หน้า: [1] 2 3   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาดู Steve job แถ เอ้ย แถลง เรื่องปัญหาสัญญาณที่ลดลง ในงาน ApplePressConference  (อ่าน 12395 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ThePing
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 213



อีเมล์
« เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 00:01:18 »



คืนนี้ Apple จะมี Press Conference ที่ Cupertino ครับ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาเสาสัญญาณของ iPhone 4  ซึ่งทางเว็บไซต์ใหญ่ๆ อย่าง Gizmodo หรือ Engadget ก็จะมีการรายงานสดให้ผู้ชมทางบ้านได้ติดตามกันว่าเขามีการชี้แจงอะไรบ้าง และผมก็จะได้นำมาเล่าสู่กันอ่านแบบสดๆ ชนิดเป็นเกือบๆ Live Blog เหมือนกับทาง Engadget เขาเลยทีเดียวครับ

ติดตามอ่านกันได้ที่นี่เลยครับณ เวลา 09:32 น. ที่อเมริกา แม้ว่า Apple จะประกาศแถลงการณ์ด่วนชนิดมีเวลาให้ผู้สื่้อข่าวต่างๆ เตรียมตัวล่วงหน้าได้เพียงแค่ 1 วัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีจำนวนนักข่าวไปเยอะมากทีเดียว



ณ ตอนนี้ทุกคนต่างยืนออกันเพื่อรอเวลาเข้าไปร่วมงาน Apple Press Conference กันครับ

[09:54] บรรดานักข่าวทั้งหลาย สามารถเข้าไปภายในสถานที่จัดงานได้แล้ว ใกล้ได้เวลาเริ่มต้นแล้วครับ

ทีมงานของ Gizmodo ได้เอ่ยถึงประเด็นที่น่าสนใจว่า iPhone นี่ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาแรงมาก เพราะภายในระยะเวลา 3 ปีที่มีวางจำหน่ายตั้งแต่ iPhone รุ่นแรก จนถึง iPhone 4 นี่ นับได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็น Flagship ของ Apple ไปแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จึงต้องเร่งดำเนินการ และมีการจัดงานชี้แจงแบบนี้

[09:59] บรรยากาศใน Conference ก่อนงานเริ่ม



[10:04] มีการเล่นเพลง “iPhone 4 antenna song” ด้วย



ผมเอามาแชร์ให้ได้ดูกันครับ iPhone Antenna Song ที่ Steve Jobs ไปเจอเข้าบน YouTube แล้วก็เลยเอามาเป็นวิดีโอเปิดตัวซะเลย

Song A Day #561: The iPhone Antenna SongDQ | by Aeva


[10:06] Steve Jobs ออกมาแล้วครับ เขาบอกว่า เจอเจ้าคลิป iPhone Antenna Song นี่บน YouTube รู้สึกชอบเลยอยากจะแชร์ และเขาพร้อมที่จะตอบคำถามทุกคำถาม แต่ขอเวลา 15 นาทีในการนำเสนอก่อน



[10:07] Steve Jobs กล่าวว่า พวกเรา (Apple) ไม่ได้สมบูรณ์แบบ และโทรศัพท์เองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่พวกเราต้องการให้ผู้ใช้งาน(ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ Apple ไป) นั้นมีความสุข



[10:08] ใน 3 สัปดาห์นับแต่เริ่มจำหน่าย Apple จำหน่าย iPhone 4 ได้แล้ว 3 ล้านเครื่อง และถูกจัดให้เป็นสมาร์ทโฟนอันดับ 1 โดยนิตยสารต่างๆ … นอกจากนี้ ยังได้คะแนนความพึงพอใจสูงสุด มากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆ และสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่มีในท้องตลาด



[10:09] Steve Jobs กล่าวว่าปัญหาเรื่องเสาสัญญาณนี้ ได้รับรายงานมาจาก Gizmodo โดยเป็นคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าสัญญาณลดทอนลงไป เมื่อมีการไปสัมผัสที่ตรงมุมของ iPhone 4 เป็นปัญหาที่เรียกว่า Antennagate



เป็นเวลา 22 วันที่ทาง Apple ในฐานะบริษัทด้านวิศวกรรม ได้พยายามค้นหาว่าปัญหาที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ และตอนนี้ก็จะได้แชร์ข้อมูลที่ทราบให้กับบรรดานักข่าวกัน

