Review : Asus Zenbook UX31E

…เมื่อประมาณสักไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสไปสัมผัส Ultrabook รุ่นหนึ่งที่เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยเป็นเจ้าแรก ก่อนอื่นคงต้องท้าวความกันก่อนสำหรับรีวิวนี้ว่า Ultrabook นั้นคือนิยามสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท๊อป ที่อินเทลได้กำหนดขึ้น ให้มีการตอบสนองกับการใช้งานที่รวดเร็ว คือเวลาบู้ตเครื่อง และกลับขึ้นมาพร้อมใช้งานจากโหมด sleep ต้องไม่เกินห้วงเวลาตามที่อินเทลกำหนด มีน้ำหนัก และขนาดที่พอเหมาะตามที่อินเทลกำหนด และนั้นเองก็เกิดขึ้นมาเป็นเครื่อง Ultrabook จาก Asus ในนาม “Zenbook” รายละเอียดของ Ultrabook ท่านสามารถตามกลับไปอ่านได้ในนี้ครับ

Processor	Intel Core i5 2557M 1.7Ghz 3MB L3 cache
Chipset	Intel QS67
Memory	4GB DDR3-1333MHz
Graphics Adapter	Intel HD
Display	13.3″ 1600×900px
Harddisk	128GB SSD (Sandisk)
Optical Drive	N/A
Network	Atheros (Wireless N)
Connection Port	USB2.0, USB3.0, micro-HDMI,SD/MMC Cardreader
Battery	UNKNOWN
Weight	1.3Kg
OS Bundled	Windows 7 Home Premium

…Asus Zenbook UX31E นั้นถือเป็น Ultrabook จากทาง Asus ที่เป็นโมเดลจอขนาด 13 นิ้ว ที่เอาออกมาชิมลางก่อน ซึ่งจริงๆแล้วทาง Asus ได้เตรียมตัว UX210 ที่เป็น 12 นิ้ว แต่ยังไม่ได้มีขายในปัจจุบัน ทางด้านรายละเอียดเชิงเทคนิค UX31E ใช้ซีพียู Core i5 รุ่นพิเศษรหัสลงท้ายด้วย 5x ที่ถูก optimize มาเฉพาะสำหรับ Ultrabook พร้อมกราฟฟิคอินติเกรต และฮาร์ดไดร์ฟแบบ SSD จาก Sandisk ซึ่งด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ จะทำให้ UX31E นั้นเข้าแก๊ปที่จะสามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็น Ultrabook โดยสมบูรณ์

..

…ดีไซน์โดยรวมนั้นส่วนหนึ่งถูกทำมาให้มีลักษณะบางเป็นพิเศษ เหตุผลหนึ่งก็คือเป็นข้อกำหนดของทางอินเทล (อีกแล้ว) ที่จะกำหนดให้ ultrabook นั้นจะต้องมีความบางไม่มากไปกว่า 20มิลลิเมตร ซึ่งเจ้า Zenbook ของเราในวันนี้ก็มีความหนาสูงสุดอยู่ที่แค่ 17 มิลลิเมตรเท่านั้น

บอดี้อะลูมิเนียมขัดเงาและถูกเก็บงานพื้นผิวสไตล์ brushed เป็นวงกลม ดูแปลกตาและสวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว

รอยต่อและบานพับ รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆที่เราอาจจะเห็นความไม่เรียบร้อยของงานประกอบ เท่าที่สัมผัสดูพบว่าเก็บงานมาได้เรียบร้อยดีมาก ผมทดลองเอามือลูบไปตามแนวเหลี่ยมคมของเครื่อง พบว่ามันมีความต่อเนื่องและลื่นมือดีมากๆ

…วัสดุที่ใช้ภายใต้ฝาพับนี้จริงๆแล้วจะดูสไตล์ไปๆมาๆ ก็จะคล้ายๆบอดี้ unibody ของทางฝั่งแอปเปิล ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นการเหมือนกันโดยฟีเจอร์ มากเสียกว่าที่จะเป็นการตั้งใจเลียนแบบ เพราะถ้าจะทำให้เครื่องนั้นมีความบางระดับต่ำกว่า 20mm ก็คงจะหนีไม่พ้นวิธีการทำโครงสร้างให้เป็นแบบชิ้นเดียวแบบนี้และมีการระบายอากาศโดยเป่าลมร้อนออกทางฝาพับจอ ซึ่งผมถือว่า Asus เลือกสีและสไตล์ออกมาได้ดีพอสมควร ดูแล้วมีเอกลักษณ์ อะลูมิเนียมภายในนี้จะมีสีอมทองๆเหลืองๆเล็กน้อย

