Review :MSI GT685

…เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะได้ชม teaser ของรีวิว MSI GT685 ตัวนี้กันไปแล้วนะครับ ก็ขอเข้าเรื่องราวกันไปอย่างรวดเร็วเลยครับว่า GT685 เป็นโน๊ตบุ๊กตระกูล GT จากทาง MSI โดยในตระกูลนี้จะเน้นในเรื่องของโน๊ตบุ๊กสำหรับเกมเมอร์ ที่มาพร้อมกับดีไซน์ และสเป็คที่เอื้ออำนวยต่อการเล่นเกมให้มากที่สุดครับ

Processor	Intel Core i7 2670QM
Chipset	Intel HM65
Memory	16GB DDR3-1333MHz
Graphics Adapter	NVIDIA GeForce GTX580M
Display	15.6″ 1920×1080 (Full HD)
Harddisk	750GB 7200RPM
Optical Drive	DVD-RW
Network	Centrino Advance Wireless N 130
Connection Port	USB2.0×2, USB3.0×2, HDMI,SD/MMC Cardreader, DSUB, RJ45, eSATA
Battery	87Wh
Weight	3.5Kg
OS Bundled	Windows 7 Home Premium

…เมื่อพิจารณาจากสเป็คอันยาวเหยียดตามสไตล์ของเราที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ยกเครื่องกันใหม่เสียที ท่านจะพบว่า GT685 จัดเต็มด้วยซีพียู Core i7 4 หัวแท้ๆ มาตอกย้ำหลายๆท่านที่ชอบดูถูก Core i7 ในโน๊ตบุ๊กว่าชอบมาเป็นเวอร์ชั่น 2 หัวบ้าง กั้กอย่างโน้นอย่างนี้ ให้สะใจกันไปเลยนะครับ ส่วนกราฟฟิคชิปนั้นเป็น GTX580M ซึ่งโดยรายละเอียดแล้วมันจะมี shader units ที่น้อยกว่า GTX580 บนเดสก์ทอพอยู่เล็กน้อย เพื่ออัตตราการบริโภคพลังงานที่เหมาะสมในแพลตฟอร์มขนาดเล็กลงมาอย่างเครื่องแล็ปทอปนั้นเอง

…อีกจุดหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นใน AIDA64 นั้นก็คือตัวชิปควบคุมระบบไวเรสแลนเป็นของคุณภาพจาก Intel ในรุ่น Centrino Advance Wireless 130 ซึ่งน่าจะการันตีถึงเสถียรภาพและความแรง รวมไปถึงความใส่ใจรายละเอียดของวิศวกรจากทาง MSI ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวในเครื่องระดับ top-end แบบนี้

..

บอดี้โดยภาพรวมนั้นวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกเสียส่วนใหญ่ แต่เนื่องด้วยเครื่องมีน้ำหนักมาก พลาสติกที่ใช้ใน GT685 ก็เรียกได้ว่าคุณภาพนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ จนถึงเกือบดีครับ มีความมั่นคงแข็งแรงมั่นใจดีในขณะที่จับเครื่องยกไปมา หรือจับฝาจอเปิดออก พลาสติกผิวมันวาวก็ทำให้ตัวเครื่องดูมีสง่าราศีพอสมควร

ตัวถังโดยรวมนั้นเรียกได้ว่าหากใครที่เคยสัมผัส GT series มาในช่วงหลังๆก็จะพบว่าดีไซน์เส้นสายมันก็จะเป็นประมาณนี้แหละครับ เน้นส่วนโค้งที่คมคายและบึกบึน รวมไปถึงตัวเครื่องที่มีความหนาพอประมาณ

ให้ดูมุมนี้จะได้เห็นว่าตัวเครื่องมีความหนาพอสมควร ซึ่งก็แลกมากับความแรงที่มาจากส่วนประกอบภายใน