[10:10] “มันไม่ดีแน่ หากเพียงแค่จับตัวเครื่องโทรศัพท์แล้วสัญญาณก็ตกหายไป แต่พวกเราก็พบว่า ไม่ใช่แค่ iPhone 4 เท่านั้นที่มีปัญหา แบรนด์อย่าง Nokia, Motorola และยี่ห้ออื่นๆ ก็พบกับปัญหานี้เช่นกัน … และเราก็ไม่เชื่อในวิดีโอคลิปบน YouTube อีกด้วย เราจึงทดสอบด้วยตนเองแล้วก็พบว่า…”

[10:06] Steve Jobs ออกมาแล้วครับ เขาบอกว่า เจอเจ้าคลิป iPhone Antenna Song นี่บน YouTube รู้สึกชอบเลยอยากจะแชร์ และเขาพร้อมที่จะตอบคำถามทุกคำถาม แต่ขอเวลา 15 นาทีในการนำเสนอก่อน



[10:11] Steve Jobs เริ่มนำสไลด์แสดงผลการทดสอบปัญหา Antennagate โดยเริ่มจาก BlackBerry Bold 9700 ซึ่งเวลาที่จับโทรศัพท์ในลักษณะปกติ ก็ยังเห็นว่าสัญญาณมี 5 ขีด แต่เมื่อจับตรงด้านซ้ายแล้วพบว่า เสาสัญญาณลดลงมาเหลือขีดเดียว



[10:14] Steve Jobs ได้แสดงภาพสไลด์การทดสอบวิธีเดียวกันกับ HTC Driod Eris และ Samsung Omnia II ก็พบว่าหากสัมผัสกับด้านซ้ายของตัวเครื่องแล้ว เสาสัญญาณจะลดลงอย่างมาก



เมื่อสรุปแล้วจะเห็นได้ว่า สมาร์ทโฟนต่างก็มีปัญหาเดียวกันนี้อยู่เช่นกัน และหากทดสอบกับรุ่นและยี่ห้อที่หลากหลายกว่านี้ ก็จะได้ผลแบบเดียวกัน

[10:16] เหมือน Steve Jobs จะประกาศอย่างเป็นทางการอัพครั้ง ใน Conference นี้ว่า ปัญหาเรื่องเสาสัญญาณ (ที่เขาเรียกว่า Antennagate) นั้นมาจากอัลกอริทึ่มในการคำนวณระดับสัญญาณ ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้วให้ iPhone 4 สามารถแสดงระดับสัญญาณได้ถูกต้องใน iOS4.0.1 (มีให้ดาวน์โหลดวันนี้) แต่อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานก็ยังคงสังเกตเห็นได้ถึงสัญญาณที่ลดลงอยู่ดี เพราะทาง Apple ยังหาทางเลี่ยงกฎแห่งฟิสิกส์ไม่ได้

[10:17] Steve Jobs เปิดเผยภาพห้องทดสอบที่ทาง Apple ได้ลงทุนไปร้อยล้านเหรียญ และใช้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรระดับปริญญาเอกถึง 18 คนในการทดสอบ



[10:18] “พวกเรา (Apple) ทราบดีว่าผู้ใช้งานยังคงเจอปัญหาสัญญาณลดหายไปอยู่หากคุณถือ iPhone 4 ในบางท่าทาง แต่นั่นคือความจริงว่า โทรศัพท์ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีหลายคนที่รายงานเข้ามาว่า ด้วยดีไซน์แบบนี้ ทำให้การรับสัญญาณดีขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนด้วยเช่นกัน”

[10:19] “และแม้ปัญหาจะดูยิ่งใหญ่มาก เป็นข่าวคราวใหญ่โต จนหลายๆ คนอาจนึกว่านี่คือปัญหาใหญ่ที่ต้องมีคนเป็นกันมากแน่ๆ แต่จากข้อมูลของ AppleCare กลับพบว่า จำนวนของผู้ใช้งานที่ร้องเรียนปัญหาดังกล่าว (ที่เกี่ยวกับเสาสัญญาณ) มีเพียง 0.55% เท่านั้น



[10:21] “จะเห็นได้เลยว่านี่ไม่ใช่ตัวเลขที่มากมายอะไร… ทีนี้เรามาดูสถิติอีกตัวนั่นคือ อัตราการส่งคืนกลับ (Return Rate) ซึ่ง AT&T ยินดีให้ผู้ใช้งานสามารถส่งโทรศัพท์มือถือคืนกลับมาได้โดยที่จะไม่มีการตั้ง คำถามใดๆ ทั้งสิ้น (ว่าทำไมถึงคืน) iPhone 3GS นั้นมีอัตราการคืนอยู่ที่ 6% แล้ว iPhone 4 ล่ะ? 1.7% เท่านั้นเอง