…คีย์บอร์ดนั้นจะมีลักษณะบางๆแบนๆ กดแล้วจะให้ความรู้สึกว่าจังหวะการกดค่อนข้างสั้น แต่แน่นหนาใช้ได้ดี อาการคลอนมีบ้างแต่ไม่มาก ส่วนเลย์เอาท์ถือว่าทำมาได้พอตัวสำหรับเครื่องขนาด 13 นิ้ว พิมพ์ใช้งานได้ปกติโดยไม่รู้สึกว่ามือถูกบีบ แม้กระทั่งทัชแพดที่มีขนาดใหญ่แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกว่ารบกวนการใช้งานคีย์บอร์ดเลยแม้แต่น้อย

…ทัชแพดนั้นเป็นแบบ Multi-touch ให้สัมผัสที่ผมบอกได้เลยว่า ดีกว่าโน๊ตบุ๊ก mainstreme หลายๆรุ่นที่ผมเคยสัมผัสมา ปกติแล้วผมจะไม่ prefer ที่จะใช้ multi touch หรือจะเรียกว่า gesture อะไรก็แล้วแต่ ในเครื่องแล็ปท๊อปพีซี แต่สำหรับ Zenbook แล้ว ผมใช้มันจนเพลิน ในการ scroll ขึ้นลงด้วยนิ้วสองนิ้ว และทำ pinch zoom ซึ่งคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า มันใช้งาน คล้ายๆกับเครื่อง Macbook นั้นแหละครับ การตอบสนองของมันทำได้ดีมากๆ ไม่หนืดไม่ดีเลย์ แต่ว่าจะติดช้าไปเสียนิดหนึ่งสำหรับคนที่ชอบเมาส์เคอร์เซอร์ไวๆแบบผม(ซึ่งสามารถปรับแต่งเอาทีหลังได้) แต่ใครที่เคยชินกับการลากเคอร์เซอร์แบบคนปกติๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

…โลโกพิเศษสำหรับซีพียู Intel Core i5 ที่ถูก Optimized มาสำหรับ Ultrabook จะมีลักษณะเป็นสีเงินๆแบบนี้ และยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่จะอดพูดไม่ได้คือลำโพง Bang&Olufen (ICE technology) ซึ่งจากการทดลองฟังแล้วพบพบว่าว่าดีกว่าลำโพง Altec หรือลำโพง SRS certified อื่นๆที่ Asus มีผลิตขายอยู่พอสมควรครับ

.

…พอร์ตเชื่อมต่อนั้นมีมาให้แค่พอใช้งานได้ ด้านขวาเครื่องจะมี USB2.0 ช่องสำหรับหูฟัง และสลอตการ์ดรีดเดอร์ SD แบบเต็มใบ

อีกด้านหนึ่งจะพบพอร์ต USB3.0 , Micro HDMI และ Mini VGA ที่เวลาใช้งานจริงจะมีตัวแปลงมาให้ รวมไปถึงรูเล็กๆรูด้านนอกสุดจะเป็นช่องสำหรับเสียบไฟ DC เข้าครับ

…ด้านใต้เครื่องนี้มาแบบโล่งๆเนียนๆเลย

สติกเกอร์ COA สำหรับ Windows 7 Home premium แบบ OEM จะถูกติดมากับตัวอแดปเตอร์ ใครกลัวโดนตำรวจตรวจก็พก adaptor เอาไว้ก็แล้วกันนะครับ

นอกจากนี้ในกล่องยังมาพร้อมกับซองหนังพิเศษสำหรับ Zenbook โดยเฉพาะ ดูสวยงามและเข้า theme โน๊ตบุ๊กดี ไม่ต้องไปถามหาซอฟท์เคสลายตลกๆ จากร้านขายโน๊ตบุ๊กกันอีกต่อไป

…นี่แหละคือชุดพอร์ตเชื่อมต่อที่ผมว่า มีซองหนังมาให้ด้วยครับ อันกลางนั้นคือ micro-HDMI to VGA ส่วนอันซ้ายมือคือการ์ดแลนแบบ USB สำหรับการเชื่อมต่อเน็ทเวิร์คผ่านคอนเน็กเตอร์แบบ RJ45 กับสายทองแดงเกลียวทั่วไป

แต่น้ำหนักรวมซองหนัง ก็หนักถึง 1.6 กิโลกรัม

ในขณะที่น้ำหนักเครื่องเปล่าๆผมชั่งได้ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น

อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟก็ถือว่าน้ำหนักไม่มาก พกพาได้สะดวกพอสมควร

Performance

- รายละเอียดเครื่อง

รายละเอียดดูกันให้ชัดเจนสำหรับซีพียู Core i5 ใน ultrabook ที่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคเหมือนกับ Core i5 รุ่นมาตรฐานเกือบทั้งหมด (ชุดคำสั่ง แคช บัส) เว้นเสียแต่ความถี่ที่อาจจะต่ำกว่ารุ่นปกติไปบ้าง แต่ให้สังเกตที่ระดับแรงดันไฟเลี้ยงดีดีครับ 0.8 โวลต์นี่ถือว่าต่ำจนน่าตกใจเลยทีเดียว

boot-up & resume time

เพื่อเป็นการพิสูจน์ความเร็วในการตอบสนอง ผมขอทดสอบด้วยการอัดวีดีโอ เพื่อที่ท่านผู้ชมจะสามารถเห็นภาพว่ามันเร็วแค่ไหนและถือเป็นการทดสอบที่ผมคิดว่าน่าจะเที่ยงกว่าการจับเวลาด้วยนาฬิกาครับ

