Review : Toshiba Portege R930
Share | Tweet |
Review : Toshiba Portege R930
…สำหรับโน๊ตบุ๊กโตชิบาส่วนใหญ่ในตลาดที่ผู้ใช้ทั่วๆไปคุ้นเคยกัน คงจะหนีไม่พ้นตระกูล “Satellite” ซึ่งโตชิบานิยามให้เป็นโน๊ตบุ๊กที่มีความสามารถรอบด้าน แต่สำหรับ “Portege” ในรีวิวของเราวันนี้นั้น จะเป็นโน๊ตบุ๊กที่เน้นความ บาง และ เบา ตลอดจนสมรรถนะที่โดดเด่นในด้านการใช้งานเชิงธุรกิจ ไม่ได้เน้นการใช้งานสนองความบันเทิงมากนัก R930 มีน้ำหนักเพียงแค่ 1.5 กิโลกรัม และมาพร้อมกับซีพียู Intel Core i7 เสียด้วย นอกจากนี้ยังมีไดร์ฟดีวีดีมาให้อีก ลองมาชมกันครับ
Processor | Intel Core i7 3520M 2.9Ghz 6MB L3 cache |
Chipset | Intel QM77 |
Memory | 4GB DDR3-1600MHz |
Graphics Adapter | Intel HD4000 |
Display | 13.3″ 1366*768px |
Harddisk | 640GB 5400RPM |
Optical Drive | DVD-RW |
Network | Intel Centrino 6235 |
Connection Port | USB2.0, USB3.0, HDMI,SD/MMC Cardreader, ExpressCard (PCMCIA) |
Battery | UNKNOWN |
Weight | 1.5Kg |
OS Bundled | Windows 7 Professional |
…รายละเอียดของเครื่องส่วนใหญ่ก็มาแบบจัดเต็มตามที่เครื่องระดับนี้ควรจะมี ทั้งการ์ดไวเรส Dual-Band ที่ใช้ Wireless N ได้ทั้งย่าน 2.4 และ 5Ghz ตลอดจนซีพียูระดับท๊อปอย่าง Core i7 ที่มีความเร็วฐานตั้งมาแรงถึง 2.9GHz ส่วนสมรรถนะจะเป้นยังไง เราจะมาดูกันในส่วนหลังครับ แต่เบื้องต้นเรามีดูรอบๆตัวเครื่องกันก่อน
..
…ดีไซน์โดยรวมนั้นส่วนหนึ่งถูกทำมาให้มีลักษณะขรึมๆ แต่ก็ไม่ถึกบึกบึนเหมือน Thinkpad หรอกครับ โดยภาพรวมแล้วเหมือนตัวบอดี้จะทำมาเพื่อเน้นการพกพา น้ำหนักเบา และจับถือได้ถนัดมือ
ตัวเครื่องหากมองกันจริงๆจะพบว่ามันไม่ได้บางมากนัก แต่ก็ถือว่าบางกว่าโน๊ตบุ๊กจอ 13-14 นิ้วทั่วไปอยู่พอสมควร และที่สำคัญ เครื่องประมาณนี้ แต่น้ำหนักมันเบามากเลยทีเดียว เพียง 1.5 โลเท่านั้นครับ
รอยต่อ ผิวสัมผัสต่างๆของตัวเครื่อง นับว่าทำมาได้ดีพอสมควร ผิวสัมผัสจะออกแนวเรียบๆเนียนๆ แต่ก็ไม่ได้มันวาวจนทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย ส่วนรอยต่อหลายๆส่วนทำออกมาได้แนบเนียนดี ตัวจอสามารถยกขึ้นมาได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวโดยที่ตัวเครื่องจะไม่กระดกตามขึ้นมา ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวเลยทีเดียว
…คีย์บอร์ด นั้นจะมีลักษณะบางๆแบนๆ กดแล้วจะให้ความรู้สึกว่าจังหวะการกดค่อนข้างสั้น ใครที่ไม่คุ้นมือจะพบกับอาการกดไม่ติด เพราะว่ากดคีย์ลงไปไม่แน่นพอก็มีบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับน่ารำคาญมากนัก โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าคีย์บอร์ดน่ะ วางเลย์เอาท์มาได้ดีแล้ว คือพิมพ์สัมผัส ใช้งานได้ง่ายไม่ต้องปรับตัวอะไร ตลอดจนปุ่ม PGup PGdown Home ด้านขวามือก็วางมาให้ใช้งานได้ง่ายไม่อัดจนเกินไป แต่เรื่องจังหวะการกดปุ่มผมว่ามันยังตื้นไปหน่อยครับ
…ทัช แพดมีความเป็นลิเนียร์ดีพอสมควร ไม่วืดวาด และให้ความแม่นยำในระดับที่ดี ปุ่มกดเป็นลักษณะแยกกันสองปุ่ม ใช้งานได้ง่าย ตลอดจนมี fingerprint reader มาให้ด้วยสำหรับเครื่องระดับนี้ นอกจากนี้ทัชแพดยังมีปุ่ม เปิด ปิด มาให้อีกด้วย หากสังเกตดีดีจะพบว่า โลโก Core i7 จะห้อยคำว่า vPro ซึ่งแสดงให้เห็นถึงว่าเครื่องนี้รองรับเทคโนโลยี Intel vPro สำหรับการจัดการเครื่องผ่านเครือข่ายในองค์กรได้อีกด้วย
.