[10:23] ข้อมูลที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ AT&T ได้เก็บ log รายงานสัญญาณหลุดขาด และได้ส่งมอบให้กับทาง Apple แต่เสียดายที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลนี้ได้ เพราะเดี๋ยวคู่แข่งจะรู้หมด

[10:24] แต่ข้อมูลที่เปิดเผยได้คือ ความแตกต่างในจำนวนปัญหาสายหลุดที่เกิดขึ้นใน 100 ครั้งของการโทร ซึ่งพบว่า iPhone 4 นั้นมีจำนวนสายหลุดต่อ 100 ครั้งมากกว่า iPhone 3GS แต่ก็มากกว่าแค่เพียง 1 ครั้งในทุกๆ การโทร 100 ครั้งเท่านั้น



[10:25] แต่ในระดับที่น้อยกว่า 1 ครั้งในทุกๆ การโทร 100 ครั้งก็ยังถือว่ามาเกินไปสำหรับพวกเรา พวกเราจึงพยายามคิดให้ออกว่า ปัญหานั้นเกิดมาจากอะไรกันแน่ และผม (Steve Jobs) มีทฤษฎีอยู่ทฤษฎีหนึ่ง แต่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ในทฤษฎีนี้ แต่ผมก็จะเล่าให้ฟัง

[10:26] ตอนที่เราออก iPhone 3GS ใหม่ๆ นั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์อะไรใหม่จาก iPhone 3G เลยทำให้เรามีเคสอยู่ในสต๊อกเยอะมาก ใครที่ซื้อ iPhone 3GS ไปก็จะซื้อเคสติดตัวไปด้วย แต่ iPhone 4 นั้น เนื่องจากเป็นดีไซน์ใหม่ ทำให้ใส่เคสแบบเดิมไม่ได้ เลยต้องมีการผลิต Bumper ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็เลยมีเพียง 20% ของลูกค้าที่มาซื้อ iPhone 4 เท่านั้นที่ได้เคสไปใช้

[10:28] เป็นการยากที่จะหลีกหนีจากข้อสรุปว่า iPhone 4 มีปัญหา แต่เป็นเพียงปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานเพียบกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ผม (Steve Jobs) ได้รับอีเมล์มาบอกว่า iPhone 4 ใช้ได้ดีมาก และไม่เข้าใจเลยว่าเรื่องทั้งหมดนี่มันยังไงกันแน่

[10:29] เราคิดว่าเราต้องแตกประเด็นนี้ออกเป็นประเด็นย่อยๆ เราอยากให้ผู้ใช้งานมีความสุข โดยประการแรก เราได้ออกอัพเดต iOS4.0.1 ในวันนี้เพื่อแก้ปัญหาการแสดงผลขีดสัญญาณที่ไม่ถูกต้อง… ประการที่สอง เมื่อมีคนบอกว่า พอใส่ Bumper แล้วมันแก้ปัญหาได้ งั้นเราก็จะแจก Bumper ให้ใช้กันฟรีๆ เลย

แน่นอนว่าหากใครซื้อไปแล้ว เราก็จะยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน



[10:30] แต่แน่นอนว่าเราคงผลิต Bumper ไม่ทันตามความต้องการแน่ ดังนั้นเราก็จะ Outsource เคสจากผู้ผลิตรายอื่นมาให้เป็นทางเลือกแก่ผู้ซื้อ iPhone 4 ด้วย

[10:31] และหากใครยังไม่ Happy อีก ทาง Apple ก็ยินดีที่จะรับคืน iPhone 4 โดยจะคืนเงินให้เต็มจำนวนทันที



[@kafaak] ตามรายงานจนถึงตอนนี้ อยากบอกว่า หากไม่ Happy แล้ว เอามาขายในเมืองไทยสิ ได้ราคาดีกว่า Refund อีก เหอๆ

[10:32] ส่วนปัญหาเรื่อง Proximity sensor นั้น ทาง Apple กำลังเร่งดำเนินการหาสาเหตุและวิธีการแก้ไขอยู่ ส่วน iPhone 4 สีขาว จะมีวางจำหน่ายสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ และในวันที่ 30 กรกฎาคม ก็จะเปิดวางจำหน่าย iPhone 4 ในอีก 17 ประเทศ (จากเดิม 18 ประเทศ โดยเว้นเกาหลีใต้ไป)



