Review : MSI Windpad 110W

…ต้องยอมรับว่าในปี 2011 นี้กระแส Tablet นั้นมาแรงจริงๆ นอกจาก Tablet ค่ายแนวๆ Open platform ต่างๆที่พากันแห่ทำกันบนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการแอนดรอย โดยใช้ซีพียูและโครงสร้างหลักๆคล้ายๆกับสมาร์ทโฟน ใช้แกนประมวลผลโครงสร้างหลักจากทางฝั่งของ ARM ในรูปแบบชิปประมวลผลที่แตกต่างกันไปในแต่ละค่าย ท่านผู้อ่านรู้หรือไม่ว่าเรายังมีแท็บเล็ตอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่ใช้โปรเซสเซอร์จากทางฝั่ง X86 หรือฝั่ง PC ที่เราคุ้นเคยกัน ไม่ว่าจะเป็น Intel Atom หรือในวันนี้ที่ผมได้รับมาทดลองใช้ ก็จะเป็นจากทางฝั่ง AMD ในตระกูล Z series กล่าวโดยคร่าวๆ Z series นั้นคือ APU ที่มีพื้นฐานแกนประมวลผลเหมือนๆกับ E series ในเน็ทบุ๊กนั้นแหละครับ แต่มีความเร็วแทั้งแกนประมวลผลและกราฟฟิคที่ต่ำกว่า และถูก optimize มาให้สามารถติดตั้งใช้การในเครื่อง Tablet ที่มีความบางกว่าเน็ทบุ๊ก หรือโน๊ตบุ๊กทั่วไปได้

รายละเอียดหลายๆจุด แทบจะเหมือนกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคขนาดเล็กๆเลยทีเดียวครับ ตั้งแต่โมดูลของการ์ดไวเรสที่โปรแกรมนี้เห็น เมมโมรี และซีพียู นอกจากนี้ยังมี 3G aircard ติดตั้งมาให้ในตัวอีกด้วย

..

…ดีไซน์โดยรวมทำมาในโทนเมทัลลิก หน้าจอทัชสกรีนแบบคาปาซิทีฟขนาด 10″ ความละเอียด 1280×800พิกเซล ซึ่งผมถือว่าละเอียดพอสมควร เพราะความละเอียดระดับนี้ก็น่าจะเป็นมาตรฐานสำหรับโน๊ตบุ๊กในยุคสักเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ก่อให้เกิดปัญหาเหมือนกันกับการจิ้มบางจุด เพราะระบบ Windows ถึงแม้จะทำมาให้รองรับ Multi touch และจอสัมผัสแบบนี้อยู่บ้าง แต่ว่าความละเอียดระดับนี้ในจอขนาดเพียง 10 นิ้ว ก็ทำให้จุดหลายๆอย่างมันมีขนาดเล็กลงไป ทำให้กดผิดบ้างถูกบ้าง (จริงๆแล้ว Windpad มีโซลูชั่นแก้ไขให้ เลื่อนลงมาอ่านดูเรื่อยๆแล้วจะได้ทราบกัน)

วัสดุที่ใช้นั้นเรียกได้ว่าดูดีมีราคาในระดับหนึ่งครับ เอาเป็นว่า ดีกว่า Tablet แนวๆเดียวกันจากค่ายคู่แข่งอยู่ค่ายหนึ่งครับ แต่ยังถือว่าไม่ดีที่สุด

ตัวเครื่องบางในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ฝาหลังนั้นวัสดุคล้ายๆอะลูมิเนียม จับแล้วให้สัมผัสที่ดี

ทางด้านนี้เราจะพบได้กับพอร์ต miniHDMI และช่องระบายอากาศแบบเดียวที่เราจะเห็นได้ในโน๊ตบุ๊ก น่าจะอนุมานได้ว่าความสามารถในการจัดการพลังงานต่างๆของ AMD Z series นั้นอยู่ในระดับดี แต่ว่าจริงๆแล้วก็ยังคงสู้สถาปัตยกรรมฝั่ง ARM ได้ไม่เต็มที่นัก เพราะยังคงต้องพึ่งพัดลมระบายความร้อนอยู่ ในขณะที่ซีพียูตัวแรงๆทางฝั่ง ARM อย่าง Tegra นั้นไม่ต้องมีแบบนี้เลย

ด้านขวามือของเครื่องนั้นจะมีเซ็นเซอร์คล้ายๆกับ trackpoint สี่เหลี่ยมดังภาพ ที่สามารถใช้งานได้คล้ายๆกับเมาส์ไว้เลื่อนเคอร์เซอร์และคลิกได้ นอกจากนี้ยังมีปุ่มซอฟท์คีย์รูปวินโดวส์สำหรับกด start menu หรือปุ่ม home สำหรับเรียกหน้า home ของเครื่องขึ้นมา และมีปุ่มรูปคนแขวนคอ ไว้สำหรับเรียก Task Manager ขึ้นมาครับ

ส่วนพอร์ตอีกด้านหนึ่งนั้นเราก็จะเห็นกับช่องสำหรับหูฟัง ปุ่มโวลุ่ม ที่กดแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันกดยากและคลอนๆได้บ้างเล็กน้อย และพอร์ต USB เหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป ผมทดลองเสียบ External Harddrive ใช้งานดูแล้ว ก็พบว่าใช้งานได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ

.