มาดูที่รายละเอียดในหลายๆจุด อย่างตรงนี้เป็นส่วนที่ผมชอบมาก คือสลอตอ่านการ์ด SD ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย
ด้านข้างขวานี้จะมีการติดตั้งไดร์ฟ DVD มาให้ ตลอดจนแจ๊กหูฟังและไมโครโฟน USB3.0 และพอร์ตแลน
พอร์ตอีกด้านหนึ่งจะพบว่ามี USB3.0 มาให้พอร์ตหนึ่ง และ eSATAที่เป็นพอร์ตคอมโบกับ USB 2.0 ตลอดจน HDMI, DSUB
…ปุ่ม Eco mode สำหรับใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน ที่ทำงานร่วมกับ Toshiba Eco Utility
ตัว Eco-Utility นั้นก็เหมือนๆกับโตชิบารุ่นก่อนๆหน้านี้ที่ผมเคยรีวิวไป (เฉพาะในรุ่นแพงๆหน่อยนะครับ) คือจะมีการพลอตกราฟการใช้พลังงาน และสามารถสั่งเปิดปิดการทำงานของ eco-mode ได้
ส่วนลูกเล่นอย่างอื่นที่น่าสนใจอีกอันหนึ่งก็คือ HDD Protection ที่ระบบจะใช้เซ็นเซอร์ไจโรสโคป ในการจับการเคลื่อนไหวและแรงสั่นสะเทือน หากพบว่าอาจจะไม่ปลอดภัยต่อฮาร์ดดิสก์ มันก็จะสั่งให้เก็บหัวอ่านเข้าไปในตำแหน่งปลอดภัยโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ผมชอบมาก ฟีเจอร์พวกนี้ส่วนใหญ่มักจะมีมาในโน๊ตบุ๊กเกรดธุรกิจแบบนี้แหละครับ จำพวก Thinkpad หรือ Dell lattitude และสำหรับ Toshiba ก็คงต้องเป็น Portege R series แบบนี้นั้นเองครับ
ด้านใต้เครื่องสังเกตดีดีจะพบว่ารองรับการใช้งานร่วมกับ Docking สำหรับเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่ออีกด้วยครับ
ด้านใต้เครื่องจริงๆก็จะมีสลอต Express Card (มาตรฐานจาก PCMCIA) มาให้อีกด้วยครับ ครบเครื่องจริงๆ
แบตเตอร์รี่เห็นก้อนเล็กๆแบบนี้ แต่ความจุสะใจถึง 66Wh เลยทีเดียว
น้ำหนักเครื่องก็ราวๆ 1.5 กิโลกรัมตามกระดาษ ถือว่าเบามากเลยทีเดียว
ส่วนที่ชาร์จก็มีขนาดไม่ใหญ่ กินกระแสไม่เยอะนัก หนักรวมๆกันก็ 1.8 กิโลกรัมโดยประมาณ ผมใช้ทั้งชุดนี้ ใส่ soft case หลวมๆ เดินหิ้วไปหิ้วมาได้สบายๆทั้งวันครับ
Performance
- รายละเอียดเครื่อง
รายละเอียดดูกันให้ชัดเจนสำหรับซีพียู Core i7 ใน R930 ที่เป็นแบบดูอัลคอร์ แต่มี L3 cache ถึง 4MB !! และความเร็วทำงานที่ 2.9GHz ถือว่าเรี็วมากเลยทีเดียวสำหรับเครื่องบางๆขนาดนี้ครับ
Super PI 1M
เรามาดู Super PI 1M ก็พบว่าตอกเวลาไปที่ 10.9 วินาที ถือว่าเร็วมากเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊กระดับกลางๆหลายๆรุ่น
Cinebench R10
คะแนน CPU ในเวอร์ชั่น 10 ทำได้ทะลุหมื่นแต้ม ถือว่าแรงเลยทีเดียวครับ
Ciebench R11.5
คะแนนผลทดสอบ Cinebench ถือว่าทำได้น่าประทับใจเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะ Open GL test อาจจะดูด้อยๆไปบ้างด้วยการ์ดจอออนชิป แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรครับ
AIDA64 Benchmark
CACHE & MEMORY BENCHMARK
DISK BENCHMARK
ความเร็วฮาร์ดดิสก์อยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้งานได้ครับ Access time ก็อยู่ในเกณฑ์ดีคือระดับสัก 16-17 ms นี่แหละครับสำหรับฮาร์ดดิส 5400RPM แบบนี้
Batterry Eater (100-5%) ทดสอบในโหมดประหยัดพลังงาน
