ผมลองใช้มือซ้ายจับดูปรากฏว่าไม่ถนัดเลยครับ ขัดความรู้สึกอย่างแรง (ตรงนี้ท่านที่ถนัดซ้ายต้องทดลองเอง)

ตัวเมาท์มีช่องสำหรับถ่วงน้ำหนักตามความถนัดของแต่ละคน ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของ G5 Series เลยครับ การถ่วงน้ำหนักนอกจากช่วยในการ Control ตัวเมาท์แล้วยังช่วยในการควมคุมการ Drag & Swing ให้อยู่ในวงที่เราต้องการอีกด้วย ช่วยให้เราจับ Center ของเมาท์ได้ง่าย เมื่อปรับไปที่ 2000DPI ก็ยังสามารถความคุมเมาท์ได้นิ่งเช่นเดิม ทดสอบด้วยเกม Call of Duty 4 การเล้งและยิงสามารถทำได้โดยง่าย ความนิ่งของเมาทรวมกับดีไซนืที่รับกับมือขวา เวลาเรากดยิง - ยิงติดต่อกัน ตัวเมาท์จะไม่เลื่อนเลยครับ การยิงโดยใชปืนสไนเปอร์เมื่อซูมแล้ว เรากดปรับไปใช้ 400-800DPI จะช่วยให้เราคลำเป้าได้นิ่งยิ่งขึ้น ไม่ส่ายจนเกินไป (ขอขอบคุณเทคนิคนี้จากท่าน Numz) ส่วนเกม RTS ทั่วไปสามารถใช้งานได้สะดวกดีครับปุ่ม hotkey ที่มีเพียง 2 ปุ่มทดแทนด้วยปุ่ม Tilt Wheel แต่เวลาเล่นเกมการใช้ Tilt Wheel นั้นไม่สะดวกเอาเสียเลย (กลายเป้นเหลือ hotkey เพียง 2 ปุ่ม) การ Drag Screen ทำได้ง่ายเมื่อใช้ร่วมกับปุ่ม Tilt Wheel สามารถ drag ได้อย่างรวดเร็ว (คอเกม RTS คงถูกใจล่ะครับ)

การใช้ปุ่ม Thumb Button สามารถทำได้โดยง่าย เพราะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอยู่แล้ว (ในกรณีถนัดขวา) ไม่ต้องละมือออกจากเมาท์ เมื่อจับเมาท์เป็นเวลานาน 2-3 ชั่วโมงจะมีเหงื่อออกที่อุ้งมือ แต่ Grip ยางไม่ทำให้เรารู้สึกเหนียวมือแต่อย่างใด ไม่มีอาการลื่น แต่หลังการใช้งานต้องทำความสะอาดยุ่งยากซักนิดเพราะ ผิว Texture มีลักษณะขรุขระ เวลาเช็ดทำความสะอาดจึงมีร่องและซอกเยอะแยะไปหมด ฝุ่นและผงแป้งสามารถเช็ดออกได้ไม่ยากครับ

ลักษณะการจับเมาท์ ตัวเมาท์จะโค้งเป็นครึ่งวงกลม จับแล้วจะอยู่ในลักษณะกุมมือ นิ้วชี้และนิ้วกลางจะงอเล็กน้อย แต่กระชับและสามารถคลิกได้ไว

การ Squeezes Thumb Button สามารถทำได้ง่าย เพราะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

Squeezes Thumb Button ปุ่มที่ 2 ก็ไม่ต้องละมือออกจาเมาท์ และไม่ต้องเอื้อมด้วยครับ อยู่ใกล้ๆ กับปุ่มแรก แต่ปุ่มที่นูนออกมาทำให้เรากดได้ถูกต้องโยไม่ต้องละสายตาจากหน้าจอ

ภาพถ่ายจากมุมด้านบน การจับเมาท์จะเอียงไปทางซ้ายเล็กน้อย แต่จับได้สบายมือครับ