แถมอีกนิดตรงนี้มี Cardreader ขนาดฟูลไซส์แบบ SD/MMC ให้ใช้งานกันได้อีกด้วย

ด้านใต้เครื่องจะเป็นจุดสำหรับสลอตซิมการ์ด ที่ผมคิดว่าฝาปิดอาจจะดูบอบบางไปเสียหน่อย ส่วนช่องกลมๆอันเล็กๆนั้นไว้สำหรับเสียบไฟ DC สำหรับชาร์จแบตเตอร์รี่ และพอร์ตอันยาวๆนั้นไว้สำหรับเสียบเข้ากับชุด docking ครับ

น้ำหนักตัวเปล่าชั่งได้ 872 กรัม

และเมื่อรวมสาย Adaptor แล้วก็จะอยู่ที่ 1.03 กิโลกรัม

Performance

- รายละเอียดเครื่อง

ดูรายละเอียดของเจ้า Z-01 นี้ก็จะพบว่ามันแทบไม่ต่างอะไรจาก APU E series ซึ่ง Z-01 นี้จะจัดอยู่ในเทคโนโลยีของ AMD HD internet โปรเซสเซอร์ตัวนี้ของ AMD จะรองรับการใช้งานขั้นพื้นฐาน วีดีโอระดับ Full HD และการบราวซ์เว็บไซต์แบบ HD ซึ่งรวมไปถึงคอนเทนท์ทั้งทางฝั่ง flash และ HTML5 ในขณะที่ยังคงความบางเบาและความประหยัดพลังงานในแพลตฟอร์ม

Super PI 1M

จัด Super PI1m ก็ไปถึงนาทีกว่าๆ เรียกได้ว่าความเร็วนี้ไม่ได้หนีไปจาก Atom มากนักครับถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์พอรับได้สำหรับเครื่องระดับนี้

Cinebench R10

Ciebench R11.5

ผลทดสอบ Cinebench ออกมายังเหมือนจะบอกกับเรานัยๆว่า “ฉันก็พอที่จะรับมือมันได้นะ” แต่ก็เรียกได้ว่าทำได้ดีสมตัวไม่ได้แรงหวือหวาอะไรครับ

AIDA64 Benchmark

CACHE & MEMORY BENCHMARK

DISK BENCHMARK

อัตตราการเขียนและอ่านของฮาร์ดไดร์ฟแบบ Solid ขนาด 32gb ก็ถือว่าเร็วกว่าฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนอยู่ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

Batterry Eater (100-5%) ทดสอบในโหมดประหยัดพลังงาน

…การทดสอบ ล็อคความเร็วซีพียูในโหมดประหยัดพลังงานให้ได้ความเร็วต่ำที่สุด 50% และ ทดสอบด้วยโปรแกรม Batterry Eater ในโหมด Classic ซึ่งซีพียูและกราฟฟิคจะทำงานเต็ม 100% เวลาที่ได้ สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลาที่สามารถนำเครื่องออกไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ ค่อนข้างใกล้เคียง

http://vmodtech.com/main/wp-content/uploads/northbridge/msiwindpad110w/b/10_12_2011_1/Report.html

174 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 54 นาที กับการทำงานแบบฟูลโหลด ซึ่งผมเชื่อว่าในการใช้งานจริงๆ น่าจะทำได้นานกว่านี้ระดับหนึ่งครับ

PCmark 7 (Performance mode)

3Dmark06

.

.

… เรียกได้ว่าเรามาเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับโลกของ Tablet ในปัจจุบัน ที่ส่วนใหญ่เราจะพบว่ามันเป็น Android และซีพียูจากทางฝั่งของ ARM แต่ใน Windpad 110W เราจะพบว่ามันใช้ซีพียูจากทางฝั่ง X86 ที่เราคุ้นเคยอย่าง AMD Z-01 ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการรับชม HD Content ต่างๆเหนือกว่าทางฝั่ง Intel อยู่แล้ว ซึ่่งนั้นก็ทำให้มันสามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการที่เราคุ้นเคยกันอย่าง Windows ได้ ซึ่งแน่นอนว่าประโยชน์ของการใช้วินโดวส์ในอุปกรณ์แบบนี้นั้นทำให้มันมีความสามารถในเชิง Productivity ได้ดีกว่าการใช้ Android โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับนักธุรกิจ การเปิดใช้งาน Excel , Word หรือ งานพรีเซนเทชั่นต่างๆ การใช้วินโดวส์ทำงานน่าจะให้ความคล่องตัวได้ดีกว่าอยู่แล้วแน่นอนครับ ทั้งนี้หากราคาเปิดตัวออกมาไม่แรงมากจนเกินไป ผมคิดว่า Windpad 110W นั้นก็น่าจะเป็น Tablet ตัวหนึ่งที่แปลกแหวกแนว และนำมาใช้ประโยชน์ได้ดีเลยทีเดียว

.

.

ขอขอบคุณ MSI Thailand