ถึงแม้ว่าเครื่องจะมีน้ำหนักถึง 3.5 กิโลกรัม แต่ผมพบว่าบานพับและรอยต่อต่างๆก็เก็บงานมาได้เรียบร้อยในระดับหนึ่งครับ การยกจอขึ้นใช้งาน ให้ความรู้สึกแข็งแรงมั่นคงดี ตัวจอไม่มีอาการสั่นสะบัดมากเกินไปถึงแม้ว่าตัวจอเองก็มีน้ำหนักของตัวมันที่มากพอประมาณ (15.6นิ้ว)

…คีย์บอร์ดเป็นแบบปุ่มแยก (Isolated) ตามสมัยนิยม ซึ่งความรู้สึกทีได้นั้นบอกตามตรงครับว่าค่อนข้างดีกว่าโน๊ตบุ๊กระดับ mainstreme ของค่ายนี้อยู่พอสมควร แต่ปุ่มลักษณะอารมณ์การกดก็จะยังคงความเป็น MSi อยู่คือช่วงคีย์จะสั้นๆแบนๆ แต่ก็ไม่แบนมากจนน่ารำคาญ ส่วนพื้นที่คีย์บอร์ดนั้นก็ทำออกมาได้เต็มที่ และคุ้มค่าเนื้อที่ดี โดยรวมแล้วผมไม่มีปัญหากับการใช้งานคีย์บอร์ดตัวนี้ numpad ที่ติดตั้งมาก็ใช้งานได้สะดวกดี และไม่ทำให้เรารู้สึกว่าคีย์บอร์ดส่วนหลักนั้นเอนไปทางใดทางหนึ่งมากเกินไปเสียด้วย

…ชุดลำโพง DynaAudio ที่ให้มิติของเสียงที่ดีมากเลยทีเดียวครับสำหรับโน๊ตบุ๊ก เพราะนอกจากลำโพงสองตัวที่เห็นนี้แล้ว ยังมีลำโพงด้านหน้าเครื่องอีกสองตัว พร้อม subwoofer ฝังอยู่ใต้เครื่องอีกด้วย ซึ่งก็นับได้ว่าเป็นระบบลำโพงแบบ 4.1 และนอกจากนี้บริเวณคอนโซลก็ยังจะมี hot key มาให้เลือกเล่นทั้งปุ่มปรับรอบพัดลม ปุ่มเปิดปิด turbo mode (TDE) ที่จะคอยช่วย overclock เครื่องให้ทำงานอยู่ในระดับที่ปลอดภัยและได้ความแรงเพิ่มขึ้นได้ หรือเปิด/ปิดระบบไร้สายต่างๆมาให้ใช้งานได้อีกด้วย

.

ทัชแพดนั้นให้สัมผัสความรู้สึกที่ลื่นมือดีเลยทีเดียว แต่เดิมๆมันจะเซ็ตเคอร์เซอร์มาให้ผมรู้สึกว่ามันอืดๆ ไปเสียหน่อยแต่โดยภาพรวมแล้วการใช้งานไม่มีปัญหาเรื่องความแม่นยำใดๆครับ

พอร์ตเชื่อมต่อนั้นมีอยู่รอบๆตัวเครื่อง เมื่อเริ่มไล่จากข้างหลังก็จะพบกับ HDMI, eSATA, DSUB และ RJ45

ส่วนด้านซ้ายมือเครื่องก็จะพบว่ามี USB3.0 สองพอร์ต และ 2.0 มาให้อีกสองพอร์ต รวมไปถึง cardreader

ด้านขวามือก็จะพบกับ USB2.0 อีกหนึ่งพอร์ต เหมือนจงใจไว้ให้เสียบเมาส์ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีพอร์ตเอาดิโอมาให้ถึงสี่ช่องสำหรับระบบเสียง 5.1 ด้วยครับ

แบตเตอร์รี่ขนาด 87Wh เรียกได้ว่ามีขนาดใหญ่กว่าโน๊ตบุ๊กทั่วไปอยู่พอสมควรเลยทีเดียวครับ