[10:35] สุดท้ายขอย้ำว่า Apple รักผู้ใช้งานทุกคน โดยพยายามสร้างเซอร์ไพรส์และความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้ใช้งาน ผ่านทางผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่างเครื่อง Mac, iPod, iPhone,  iPad, Apple TV, App store และพยายามเชื่อมต่อผู้ใช้งานเข้ากับ App แจ่มๆ Content ดีๆ และสุดท้ายผู้ใช้งานก็จะให้รางวัลตอบแทนกับ Apple ด้วยการเป็นผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Apple ต่อไป

[10:37] หัวใจของปัญหาในครั้งนี้ก็คือ สมาร์ทโฟนนั้นต่างก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น พวกเราทำให้ปัญหานั้นเห็นได้ชัดเจนขึ้นโดยการทำให้ผู้ใช้งานเห็นได้ชัดว่า ไปจับโทรศัพท์ตรงไหนยังไง ถึงจะไปปิดบังเสาสัญญาณ



การพัฒนาเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือให้ปราศจากจุดอ่อนถือว่าเป็นความท้าทาย ของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว ดังนั้นในตอนนี้เราจึงเลือกที่จะดูแลลูกค้าของเราเป็นอย่างดีก่อน

[10:38] ถึงเวลาถามตอบ (Q&A) โดย Tim Cook และ Bob Mansfield มาร่วมแจมกับ Steve Jobs



[10:40] คำถาม: “ทาง Apple จะทำอะไรเพื่อแก้ปัญหานี้ไหม? อาจจะเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่?”

Steve Jobs: “iPhone 3GS ก็มีปัญหานี้เหมือนกัน และเราได้รับรายงานว่า iPhone 4 มีปัญหาน้อยกว่า 3GS อีก ดังนั้นผมเลยไม่รู้ว่าการเปลี่ยนเสาสัญญาณใหม่จะช่วยแก้ปัญหาหรือไม่ ผมไม่รู้ว่าดีไซน์เสาสัญญาณใหม่ของเราจะเป็นยังไง”

[10:41] คำถาม:  ”ตอนนี้ผมไม่ยักกะทำให้ Bold ของผมสัญญาณหายได้เลย ช่วยสาธิตให้ผมดูหน่อยได้ไหม?”

Steve Jobs: “ปัญหานี้จะไม่เกิดกับบางพื้นที่”

[10:43] คำถาม: “คุณสาธิตให้คนอื่นๆ เขาดูว่า หากจับโทรศัพท์มือถือแบบใช้มือบังมิดเลยก็จะเจอปัญหานี้ แต่กับ iPhone 4 เพียงแค่แตะปัญหาก็เกิดได้แล้ว คุณพอจะอธิบายความแตกต่างได้ไหม?”

Bob: “ตอนที่คุณแตะโทรศัพท์ ก็เท่ากับคุณเอาตัวเองไปขวางระหว่างสัญญาณโทรศัพท์และตัวเครื่องโทรศัพท์  ที่นี้เวลาคุณไปแตะบางจุดเข้าให้ มันก็จะทำให้สัญญาณโทรศัพท์เกิดการสวิง และยิ่งหากคุณจับโทรศัพท์แบบเต็มๆ มือ ก็จะยิ่งทำให้เกิดการสวิงของสัญญาณมากกว่า

ตรงนี้ทีม Engadget เปรยๆ ว่า ฟังดูแล้วไม่ใช่คำตอบ … ผมก็คิดว่าอย่างนั้นเช่นกัน [@kafaak]

[10:44] คำถาม: “มีใครบอกคุณถึงปัญหาของดีไซน์นี้ก่อนที่โทรศัพท์จะวางจำหน่ายไหม?”

Steve Jobs: “คุณกำลังหมายถึงบทความบน Bloomberg? โม้กันเห็นๆ และพวกเราขอท้าให้แสดงหลักฐานพิสูจน์กันเลย เพราะหากมีใครซักคนบอกว่าเจ้านี่ (iPhone 4) มีปัญหา พวกเราคงจัดคนไปแก้ปัญหาเรียบร้อยไปแล้ว”

[10:46] คำถาม: “คุณจะขอโทษบรรดานักลงทุนหรือไม่?”