…การทดสอบ ล็อคความเร็วซีพียูในโหมดประหยัดพลังงานให้ได้ความเร็วต่ำที่สุด 50% และ ทดสอบด้วยโปรแกรม Batterry Eater ในโหมด Classic ซึ่งซีพียูและกราฟฟิคจะทำงานเต็ม 100% เวลาที่ได้ สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลาที่สามารถนำเครื่องออกไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ ค่อนข้างใกล้เคียง
http://vmodtech.com/main/wp-content/uploads/northbridge/toshibar900/b/30_9_2012_1/Report.html
255 นาที หรือ 4 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งถือว่าทำได้เยี่ยมยอดมากๆสำหรับซีพียูที่มีพลังสูงมากขนาดนี้ครับ ซึ่งเครื่องนี้ผมเคยทดลองเอาไปใช้งนอกสถานที่อยู่ครั้งหนึ่ง 3 ชั่วโมง เปิดเล่นเน็ทพิมพ์งานไปเรื่อยๆ ก็พบว่าแบตลดลงไปเพียงแค่ 50% เท่านั้น !!!
PCMark 05
คะแนน PCMark ก็ถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียวถึงคะแนนกราฟฟิคและฮาร์ดดิสจะไม่สูงมากนักเหมือนพวกอัลตราบุค แต่คะแนนเมมโมรีกับซีพียูนั้นพุ่งกระฉูดเลยทีเดียว
ส่วน PCMark 7 ก็ถือว่าค่อนข้างสูงกว่าโน๊ตบุ๊กในตลาดทั่วๆไปอยู่ระดับหนึ่ง
3Dmark06
คะแนนของ 3Dmark ก็เรียกได้ว่าพอถูไถใช้งานได้ครับ เรียกได้ว่ากำลังส่วนใหญ่มาจาฏซีพียู i7 เสียทั้งนั้นเลย
.
….สมรรถนะ ส่วนใหญ่เท่าที่ทดสอบออกมา อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมากเลยทีเดียว ซึ่งจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลมาจากซีพียู Core i7 นั้นเองครับ แต่ทางด้านการเล่นเกมก็อาจจะทำคะแนนมาได้อยู่แค่ในเกณฑ์กลางๆเท่านั้น เพราะเครื่องไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานในส่วนนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คงจะเป็นในการทดสอบแบตเตอร์รี่เราทำได้ที่ 4 ชั่วโมง แต่การใช้งานจริงๆจากการที่ผมได้ลองเอาออกไปใช้จริงแทนเครื่องหลักของผมอยู่ 1 วันก็พบว่าน่าจะอยู่ได้ราว 5-6 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ ซึ่งถือว่านานมาก ผมคิดว่าเอาจริงๆมันอาจจะใช้งานได้นานกว่า Ultrabook บางรุ่นเสียด้วยซ้ำ
… เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊กที่ทำมาเพื่อเน้นเอาใจนักธุรกิจ ดีไซน์ที่ออกมาก็ยังเหมือนๆกับ Portege R series ในรุ่นก่อนๆที่เราได้เคยรีวิวไปอย่าง R700 ตลอดจนฟีเจอร์ต่างๆก็ไม่ได้มีเปลี่ยนอะไรไปมากนัก นอกจากฟีเจอร์ที่เพิ่มาโดยตัวแพลตฟอร์มใหม่อย่าง Intel Anti-Thieft ก็เท่านั้นครับ คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊กที่มีซีพียูพลังสูงๆ ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ตลอดจนยังสามารถพกพาได้สะดวก แบตเตอร์รี่อึดๆทนๆ และขนาดจอก็ไม่ได้เล็กจนเกินไป อย่างที่เคยกล่าวไปหลายครั้งแล้วว่า โน๊ตบุ๊ก 14 นิ้วจะเหมาะสำหรับคนที่ทำงานนั่งโต๊ะเป็นส่วนใหญ่ ส่วน 12 นิ้วลงมา จะเหมาะสำหรับคนที่ไมได้ใช้เครื่องเป็นเวลานานๆ พกบ่อยๆ ส่วน 13 นิ้วนี่จะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างคนทั้งสองจำพวกนี้แหละครับ ซึ่ง R930 ก็เป็นโน๊ตบุ๊ก 13 นิ้วที่ทำมาได้ลงตัวมากๆเครื่องหนึ่งครับ
.
.
ขอขอบคุณ TOSHIBA