ในหลุมแบตเตอร์รี่ก็จะพบว่ามี COA ของ Windows 7 Home premium มาให้ด้วย

Performance

- รายละเอียดเครื่อง

รายละเอียดจากโปรแกรม CPUZ พร้อมแล้ว ก็ลุยกันเลยครับ

Super PI 1M

เรื่องความเร็วนี้ผมคงไม่ต้องพูดอะไรอีก เพราะมันเร็วเท่าๆกันทุกรุ่น ที่เป็น Core i5 แบบนี้ครับ

Cinebench R10

Ciebench R11.5

คะแนนผลทดสอบ Cinebench ถือว่าทำได้น่าประทับใจเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะ Open GL test ที่ถือได้ว่าคะแนนระดับนี้สามารถรองรับการใช้งานด้านความบันเทิงได้เต็มที่เลยครับ

AIDA64 Benchmark

CACHE & MEMORY BENCHMARK

DISK BENCHMARK

ความเร็วอ่านเขียนฮารืดไดร์ฟเรียกได้ว่าใช้ได้เลยทีเดียวครับ ผลประโยชน์นี้ยกให้ HDD 7200RPM

DIRT 3 (All highest setting)

Resident Evil 5 (Highest Setting)

Street Fighter 4 (Highest Setting)

ดูผลการทดสอบเกมมาจนถึงสามเกม ปรับ high สุดทุกๆ parameter ยังได้ fps มากขนาดนี้ เรียกได้ว่าหายห่วงครับสำหรับเกมสมัยใหม่หลายๆเกม

Batterry Eater (100-50%) ทดสอบในโหมดประหยัดพลังงาน

…การทดสอบ ล็อคความเร็วซีพียูในโหมดประหยัดพลังงานให้ได้ความเร็วต่ำที่สุด 50% และ ทดสอบด้วยโปรแกรม Batterry Eater ในโหมด Classic ซึ่งซีพียูและกราฟฟิคจะทำงานเต็ม 100% เวลาที่ได้ สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลาที่สามารถนำเครื่องออกไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ ค่อนข้างใกล้เคียง

http://vmodtech.com/main/wp-content/uploads/northbridge/msi_gt685/b/19_1_2012_1/Report.html

ประมาณจากแนวโน้มของกราฟ น่าจะได้ว่าแบตเตอร์รี่จะอยู่ได้ประมาณ 130 นาที หรือราวๆสองชั่วโมงเศษ ถือว่าไม่เลวครับสำหรับเครื่องพลังสูงแบบนี้

PCMark 05

PCmark 05 ก็ทะลุหลักหมื่นไปเรียบร้อยโรงเรียน MSI

PCmark 7

3Dmark06

3Dmark Vantage

3Dmark 11

คะแนนจาก benchmark ตระกูล futuremark ต่างๆนั้นเรียกได้ว่าน่าจะแรงที่สุดแล้วตั้งแต่ผมเคยเทสโน๊ตบุ๊กมาหลายๆเครื่องนะครับ

.

… ถือว่าได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊กที่เน้นในเรื่องของความแรงสำหรับการเล่นเกมอย่างเต็มพิกัดจริงๆ โน๊ตบุ๊กในระดับนี้ผมเชื่อว่าน่าจะต้องเป็นคนที่ชอบและใจรักจริงๆเท่านั้น ถึงจะซื้อมาใช้งาน เพราะจริงๆแล้วมันก็มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่น้ำหนักค่อนข้างมาก พกพาอาจจะลำบากไปเสียนิดหนึ่ง ประกอบกับด้วยเม็ดเงินเท่าๆกันแล้ว คุณอาจจะสามารถประกอบ PC ที่มีความแรงกว่านี้ได้อีกเยอะพอสมควร แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่า นี่คือโน๊ตบุ๊ก สำหรับผู้ที่ต้องการความแรงที่ติดตัวไปได้ในทุกๆโอกาสที่จะไปพบปะเจอเพื่อนฝูง แล้ว lanparty กันด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาจริงๆครับ

.

.

ขอขอบคุณ MSI

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!