Steve Jobs: “รู้ไหม พวกเราได้ยินคำชมจากบรรดาลูกค้าที่รัก iPhone 4 และได้ประสบการณ์ดีๆ จากการใช้มัน และพวกเราก็ทำโน่นทำนี่มากมายเพื่อช่วยแก้ทุกปัญหาที่พวกเขาประสบ แต่สำหรับนักลงทุนนั้น พวกเขาลงทุนในบริษัทของเรา หากมูลค่าหุ้นจะตกลงไปซัก 5 เหรียญ ผมไม่คิดว่าผมติดค้างคำขอโทษใดๆ นะ”

[10:48] คำถาม: “คุณคิดไหมว่า คุณกำลังให้ผู้ใช้งานเลือกระหว่างรูปลักษณ์ กับการใช้งาน?”

Steve Jobs:  ”ไม่ใช่ล่ะ พวกเราพยายามทำให้ทั้งสองอย่างไปด้วยกัน เช่น ทำให้โทรศัพท์เล็กลงขนาดพอที่จะใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อได้ หรือหน้าจอ Retina Display ที่แจ่มเหมือนกับออกมาจากสื่อพิมพ์งามๆ แน่นอนว่ามันแพงกว่าอีกนิดหน่อย แต่พวกเราก็ทำให้มันใช้งานได้ ส่วน iPhone 4 นั้นเป็นแบบมีเสาสัญญาณอยู่ด้านนอก มีแบตเตอรี่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้น พวกเราพยายามที่จะดีไซน์ให้แหล่มและมีประสิทธิภาพสูงในเวลาเดียวกัน”

[10:52] คำถาม: “มีอะไรที่คุณคิดว่าจะพูดได้ในตอนที่นำเสนอ iPhone 4 คราวก่อน เพื่อลดความคาดหวังของผู้ใช้งานลงบ้าง?”

Steve Jobs: “ก็ไม่เชิง เราอาจจะบอกว่า ‘เฮ้ ถ้าคุณจับโทรศัพท์แบบนี้ คุณอาจเห็นว่าสัญญาณมือถือขาดหายไปนะ’ … พวกเราเป็นมนุษย์ พวกเรามีข้อผิดพลาด แต่พวกเราก็คิดหาทางออกได้เร็ว และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงมีกลุ่มลูกค้าที่ภักดีที่สุดและยอดเยี่ยมที่ สุดในโลก

[10:53] คำถาม:  ”ในวันที่ 30 กันยายน นั่นหมายความว่าคุณต้องการให้รู้ว่า หลังจากวันนั้นแล้วผู้ซื้อ iPhone 4 จะต้องซื้อเคสเอง?”
Steve Jobs: “ก็ไม่เชิง เราจะประเมินอีกครั้ง บางทีเราอาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาก็ได้”

[10:56] คำถาม: “แล้วจะมีการคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อเคสจาก 3rd party ไหม?”

คำตอบ: “จำนวนของเคสที่เป็นของ 3rd party นั้นน้อยมาก ดังนั้น คำตอบคือ ไม่”

คำถาม: “เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะตอนนี้มีเคสสำหรับ iPhone 4 ไม่มากนัก และยากที่จะหาเคสได้ในตอนนี้ หากผู้ซื้อเคสจาก 3rd party สามารถแสดงหลักฐานใบเสร็จได้ ทำไมไม่คืนเงินให้พวกเขาล่ะ?”

Steve Jobs: “ง่ายมาก หากพวกเราบอกผู้คนว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของพวกเราคืออะไร พวกเขาก็จะหยุดซื้อผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันของพวกเรา บางครั้งเว็บไซต์ก็รับซื้อของโจรไป และผู้ผลิตเคสเองก็มีประวัติมาแล้วว่ามีการโชว์ออฟเคสสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ ของเรา โดยไม่คำนึงถึงการช่วยเก็บความลับของผลิตภัณฑ์ของเราเลย”

[@kafaak] ตรงนี้เข้าใจว่าส่วนหนึ่ง พยายามกัด Gizmodo ไปด้วยในตัว… ท่าทาง Steve Jobs จะยังแค้นไม่หาย

[10:58] Steve Jobs โชว์ออฟ จับแบบ death grip แล้วแสดงให้เห็นเลยว่า สัญญาณมือถือไม่ขาดหาย



[11:08] คำถาม: “ได้มีการปรึกษากันเรื่องเรียกคืนโทรศัพท์ไหม?”