Super PI 1M

14.8 วินาทีนี้ถือว่ายังเร็วกว่าเครื่องยุค Core 2 duo อยู่ระดับหนึ่ง ถึงแม้จะสู้พวก Core i5 i7 รุ่นเต็มๆไม่ได้

Cinebench R10

Ciebench R11.5

คะแนนผลทดสอบ Cinebench ถือว่าทำได้น่าประทับใจเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะ Open GL test ที่ไม่นึกว่าจะลื่นได้ขนาดนี้ กับกราฟฟิคอินติเกรตที่ดูเหมือนจะไม่ได้แรงน้อยไปกว่าซีพียูในรุ่นปกติเลย

AIDA64 Benchmark

CACHE & MEMORY BENCHMARK

DISK BENCHMARK

กดกันไปเต็มๆ 446.3mb/s กับ SSD จาก Sandisk !

Batterry Eater (100-50%) ทดสอบในโหมดประหยัดพลังงาน

…การทดสอบ ล็อคความเร็วซีพียูในโหมดประหยัดพลังงานให้ได้ความเร็วต่ำที่สุด 50% และ ทดสอบด้วยโปรแกรม Batterry Eater ในโหมด Classic ซึ่งซีพียูและกราฟฟิคจะทำงานเต็ม 100% เวลาที่ได้ สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลาที่สามารถนำเครื่องออกไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ ค่อนข้างใกล้เคียง

http://vmodtech.com/main/wp-content/uploads/northbridge/asuszenbook/b/27_12_2011_1/Report.html

144 นาที หรือหากประมาณการใช้งานแบตเตอร์รี่จนถึง 0% โดยการคิดจากอัตตราการเปลี่ยนแปลง ก็จะพบว่า Zenbook สามารถใช้งานได้ยาวนานประมาณ 4 ชั่วโมง 40 นาที กว่าๆเลยทีเดียว ซึ่งการใช้งานในชีวิตจริง หากไม่ได้ทำงานอะไรหนักๆมากนัก ผมคิดว่า 5 ชั่วโมงเป็นขั้นต่ำแน่นอน

PCMark 05

PCmark 7

คะแนน PCMark 05 ที่พุ่งดีดีนั้นก็คงจะเป็นเพราะ SSD harddrive แน่นอนครับ !

3Dmark06

ถือว่าไม่เลวสำหรับเครื่องบางๆเบาๆแบบนี้

.

… ถือว่าได้ว่าตามกันมาติดๆหลังจากที่ Acer ได้ปล่อยออกมาวางจำหน่าย ผมคิดว่าจุดเด่นของ Zenbook ในรุ่น UX31E นี้น่าจะเป็นการที่ทาง Asus ตั้งใจใส่ SSD มาให้เลยในรุ่น Core i5 ในขณะที่ Acer ยังคงกั้กเอาไว้ในรุ่น Core i7 รวมไปถึงดีไซน์ที่ผมคิดว่าดูดีมีเอกลักษณ์ในแบบของ Asus อยู่พอสมควร ใน Zenbook คุณภาพของตัวเครื่องเรียกได้ว่า เอาชนะใจผมไปเลย ทั้งงานประกอบ ทัชแพด และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ส่วนใครที่กลัวว่าทำมาบางเบาขนาดนี้แล้ว คิดว่ามันจะแรงไหม ก็น่าจะคลายกังวลได้หลังจากชมผลการทดสอบที่พบว่า มันก็ไม่ได้ช้าไปกว่าโน๊ตบุ๊กระดับ mainstreme ที่ใช้กราฟฟิคอินติเกรตจากอินเทลไปเสียเท่าไหร่เลยครับ

…ส่วนใครที่กำลังสับสนระหว่าง Ultrabook หรือจะไปทางฝั่ง MacAir ดี ผมก็ไม่สามารถตอบให้ได้ แต่สามารถบอกได้ว่าเครื่องทางฝั่ง Ultrabook นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของ compatibility หรือความเข้ากันได้กับอุปกรณ์หลายๆอย่าง ทั้งพอร์ต VGA และ HDMI ที่มีมาให้เสร็จสรรพ ในขณะที่ทางฝั่ง Mac นั้นเป็นออฟชั่นต่างหาก ส่วนในเรื่องของประสิทธิภาพ ถ้านับกันในโมเดลปัจจุบัน ส่วนตัวผมคิดว่าสูสีและพอๆกัน เมื่อดูที่ตัวซีพียู เอาเป็นว่า สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ความชอบอยู่ดีนั้นแหละครับ กับราคาของเจ้า Zenbook UX31 จะอยู่ที่ 37900.- ครับ

.

.

.

ขอขอบคุณ Asus

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!