Steve Jobs: “พวกเราได้รับอีเมล์จากผู้คนทั่วโลกเกี่ยวกับปัญหานี้ พวกเราจริงจังกับเรื่องนี้มาก พวกเราพยายามที่จะคิดหาทางออก พวกเราออกไปถึงบ้านพวกเขาพร้อมอุปกรณ์ทดสอบ อยากจะเห็น log file และพยายามที่จะหาข้อมูลและคิดหาทางแก้ปัญหา”

Bob: “เผื่อให้รู้ไว้ว่า เราบอกพวกเขาก่อนว่าจะไปหา”

Steve Jobs: “และเราไม่ได้พังประตูเลยแม้แต่บานเดียว”

ตรงนี้เรียกเอาเสียงฮาได้มากทีเดียว… [@kafaak] กัด Gizmodo อีกแล้ว

[11:22] มีคำถามว่า Apple เคยออกอัพเดตมาเพื่อปรับปรุงสัญญาณครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน หรือ Apple กำลังจะบอกว่า บั๊กเมื่อสองปีก่อนนั้นกลับมาอีกแล้วในปัจจุบัน … ซึ่งตรงนี้ได้รับคำตอบว่า ปัญหาทั้งสองเรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกันเลย

[11:24] คำถาม: “คุณติดต่อกับลูกค้าผ่านทางอีเมล์ค่อนข้างเยอะ นั่นมีผลกระทบอะไรต่อการรับมือกับปัญหาบ้าง?”

Steve Jobs: “ผมติดต่อแบบนี้เป็นประจำ แล้วรู้ไหม อีเมล์แอดเดรสของผมก็เห็นกันอยู่ทนโท่ และผมก็ตอบเมล์กลับเสมอ ผมพยายามที่จะตอบกลับบางคนเพราะพวกเขาเป็นลูกค้าของเรา แต่เดี๋ยวนี้หลายคนเริ่มโพสต์อีเมล์เหล่านี้บนเว็บ และบางคนก็แต่งเรื่องขึ้นมา ดังนั้น อย่าเชื่อในสิ่งที่คุณเห็นไปเสียทั้งหมด!”

[11:25] คำถาม: “ที่แจกฟรี Bumper นั้น จะหายถึงนอกประเทศสหรัฐด้วยหรือไม่?”

คำตอบ: “ใช่”
คำถาม: “แล้วภายหลังวันที่ 30 ล่ะ?”
คำตอบ: “เราจะประเมินอีกที”

จากตรงนี้ก็เป็นการตัดบท และจบงาน Conference ครับ

** อัพเดต 17 ก.ค. 2553 02:40 **

Apple เพิ่งจะโพสต์วิดีโองาน Apple iPhone 4 Press Conference หมาดๆ เลยครับ ใครที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับคำอธิบายเรื่องปัญหาเสาสัญญาณของ Apple ก็มีเว็บไซต์ ที่อธิบายอย่างเป็นทางการแล้ว


เครดูด : http://appreview.in.th/2010/07/16/live-apple-iphone4-conference-16-july-2010/
บันทึกการเข้า

Cybernetic
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5829


LOVE YOU THAILAND


« ตอบ #1 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 08:22:58 »

เออ อย่างน้อยเค้าก็พูดจริงอยู่เรื่องนึงครับ ผมไม่รู้ว่ายี่ห้ออื่นเป็นเหมือนที่เค้าว่าหรือเปล่า แต่ sony ericsson P1i ผม (Symbian UIQ)  ผมลองเอามือกุมตำแหน่งที่ไว้เสาอากาศของมัน สัญญานมันลดลงจริงครับ พอเอามือออก มันก็กลับมาเต็มเหมือนเดิม แต่มันไม่ลดถึงขนาดเป็นขีดแดง หรือลดจนสัญญานหายไปเลย

แต่โชคดีนะครับที่โทรศัพท์ผม ตำแหน่งเสาอากาศเค้าวางไว้ด้านหลังบริเวณด้านบนของตัวเครื่อง มันเลยไม่เป็นอุปสรรคเท่าไหร่ เพราะไม่ได้จับกันบริเวณนั้นอยู่แล้ว

ทำไม iphone มันไม่วางตำแหน่งเสาอากาศไว้ที่อื่นมั่งอ่ะ
บันทึกการเข้า

นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด
นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชา
นักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา
นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรธรรม
นักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ
Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15962


I'm Stand Between Hell and Earth.


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 09:14:12 »

มาบุญครองเครื่องละ5-6หมื่น อิอิกำ
บันทึกการเข้า



It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
Chris
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6864


Join me and you'll see the power of the dark side


« ตอบ #3 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 09:59:46 »

 eyes...
บันทึกการเข้า
leim
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 10:14:06 »

ห้าหมื่นถึงหกหมื่นบาท.................................



ซื้อมีโอ (ไม่ใช่อาหารแมวนะครับ อันนั้นให้เนียนจังมันแดร๊กแทนถั่วงอกก็ดีครับ) ขับดีกว่าครับ   แทนที่จะโทรหากัน  แว๊นๆไปหากันเลยดีกว่าครับ อิอิกำ drunk
บันทึกการเข้า
dq-pb
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1713


บางครั้งความถูกต้องก็นำภัยมาสู่ตน


« ตอบ #5 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 14:19:59 »

มาบุญครองเครื่องละ5-6หมื่น อิอิกำ

ป๋าซื้อเลยครับนิสิตแถวนั้นชอบ อิอิ
บันทึกการเข้า

รับfitting3/8จ้า
Cybernetic
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5829


LOVE YOU THAILAND


« ตอบ #6 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 14:38:25 »

แพงขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผมเอาไปประกอบคอมมหาเทพได้ตัวนึงเลยอ่ะ tuxout
บันทึกการเข้า

นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด
นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชา
นักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา
นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรธรรม
นักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ
kim
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3463



อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 16:49:05 »

ข้อเท็จจริง
IPHONE 4 ใช้ขอบเครื่องเป็นเสาอากาศ เมื่อเอามือไปจับทำให้ความต้านทานของเสาอากาศเปลี่ยนแปลงไป (แค่แตะ) ทำให้สัญญาณเกิดการลดทอนทันที
Smartphone เสาอากาศซ่อนอยู่ไม่มีการสัมผัสโดยตรง แต่ถ้านำร่างกายไปบังตรงจุดที่ส่งสัญญาณ และบังในทิศทางที่โทรศัพท์ติดต่อกับ Cell Site จะทำให้เกิดการลดทอนเช่นกัน
ข้อแตกต่างคือ ปัญหาของ IPhone 4 เกิดในลักษณะการใช้งานปกติ แต่ปัญหาของ smartphone อื่นจะเกิดเมื่อใช้งานไม่ใช่แบบปกติ

Apple มันมั่วครับ ขี้แพ้ชวนตี ภาพใครๆก็ตัดต่อได้ โดยเฉพาะที่ไปหาเรื่องมั่งกับมือถือค่ายอื่นๆ
ไม่มีข้อมูลเป็นตัวเลยการวัดทางวิทยาศาสตร์จากคนทดสอบที่เป็นกลาง
ถือว่าตามที่แถลงนั้นไม่น่าเชื่อถือได้เลย

Apple นิสัยการตลาดถือว่าแย่มาก ไม่มีความรับผิดชอบจรรยาบรรณ ดีแต่ใส่ร้าย ปั้นข่าวเท็จ ว่าค่ายอื่นได้อย่างหน้าตาเฉยเลย ขนาดนักข่าวยังอึ่งกินในความแถของมันเลย

เคสยาง ทุน 1$ ขายซะ 29$ ใครซื้อก็โง่แล้ว ถือว่าเป็นคนไม่รู้จักค่าของเงิน หาเงินและใช้เงินไม่เป็น
บันทึกการเข้า
Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15962


I'm Stand Between Hell and Earth.


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 19:57:46 »

รุ่น16GB มัน50000กว่า รุ่น32GB 63000ครับ แปลงเรียบร้อย อิอิกำ
บันทึกการเข้า



It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
สบาย-สบาย
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1225



« ตอบ #9 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 20:21:52 »

iPhone 4 นี่ถึงกับทำเอา พี่จ๊อบส์ เจ้าชายแห่งเทคโนโลยี แกตอบแบบไม่มั่นใจไปเหมือนกันนะเนี่ย

แกน่าจะแก้ที่ผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาของแกเองมากว่า ไม่น่าจะมาบอกว่าของแบรนด์อื่นก็เป็นแบบนี้

อย่างนี้เท่ากับว่าแกยอมรับเองว่าผลิตภัณฑ์ของแกเองก็ไม่ได้เหนือกว่าแบรนด์อื่นเท่าไร

แถมนักข่าวก็ดันถามไม่ตรงคำตอบของแกอีก แย่เลยแบบนี้

แต่ยังไงกระแสความแรง คงไม่ลดลงแน่ๆ เพราะรู้สึกว่าใครๆก็อยากจะได้ซะเหลือเกิน
บันทึกการเข้า

Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15962


I'm Stand Between Hell and Earth.


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 20:28:41 »

ของแพงใช่ว่าจะดีเสมอไปครับ โรเล็กซ์ยังเดินไม่ค่อยตรงเวลาเลยครับ

TAG ผมใส่ไปๆเร็วขึ้นมาเองอีก 5นาที เง้อออ เปลี่ยนไปใส่ Casio ดีกว่า อิอิกำ
บันทึกการเข้า



It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
Cybernetic
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5829


LOVE YOU THAILAND


« ตอบ #11 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 20:34:20 »

ของแพงใช่ว่าจะดีเสมอไปครับ โรเล็กซ์ยังเดินไม่ค่อยตรงเวลาเลยครับ

TAG ผมใส่ไปๆเร็วขึ้นมาเองอีก 5นาที เง้อออ เปลี่ยนไปใส่ Casio ดีกว่า อิอิกำ
จริง ๆ เป็นธรรมดาของนาฬิกาออโตครับที่มันต้องเดินช้าหรือเร็วขึ้นไม่มากก็น้อยครับ แท็กผมก็เป็นครับ พอครบอาทิตย์ก็ต้องมาปรับกันนิดหน่อย ส่วนโรเล็กซ์ผมว่าเครื่องมันเยี่ยมนะครับ เรือนที่ผมใส่อยู่อาทิตย์นึงเคลื่อนไม่เกิน 30 วินาที

ท่านน่อมที่ว่าใส่ ๆ ไปเร็๋วไป 5 นาทีนี่ ทิ้งไว้กี่วันครับ ถ้าอาทิตย์นึงเคลื่อน 5 นาทีนี่ ผมว่าต้องส่งศูนย์แล้วล้างเครื่องปรับจูนกันใหม่ครับ
บันทึกการเข้า

นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด
นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชา
นักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา
นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรธรรม
นักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ
Cybernetic
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5829


LOVE YOU THAILAND


« ตอบ #12 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 20:46:46 »

ผมไม่เคยอยากได้เลยนะครับไอ้เจ้าไอโฟนเนี่ย สงสัยดวงมันไม่โดนกับตระกูลแมคเท่าไหร่ drunk

สงสัยจะต้องใช้แต่โซนี่อีริคสันซะแล้วชีวิตนี้ out

ถ้าผมเป็นสตีฟ ผมจะยอมรับเลยว่าโอเคแหละตรงนี้เราผิดพลาดเอง จะดำเนินการแก้ไข เรียกคืนกลับมาแก้ไขให้ฟรี ผมว่าทำแบบนี้น่าจะได้ใจลูกค้ามากกว่าจะมาโบ้ยบอกว่ายี่ห้อโน้นยี่ห้อนี้ก็เป็นครับ
บันทึกการเข้า

นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด
นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชา
นักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา
นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรธรรม
นักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ
tpp
True Love Always
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8402



อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 21:01:45 »

ผมใช้ nokia ครับ มอไซด์ล้มโทสับกระจาย ยังเอามาประกอบโทรหาเพื่อนได้เลยครับ เง้อ
บันทึกการเข้า
Venom-Crusher
สมาชิกกลุ่ม ยสตน.
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15962


I'm Stand Between Hell and Earth.


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2010, 21:57:12 »

ของแพงใช่ว่าจะดีเสมอไปครับ โรเล็กซ์ยังเดินไม่ค่อยตรงเวลาเลยครับ

TAG ผมใส่ไปๆเร็วขึ้นมาเองอีก 5นาที เง้อออ เปลี่ยนไปใส่ Casio ดีกว่า อิอิกำ
จริง ๆ เป็นธรรมดาของนาฬิกาออโตครับที่มันต้องเดินช้าหรือเร็วขึ้นไม่มากก็น้อยครับ แท็กผมก็เป็นครับ พอครบอาทิตย์ก็ต้องมาปรับกันนิดหน่อย ส่วนโรเล็กซ์ผมว่าเครื่องมันเยี่ยมนะครับ เรือนที่ผมใส่อยู่อาทิตย์นึงเคลื่อนไม่เกิน 30 วินาที

ท่านน่อมที่ว่าใส่ ๆ ไปเร็๋วไป 5 นาทีนี่ ทิ้งไว้กี่วันครับ ถ้าอาทิตย์นึงเคลื่อน 5 นาทีนี่ ผมว่าต้องส่งศูนย์แล้วล้างเครื่องปรับจูนกันใหม่ครับ

tag ผมใส่ถ่านครับ 5ปีแล้วยังไม่เปลี่ยนเลย เร็วขึ้น 5นาที เง้ออออ
บันทึกการเข้า



It's hard to be righteous, but it easy to be evil.
หน้า: [1] 2 3   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: